กาลเวลา เปลี่ยน การดำเนินชีวิต ย่อมเปลี่ยนตาม

ก้อ ญาติ โยม ถวาย ละมั้งง

แทนที่ จะให้เงิน ก้อเปลี่ยนเป็น ให้ของที่ต้องการเลย สิครับบ

เหมือนความเห็น 2 ฮะ  ส่วนเรื่องปัจจัยเพิ่มเติมน่าจะเป้นการบริจาคมากกว่า ตามตู้ในวัด

ผมเห็นบ่อย..ที่พันทิพย์ยืนเลือกซีดี..ไม่รุ้ซีดีอะไรไม่อยากคิด..แต่ไม่ใช่ซีดีพระไตรปิฎกแน่นอน

เห็นแล้วอยากเดินเข้าไปตบกบาล...

เสก

ผมรักคน โพส คับ  น่ารัก อ่ะ

หนทางมี 2 ทางเลือก

1. ขอนางแต่งงาน

2. สำรวมกิเลสตน

คห.4 ฮาาาา ม๊ากกกกกกก อ่ะ

 ธรรมชาติลงโทษ .... กาลเวลาผ่าน พระเปลี่ยน .... กิเลสหมุนตามเข็มนาฬิกา มีแต่ธรรมะเท่านั้น .... ที่จะหยุดกรรมนี้ได้ .... ฉันไดก็ ฉันเพล อยู่ดี ..... ศรัทธาคือแรงลม หมุนเปลี่ยนทิศทาง หากแต่ว่า กงจักรมาบังตา จึงเห็นกิเลสเหล่านั้นเป็นสิ่งสวยงาม

การจะเป็นพระดีๆสมัยนี้ก้อน่าจะทำยากกว่ามะสมัยก่อนนะคะ เพราะ กิเลสมันเยอะขึ้นมาก สมัยปู่ยังหนุ่มๆปู่บอกไม่รู้จัก ไอเพด ไอพอด vcd dvd  ..โคโยตี้ ....เอิ๊กกๆๆๆ

เป็นเรื่องของยุคสมัยที่เปลี่ยนไป ความเจริญของวัตถุ(แต่สวนทางกับใจที่...เสื่อมลง)

มันจำเป็นที่พระต้องมีปัจจัย ถ้าเป็นสมัยพุทธกาล สิ่งนี้คือ"โลกวัชชะ" แต่ยุคนั้น

กุฎิไม่ต้องจ่ายค่าน้ำหรือค่าไฟ ไม่ต้องจ่ายค่าเดินทางรถ-เรือ เพราะโลกปัจจุบันจะดำรงอยู่ได้

ต้องอาศัยปัจจัยที่เรียกว่าเงิน ผมว่าไม่ผิดหากพระจะรับปัจจัย แต่ต้องดูว่าเจตนาท่านไว้ใช้จ่าย

พอเหมาะหรือสมควรกับการครองบรรพชิต แต่ก็มีพระที่ท่านไม่รับเหมือนกัน ส่วนใหญ่ท่านจะเน้น

วิปัสสนากรรมฐาน

สมัยก่อนห้ามรับจริงๆ    ป่วยก็สมุนไพร  น้ำก็มาจากธรรมชาติ  ไฟก็จุดตะเกียง  อาหารก็บิณฯ เอา พระไม่มีกิเลส

ไม่มีพวกหาผลประโยชน์กับศาสนา  ชาวบ้านร่วมแรงสร้างโบสถ์จากแรงศรัทธา

สมัยนี้  ป่วยไม่มีเงินก็ตาย  น้ำไฟ ก็เสียเงิน มีพวกหากินกับศาสนาเยอะ มีกรรมการวัด  ไม่อยากจะเหลาเดี๊ยวแหลม ไปกว่านี้

ค ห 12  ถูกน่ะครับ

ป๊มว่าเราควรมองตามกาล มากกว่าครับ อย่างความเห็นที12 พูดนั้นหล่ะครับ

พวกเราเองไม่ได้ ตามดูแลท่านตลอดนี่ครับ ถ้าท่านเจ็บไข้ หรือแม้ แต่เดินท่างเอง

ต้องใช้ปัจจัยสี่ ทั้งนั้น หรือว่า จะให้ท่านนั่งรถฟรี แล้วจะมีใคร กล้าจ่ายค่ารถให้

ค่ารักษา ต่างๆมั้งล่ะ  เพราะฉะนั้นควรมองตาม กาลจะดีกว่าครับ

มันเปลี่ยนไปตามยุคตามสมัยครับพระที่ดีๆก้อมีพระนอกรีดก้อมีเห็นอยู่บ่อยๆครับ