ทึ่ง..เปรียบเทียบการใช้ชีวิตด้วยเงิน 10,000 เยนในประเทศไทย VS ญี่ปุ่น

เรียบเรียงโดย Clipmass.com



 

โดยเรื่องราว "การใช้ชีวิตด้วยเงิน 10,000 เยน ในประเทศไทย VS ประเทศญี่ปุ่น จะมีความเป็นอยู่แตกต่างกันมากขนาดไหน...?" เกิดจากเกมกระดานยอดฮิตที่ชื่อว่า "Line get rich" หรือที่เรารู้จักกันเป็นอย่างดีว่า "เกมเศรษฐี" นั่นเอง ซึ่งเกมนี้ในประเทศญี่ปุ่นนั้น เมืองไทยเป็นเมืองที่มีค่าที่ถูกเป็นอันดับต้นๆ ก็ว่าได้   



ประเทศญี่ปุ่น (โตเกียว) เฉลี่ย 264,000 เยน




 

 

 

ประเทศไทย (กรุงเทพมหานคร) เฉลี่ย 32,000 เยน




 

 


ดังนั้นจึงมีชายชาวญี่ปุ่นคนหนึ่งเกิดอยากพิสูจน์ว่า มันจะดีจริงหรือไม่ถ้าเรามาอาศัยอยู่ในประเทศไทยระยะยาว...? ซึ่งก็ได้มีคนออกมาแย้งว่า ในประเทศที่ค่าที่ถูกนั้นไม่ได้แปลว่าค่าครองชีพส่วนอื่นๆ จะถูกตามไปด้วย ดังนั้นจึงมีการตั้งโจทย์ขึ้นมาเพื่อพิสูจน์ให้รู้แน่ชัดกันไปเลยว่า จำนวนเงินเพียง 10,000 เยน ในประเทศไทย VS ประเทศญี่ปุ่น จะสามารถใช้ชีวิตได้กินดีมีสุขขนาดไหน...?



 


 

 

 

ประเทศไทย : เรื่องอาหารการกิน



 

 

นักเขียน ARuFa: สวัสดี ผมนั่งเครื่องบินมา 6 ชั่วโมงเพื่อพิสูจน์ว่าราคาของในไทยจะถูกว่าญี่ปุ่นจริงไหม? ที่ญี่ปุ่นเวลาหิวผมได้แค่กินน้ำและน้ำร้อน มาดูกันว่าผมจะสามารถใช้ชีวิตอย่างร่ำรวยที่ประเทศไทยได้ไหม? นี่ผมยังไม่ได้กินอะไรมาเลย ฉะนั้นเรามาเริ่มที่อาหารกันก่อนแล้วกัน

 


 


 

โดยเขาเลือกร้านอาหารข้างทาง แต่เขาอ่านเมนูไม่ออกเลย ดังนั้นเขาจึงบอกแม่ค้าไปว่า "เอาอะไรก็ได้ที่ไม่เกิน 1,000 เยน" ซึ่งในความคิดเขานั้นคงได้อาหารสักอย่างสองอย่างแน่นอน 

 


 

 

แต่ปรากฎว่า สิ่งที่ได้นั้นทำให้เขาตะลึงเลยทีเดียว เพราะมันเป็นอาหารที่สามารถกินกันได้มากถึง 4 คนเลยทีเดียว ด้วยจำนวนเงินเพียง 984 เยน (275 บาท)



 

 

ดังนั้นชั่วโมงแรกที่มาถึงประเทศไทย เขาเหลือเงินอีก 8265 เยน



ประเทศญี่ปุ่น : เรื่องอาหารการกิน


 


 

 

นักเขียน Harajuku: สวัสดี วันนี้เราได้โจทย์ภารกิจให้ใช้ชีวิตอย่างร่ำรวยด้วยเงิน 10,000 เยน เรามาเริ่มจากข้าวกลางวันกันดีกว่า

 


 

 

เขาเลือกมื้อกลางวันเป็นข้าวกล่องเมนู "ข้าวหน้าเนื้อ"



 

 

ในราคา...10,000 เยน



 

 

ไม่น่าเชื่ออาหารมื้อเดียวทำเอาเงินหมดเลย



 

 

ดังนั้นการใช้ชีวิตจึงจบลงด้วยข้าวมื้อเดียว



 

 

 


ประเทศไทย : เรื่องการช้อปปิ้ง

 


 

 

หัลงจากที่ทานข้าวเสร็จ เขาก็อยากได้เสื้อตัวใหม่ เพราะเสื้อที่เขาใส่นั้น ดูไม่เข้ากับการมาประเทศไทยเลย เพราะมันเขียนว่า "ฉันกลับมานิวยอร์คแล้ว"



 

 

ดังนั้นเขาจึงเดินไปที่ร้านขายเส้อ แล้วบอกว่า "เอาเสื้อตัวที่ถูกที่สุดในร้านครับ" เขาจึงได้เสื้อตัวให่ในราคา 358 เยน (100 บาท)



 

 

จากนั้นเขารู้สึกคอแห้งจึงเดินเข้าร้านสะดวกซื้อ และเลือกซื้อน้ำดื่ม 600 ml ในราคา 25 เยน (7 บาท) ซึ่งถ้าเป็นในประเทศญี่ปุ่นนั้น น้ำดื่ม 500 ml จะมีราคา 120 เยน ซึ่งน้ำเปล่าเพียงขวดเดียวในญี่ปุ่นสามารถซื้อน้ำเปล่าในเมืองไทยได้มากถึง 5 ขวดเลยทีเดียว



 

 

หลังจากนั้นเขาก็ไปเดินช้อปปิ้งต่อ สร้อยข้อมือราคาเพียง 72 เยน (20 บาท)



 


 


 

 

ซึ่งที่นี่มีของให้เลือกมากมายตั้งแต่สร้อยข้อมือ สร้องคอทอง และแว่นทองคำนี่ราคาเพียง 358 เยนเท่านั้น (100 บาท) ซึ่งหลังจากการช้อปปิ้ง ดังนั้นวันนี้เขาเหลือเงิน 5769 เยน



ประเทศญี่ปุ่น : เรื่องการช้อปปิ้ง



 

 

เขาไม่สามารถทำอะไรได้เลย เนื่องจากเงินหมดไปกับค่าข้างกล่องมื้อกลางวันแล้ว



 

 


ประเทศไทย : เรื่องความบันเทิง



 

 

เขาเดินทางมาที่ "พารากอน" ห้างสรรพสินค้าขนาดใหญ่แห่งหนึ่งในกรุงเทพ



 

 

ARuFa จึงตัดสินใจว่าจะดูหนังฮอลีลูดที่ยังไม่ฉายในญี่ปุ่น


และเมื่อเวลา 1 ชั่วโมงครึ่งผ่านไป ด้วยผิดพลาดทางเทคนิคเล็กน้อย ทำให้ ARuFa จองผิดเป็นภาษาไทยล้วน ๆ เรียกได้ว่าเป็นการดูหนังที่ไม่มีความเข้าใจเลยแม้แต่ประโยคเดียว



 


 

 

จากนั้นเขาก็ได้เดินทางไปพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำที่อยู่ชั้นใต้ดินอีกด้วย



 

 

โดยมีค่าเข้าในราคา 1625 เยน (450 บาท) ดังนั้นเขาเหลือเงิน 4,982 เยน



 


 

 

 


ประเทศญี่ปุ่น : เรื่องความบันเทิง



 

 

เป็นความบันเทิงที่ไม่เสียค่าใช้จ่าย ก็สามารถลิ้มรสความเป็นเศรษฐีในราคา o เยน เอาหล่ะ ซื้ออาคารในลอนดอนดีกว่า



 

 

และก็..พ่ายแพ้อีกครั้ง



ประเทศไทย : การผ่อนคลาย

 

 

ARuFa  ตั้งใจว่าจะนวดแผนไทย



 

 

แต่น่าทึ่งนวดเสร็จแล้วรู้สึกสบาย โดยเสียค่านวด 1 ชั่วโมงในราคา 1,074 เยน (300 บาท) ซึ่งเป็นการนวดที่คล้ายกันกับในประเทศญี่ปุ่น แต่ในญี่ปุ่นมีราคา 4,000 - 6,000 เยนเลยทีเดียว



 


 

 

หลังจากใช้ชีวิตอย่างอิ่มหนำ ทั้งทานอาหาร ช็อปปิ้ง ดูหนัง เข้าชมพิพิธภัณฑ์ และผ่อนคลายด้วยการนวดแล้ว ARuFa  เหลือเงินจำนวน 3,908 เยน



ประเทศญี่ปุ่น : การผ่อนคลาย



 

 


ประเทศไทย : โรงแรม


โดยโรงแรมที่จองไว้มีราคา 2,200 เยน (615 บาท) ซึ่งเป็นโรงแรมที่มีราคาถูกที่สุดเท่าที่จะหาได้ ดังนั้น ARuFa จึงคิดว่าต้องเป็นโรงแรมที่มีสภาพสกปรกและไม่น่านอนอย่างแน่นอน 



 

 

แต่เมื่อไปถึงโรงแรมจริงๆ เขาถึงกับอึ้งไปเลย เพราะโรงแรมมีแชนเดอเลีย และสระว่ายน้ำบริการอีกด้วย 

 


 


 


 


 

 

และหลังจากการเดินทางเขาไม่คิดเลยว่าเงิน 10,000 เยน จะมอบความมั่งคั่งให้กับเขานาดนี้

ดังนั้นเกมนี้ชัยชนะจึงตกเป็นของ ARuFa ซึ่งใช้เงินไปเพียง 8292 เยน จาก 10,000 เยน



 


 


 


 


 

 

 

 

ข้อมูลและภาพประกอบจาก 

 


กรุณา Login เพื่อแสดงความคิดเห็น
ส่ง Scoop ให้เพื่อน
แจ้งลบไม่เหมาะสม
ความคิดเห็น

เรื่องอื่นๆ ที่น่าสนใจ

Loading...