วิตามินบี 12 เป็นวิตามินที่ละลายในน้ำที่มีอยู่ตามธรรมชาติ

ในอาหารบางชนิดเพิ่มให้กับผู้อื่นและมีเป็นอาหารเสริมและยาตามใบสั่งแพทย์ วิตามินบี 12 มีอยู่ในหลายรูปแบบและมีโคบอลต์แร่ ดังนั้นสารประกอบที่มีกิจกรรมของวิตามินบี 12 จะถูกเรียกรวมกันว่า“ โคบอลต์” Methylcobalamin และ 5-deoxyadenosylcobalamin เป็นรูปแบบของวิตามินบี 12 ที่มีการใช้งานในการเผาผลาญของมนุษย์ 

วิตามินบี 12 เป็นสิ่งจำเป็นสำหรับการสร้างเซลล์เม็ดเลือดแดงที่เหมาะสมฟังก์ชั่นทางระบบประสาทและการสังเคราะห์ดีเอ็นเอ  วิตามินบี 12 ทำหน้าที่เป็นโคแฟคเตอร์สำหรับ methionine synthase และ L-methylmalonyl-CoA mutase Methionine synthase เร่งปฏิกิริยาการเปลี่ยน homocysteine ​​เป็น methionine เมไทโอนีนเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับการสร้าง S-adenosylmethionine ซึ่งเป็นผู้บริจาคเมธิลสากลสำหรับสารตั้งต้นเกือบ 100 ชนิดรวมถึง DNA, RNA, ฮอร์โมน, โปรตีน, และไขมัน L-methylmalonyl-CoA mutase แปลง L-methylmalonyl-CoA เป็น succinyl-CoA ในการสลายตัวของ propionate ปฏิกิริยาทางชีวเคมีที่จำเป็นในการเผาผลาญไขมันและโปรตีน Succinyl-CoA ยังจำเป็นสำหรับการสังเคราะห์ฮีโมโกลบิน

วิตามินบี 12 ซึ่งจับกับโปรตีนในอาหารถูกปลดปล่อยจากกิจกรรมของกรดไฮโดรคลอริกและโปรตีเอสในกระเพาะอาหาร เมื่อมีการเพิ่มวิตามิน B12 สังเคราะห์ลงในอาหารเสริมและอาหารเสริมมันมีอยู่ในรูปแบบอิสระแล้วดังนั้นจึงไม่จำเป็นต้องมีขั้นตอนการแยกสารนี้ วิตามินบี 12 ฟรีจากนั้นรวมกับปัจจัยภายใน, ไกลโคโปรตีนที่หลั่งโดยเซลล์ข้างขม่อมของกระเพาะอาหาร, และผลที่ซับซ้อนได้รับการดูดซึมภายในปลายลำไส้เล็กส่วนปลายโดยการรับเอนโดไซโตซิส  ประมาณ 56% ของปริมาณวิตามินบี 12 ในช่องปาก 1 ไมโครกรัมจะถูกดูดซึม แต่การดูดซึมจะลดลงอย่างมากเมื่อความสามารถของปัจจัยภายในนั้นเกิน (ที่ 1-2 วิตามินซีของวิตามินบี 12) 

Best content supported by lucabetasia.com
เว็บ บาคาร่า อันหนึ่งในไทย

โรคโลหิตจางที่เป็นอันตรายเป็นโรคแพ้ภูมิตัวเองที่มีผลต่อเยื่อบุกระเพาะอาหารและส่งผลให้ฝ่อในกระเพาะอาหาร สิ่งนี้นำไปสู่การทำลายเซลล์ parietal, achlorhydria และความล้มเหลวในการผลิตปัจจัยภายในทำให้วิตามินบี 12 malabsorption  หากภาวะโลหิตจางที่เป็นอันตรายนั้นไม่ได้รับการรักษาจะทำให้เกิดการขาดวิตามินบี 12 ซึ่งนำไปสู่โรคโลหิตจาง megaloblastic และความผิดปกติของระบบประสาทแม้ว่าจะมีปริมาณวิตามินบี 12 ที่เพียงพอก็ตาม

โดยทั่วไปสถานะของวิตามินบี 12 จะถูกประเมินผ่านซีรัมหรือระดับวิตามินบี 12 ในเลือด ค่าต่ำกว่าประมาณ 170–250 pg / mL (120–180 picomol / L) สำหรับผู้ใหญ่ บ่งบอกถึงการขาดวิตามินบี 12 อย่างไรก็ตามหลักฐานชี้ให้เห็นว่าความเข้มข้นของวิตามินบี 12 ในซีรัมอาจไม่สะท้อนความเข้มข้นของเซลล์ในร่างกายอย่างถูกต้อง  ระดับ homocysteine ​​ในซีรั่มที่ยกระดับ (ค่า> 13 micromol / L)  อาจแนะนำการขาดวิตามินบี 12 อย่างไรก็ตามตัวบ่งชี้นี้มีความจำเพาะต่ำเนื่องจากได้รับอิทธิพลจากปัจจัยอื่นเช่นวิตามิน B6 หรือโฟเลตในระดับต่ำ  ระดับกรด methylmalonic ที่สูงขึ้น (ค่า> 0.4 micromol / L) อาจเป็นตัวบ่งชี้สถานะวิตามินบี 12 ที่เชื่อถือได้มากขึ้นเพราะมันบ่งบอกถึงการเปลี่ยนแปลงทางเมแทบอลิซึมที่เฉพาะเจาะจงกับการขาดวิตามินบี 12 

แนะนำการบริโภค

คำแนะนำการบริโภควิตามินบี 12 และสารอาหารอื่น ๆ ที่มีอยู่ในอาหารอ้างอิงบริโภค (DRIs) พัฒนาโดยคณะกรรมการอาหารและโภชนาการ (FNB) ที่สถาบันการแพทย์ (IOM) ของสถาบันการศึกษาแห่งชาติ (ก่อนสถาบันวิทยาศาสตร์แห่งชาติ) . DRI เป็นคำทั่วไปสำหรับชุดค่าอ้างอิงที่ใช้สำหรับการวางแผนและประเมินการบริโภคสารอาหารของคนที่มีสุขภาพ ค่าเหล่านี้ซึ่งแตกต่างกันไปตามอายุและเพศ รวมถึง:

• ค่าเผื่อการบริโภคอาหารที่แนะนำ (RDA): ระดับเฉลี่ยต่อวันของการบริโภคที่เพียงพอที่จะตอบสนองความต้องการสารอาหารของเกือบทั้งหมด (97% -98%) บุคคลที่มีสุขภาพดี; มักใช้ในการวางแผนอาหารที่เพียงพอทางโภชนาการสำหรับบุคคล
• การบริโภคที่เพียงพอ (AI): การบริโภคในระดับนี้จะถือว่ามีความเพียงพอทางโภชนาการ ก่อตั้งขึ้นเมื่อหลักฐานไม่เพียงพอที่จะพัฒนา RDA
• Estimated Average Requirement (EAR): ระดับการบริโภคเฉลี่ยต่อวันโดยประมาณเพื่อตอบสนองความต้องการ 50% ของผู้ที่มีสุขภาพดี; มักจะใช้ในการประเมินการบริโภคสารอาหารของกลุ่มคนและการวางแผนอาหารที่เพียงพอทางโภชนาการสำหรับพวกเขา; ยังสามารถใช้เพื่อประเมินการบริโภคสารอาหารของแต่ละบุคคล
• ระดับบนที่ทนได้ (UL): การบริโภคสูงสุดต่อวันไม่น่าจะทำให้เกิดผลเสียต่อสุขภาพ

ตารางที่ 1 แสดงรายการ RDA ปัจจุบันสำหรับวิตามินบี 12 ในไมโครกรัม (mcg)  สำหรับทารกอายุ 0 ถึง 12 เดือน FNB ได้จัดตั้ง AI สำหรับวิตามินบี 12 ที่เทียบเท่ากับปริมาณเฉลี่ยของวิตามินบี 12 ในทารกที่มีสุขภาพดีและกินนมแม่