10 วิธีสุดแปลกที่ใช้รักษา"ผู้ป่วยทางจิต"ของแพทย์ในสมัยก่อน (สยองแล้วยังไม่ได้ผลอีกด้วย)

เรียบเรียงโดย Clipmass.com

 

ปัญหาทางด้านสุขภาพจิตอาจเกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตุด้วยกัน ดังนั้นจึงต้องมีการคิดค้นวิธีการรักษาให้เหมาะสมเพื่อให้ผู้ป่วยหายเป็นปกติและสามารถกลับมาใช้ชีวิตในสังคมได้ตามปกติ แต่เนื่องจากในสมัยก่อนนั้นวิทยาการทางการแพทย์ยังไม่เจริญก้าวหน้ามากนัก ทำให้มีวิธีการรักษาผู้ป่วยทางจิตตามมีตามเกิด หรือเป็นวิธีแปลกๆ ที่ออกจะพิสดารเป็นอย่าง 

 

1. วารีบำบัด

 

เป็นขั้นตอนการรักษาผู้ป่วยทางจิตด้วย "น้ำ" โดยการให้ผู้ป่วยอาบน้ำหลากหลายประเภทด้วยกันทั้งเย็นและร้อน รวมทั้งบางครั้งก็ให้นอนแช่ในอ่างน้ำ ซึ่งวิธีการรักษานี้ยังไม่สามารถสรุปได้แน่นอนว่าสามารถรักษาให้หายได้จริงหรือไม่

 

2. การอดนอน

 

โดยทางโรงพยาบาล Camarillo Mental Hospital คิดว่าการอดนอนเป็นการรักษาผู้ป่วยที่ตกอยู่ในภาวะซึมเศร้าได้ดี แต่แท้จริงแล้วการอดนอนเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้เกิดภาวะซึมเศร้าได้ต่างหาก

 

3. การฉีดเชื้อมาลาเรีย

 

โดยในสมัยก่อนนั้นมีการนำเชื้อมาลาเรียมาฉีดให้กับผู้ป่วย neurosyphilis เพราะคิดว่าจะสามารถรักษาได้ แต่เชื้อมาลาเรียกลับทำให้เกิดไข้ และการเผาไหม้ของเชื้อซิฟิลิส

 

4. การทำหมัน

 

โดย Dr. Julius Wagner-Jauregg เป็นผู้ที่คิดค้นวิธีการรักษาแบบนี้ขึ้น และจะทำได้ก็ต่อเมื่อผู้ป่วยทางจิตยินยอมแล้วเท่านั้น โดยนิยมใช้กับผู้ป่วยทางจิตที่มีพฤติกรรมเกี่ยวกับ sex

 

5. The Utica crib

 

เป็นวิธีการรักษาทางจิตเวชโดยให้ผู้ป่วยนอนในเตียงที่ล้อมรอบด้วยกรง ซึ่งจะใช้กับผู้ป่วยทางจิตที่มีอาการอยู่นิ่งไม่ได้ ซึ่งไม่ได้ช่วยทำให้พวกเขาดีขึ้นเลย แต่กลับทำให้ผู้ป่วยรู้สึกหวาดกลัวมากขึ้นนั่นเอง

 

6. การบำบัดด้วยกระแสไฟฟ้า

 

เป็นการรักษาผู้ป่วยทางจิตด้วยการใช้กระแสไฟฟ้าช็อตที่บริเวณหัวของผู้ป่วยทางจิต ซึ่งมันไม่ได้ช่วยรักษาแต่กลับทำให้ผู้ป่วยบางคนสูญเสียความทรงจำบางส่วนไป และยังอันตรายมากอีกด้วย

 

7. การบำบัดด้วยอินซูลิน

 

โดยการฉีดอิซูลินในปริมาณมากเป็นวิธีการรักษาผู้ป่วยจิตเภทที่ Dr. Manfred Sakel ได้คิดค้นขึ้น โดยเขาเชื่อว่ามันจะช่วยรักษาผู้ป่วยที่มีอาการโคม่าให้หายขาดได้ แต่แท้จริงแล้วมันกลับไม่ได้ช่วยอะไรเลย

 

8. การผ่าตัดเซลล์ประสาท

 

ในศตวรรษที่ 20 จิตแพทย์สมัยนั้นคิดว่าความเจ็บปวดในโรคทางจิตเกิดจากเส้นประสาทในสมองขาดออกจากกัน จึงต้องรักษาด้วยการผ่าตัด แต่แท้จริงแล้วมันไม่ได้ช่วยอะไรเลย

 

9. การกำจัดอวัยวะ

 

 

ในช่วงศตวรรษที่ 20 Dr. Henry Cotton คิดว่าความผิดปกติทางจิตเกิดจากการติดเชื้อแบคทีเรียที่อวัยวะ ดังนั้นเพื่อรักษาอาการทางจิตจึงต้องตัดอวัยวะที่ติดเชื้อออกจากร่างกาย ทำให้ผู้ป่วยเสี่ยงต่อการตายสูงมาก

 

10. การเจาะกะโหลกศีรษะ

 

เป็นวิธีการรักษาผู้ป่วยที่มีอาการปวดหัวไมเกรน รวมถึงปวดส่วนต่างๆ ตามร่างกายของศัลยแพทย์ในสมัยก่อน โดยเชื่อว่าการเจาะกะโหลกศีรษะจะช่วยขับไล่วิญญาณร้าย และหายจากอาการทางจิด แต่ผู้ป่วยที่ถูกรักษาด้วยวิธีนี้กลับไม่มีชีวิตรอดเลยสักราย

 

ข้อมูลและภาพประกอบจาก  

 

กรุณา Login เพื่อแสดงความคิดเห็น
ส่ง Scoop ให้เพื่อน
แจ้งลบไม่เหมาะสม
ความคิดเห็น

เรื่องอื่นๆ ที่น่าสนใจ

Loading...