มาทำความรู้จักกับ "ส่าหรี" ชุดประจำชาติของสาวอินเดียกันดีกว่า

 

 

 

 

 

 

เวลาพูดถึง “อินเดีย” สิ่งหนึ่งที่เราจะนึกถึงก็คือผู้หญิงอินเดียใส่ส่าหรี โดยเฉพาะสาว ๆที่หลงไหลใสวัฒนธรรมอินเดีย การแต่งการของอินเดีย หรือมีแฟนอินเดีย ก็จะชอบ “ส่าหรี” กันทั้งนั้นและอยากจะลองใส่ซักครั้ง แต่ส่วนตัวเรานั้นอย่างแรกเลยคือ ใส่ส่าหรีไม่เป็นเลือกซื้อไม่เป็น เวลาจะใส่ก็ต้องพึ่งคนอื่น แม่บ้านบ้าง เพื่อนบ้าง ซึ่งเดือนหน้านี้ต้องไปร่วมงานแต่งงานญาติของสามีที่เดลี คาดการณ์ไว้ว่าจะไม่มีใครที่พึ่งได้นอกจากแม่สามี..ดังนั้นจึงตัดสินใจขั้นเด็ดขาดว่า จะหัดใส่ส่าหรีด้วยตัวเองซักที จะได้ไม่ต้องพึ่งใครอีก.. ทีนี้พอหาข้อมูลการใส่ส่าหรี ก็พบกับข้อมูลเกี่ยวกับส่าหรีที่หลากหลายจึงอยากจะเอามาแบ่งปันกัน ดังนั้นวันนี้เราจะมาทำความรู้จักกับส่าหรีให้มากขึ้นนะคะ

 

 

 

เอาตั้งแต่ความหมายกันเลยนะคะว่าส่าหรีคืออะไร (จากเวบ http://chajang.gulife.com/diary/ ไปอ่านมาเค้าให้คำจำกัดความที่ฟังแล้วเข้าใจง่าย) "ส่าหรี" เป็นเครื่องแต่งกายของหญิงชาวอินเดียซึ่งเกิดจากการนำผ้าชิ้นผืนยาวกว่า 5 เมตรมานุ่งหรือพันให้ถูกวิธี ผ้าที่นำมาทำส่าหรีนั้นมีตั้งแต่เนื้อผ้าบางเบาจนถึงผ้าไหมส่วนวิธีพันส่าหรีนั้น มีมากกว่า 30 วิธี บางครั้งวิธีแต่งการด้วยส่าหรีของผู้หญิงอินเดียสามารถบ่งบอกถึงภูมิลำเนาของเธอได้ด้วยเพราะแต่ละภูมิภาคหรือแต่ละเมืองก็มีวิธีแต่งกายด้วยส่าหรีที่เป็นเอกลักษณ์ของตนเองแตกต่างกันออกไป”

ที่เค้าบอกว่าวิธีการพันสาหรีมีมากกว่า 30 วิธี คืออะไร ที่เราเห็นมันก็ดูเหมือน ๆกันเพราะเรามองผิวเผิน แต่จริง ๆ แตกต่างกัน ลองยกตัวอย่างบางชนิดมาให้ดู

 

 

 Nivi style ต้นแบบจากเมือง Andhra Pradesh ซึ่งแบบนี้จะใส่กันเยอะและเห็นได้ทั่ว ๆ ไป

 

 

Gujarathi style แบบนี้ชายส่าหรีจะอยู่ด้านหน้า

 

 

Bangalistyle แบบนี้เค้าเอาพันไปหลังแล้วอ้อมมาข้างหน้าอีกทีถ้าดูตามรูป

 

 

Tamilian style สำหรับคนตามิลหรือทมิฬแบบนี้เค้าจะเอามาพันเอวด้วย

 

เอาคร่าว ๆ แค่นี้ก่อนละกันนอกจากวิธีการพันที่แตกต่างกันแล้วเนื้อผ้าบางชนิดก็ยังบ่งบอกถึงภูมิลำเนาด้วยตามที่เค้าว่าไว้ข้างต้น

เริ่มต้นตั้งแต่หาซื้อส่าหรีกันเลย ซึ่งเราไม่มีความรู้เกี่ยวกับเรื่องนี้เลยแม้ซักนิดเดียว ก็อาศัยถามเพื่อน ๆ สาว ๆอินเดียว่าอยากได้ส่าหรีซักชุดเพื่อใส่ไปงานแต่งญาติสามี เอางัยดีเพื่อนก็บอกแนะว่าอยากได้แบบไหน..เราก็ควักเอารูปนางเอกอินเดียสองสามคนที่ใส่ส่าหรีแล้วชอบออกมาให้เพื่อนดู ว่าอยากได้แบบนี้อะเพื่อนก็บอกว่างั้นก็ต้องเอาผ้าแบบนี้ ถ้าอยากใส่แล้วให้ดูผอมสวยต้องใช้ผ้าที่นิ่มๆ ทิ้ง ๆ เช่นพวกประมาณจอร์เจีย ชีฟองรัยแบบนี้ ถ้าจะเอาเซะซี่เซะซี่หน่อยก็เอาผ้าnet ที่มันเป็นซีทรูสามารถเห็นอะไรต่อมิอะไรด้านในได้แต่ถ้าจะเอาแบบดูเรียบร้อยภูมิฐานดูดีมีสกุลก็ควรจะเป็นผ้าไหมอะไรประมาณนี้..เราก็แบบว่า ตรูงง จะเอาแบบไหนดีวะ เลยไปดู ๆในเวบที่เค้ามีขายออนไลน์แล้วดูนางแบบที่เค้าใส่ ก็เลือกมาได้ชุดนึงแบบว่านางแบบใส่สวยมั่ก หวังว่าเราคงจะใส่ได้สวยเหมือนแบบเน้

 

 

 

หลังจากที่ได้รับมาแล้วก็เปิดกล่องมาดูก็เป็นผ้าเย็บติดกันยาวมาก เราก็ไม่กล้าแม้แต่จะเปิดออกมาเพราะมันพับยากมั่กยากกว่าพับผ้าปูที่นอน เพราะมันยาวกว่า เลยปิดเอาไว้อย่างนั้นก่อนแล้วก็จัดการดำเนินการขั้นต่อไป

 

 

 

ขั้นต่อไปหลังจากได้ส่าหรีมาแล้วก็ต้องไปนี่เลยหาช่างตัดเสื้อผ้า และเอาผ้าที่ได้มาทั้งหมดไปให้เค้าซึ่งจะต้องจัดการสั่งตัดแต่ละชิ้นส่วนดังนี้

1. Blouse เสื้อตัวสั้นที่ใส่แบบรัดรูปอยู่ด้านในซึ่งสั้นแค่ใต้นมเพราะมันจะต้องเห็นพุงกันถ้วนหน้า ถ้าไม่เห็นพุงไม่ใช่ส่าหรีและจะต้องตัดแบบพอดีตัวมาก ๆ กึ่ง ๆ คับอีกต่างหาก..ไอ้เราก็แบบว่ากังวัลมาก ๆเพราะพุงมีแต่ไขมันล้วน ๆ เป็นคลื่น ๆ กันมาเชียว แต่เคยเห็นเพื่อน ๆ หลาย ๆ คนบางคนอ้วนพุงหลาม ยังใส่ออกมาดดี เอาวะเราคงไม่น่าเกลียดเท่าไร ช่างก็ควักเอาเมนูมาเลย บอกว่าเอาคอแบบไหนดีแขนแบบไหน แขนกุดหรือมีแขนหรือเป็นสายเดี่ยว จะเอาติดกระดุมกลัดด้านหน้าหรือด้านหลังซึ่งส่าหรีนี้ส่วนมากด้านหน้าเค้าจะไม่ออกแบบหวือหวามากแต่จะเป็นด้านหลังมากกว่าที่จะมีอะไรพิเศษเช่นเว้าโชว์แผ่นหลังมากน้อยตามความต้องการมีถึงกระทั้งเว้าลงมากลางหลังแบบไม่ต้องใส่เสื้อในก็มีเค้าก็จะเย็บให้มันรัดกุมแบบไม่ต้องใส่เสื้อในก็ได้ หรือออกแบบให้มีผูกตรงคอบ้างแล้วเอาลูกปัดมาติด

 

 

นั่งดูไปเรื่อย ๆ ก็เพลินดีจนเค้าบอก เน่ เน่เลือกได้ยาง..สรุปก็บอกให้เค้าเลือกให้ -_-‘ แล้วก็ได้มาแบบนี้ตามรูปล่าง (ช่างเค้าเย็บมาซะนมแหลมเชีย ถามเค้ามัยมันแหลม ๆ เค้าบอกว่ามันต้องเป็นทรงแบบนี้แล..)

 

 

2. Petticoat ปะติโค้ท คือกระโปรงที่ใส่ด้านในส่าหรี เป็นผ้าแบบธรรมดา ๆต้องเป็นสีเดียวกับด้านนอกส่าหรี ใส่เพื่อไม่ให้เห็นอะไรต่อมิอะไรด้านในที่นี่ก็จะมีแบบสำเร็จ หรือแบบไปซื้อผ้ามาตัดเอง ตามรูปล่างซ้ายมือ

 

 

3. ผ้าส่าหรี ตามรูปบนด้านขวา จะมีสองส่วนคือส่วนบนและล่างจะเย็บติดกันส่วนบนจนถึงชายผ้าเค้าเรียกว่า Pallu ซึ่งจริง ๆแล้วไม่ต้องทำอะไรก็ได้แต่ถ้าอยากใส่แล้วออกมาสวยขึ้นเค้าจะมีเทคนิคที่เรียกว่าติดฟอล (fall) คือเค้าจะเอาผ้าหนัก ๆ หน่อยมาเย็บติดที่ชาย ทำให้ชายผ้ามันหนักขึ้นหน่อยให้มันดูทิ้งๆ แล้วจะใส่ออกมาสวยงาม ดูตามรูปนะ

 

 

รูปซ้ายคือชายผ้าด้านในที่ยังไม่ได้เย็บฟอล รูปขวาที่เย็บแล้ว ร้านนี้เย็บแบบชาวบ้าน ๆ หน่อยคือเอาเศษผ้ามาติด ถ้าฟอลสำเร็จที่เค้าเอามาเย็บก็จะเป็นแบบนี้ตามรูปล่าง

 

 

4. เครื่องประดับ จริง ๆก็ไม่ได้มาพร้อมส่าหรีหรอกนะ แต่เป็นอะไรที่ขาดไม่ได้เลยทีเดียวเพราะถ้าใส่ส่าหรีไม่มีเครื่องประดับเหมือนใส่กระโปรงแล้วไม่ใส่กางเกงใน(มันเปรียบเทียบกันได้มั้ยอะ)และเครื่องประดับนี้จะต้องเข้ากั้นเข้ากันกับสีของส่าหรี เช่นถ้าส่าหรีสีเขียวเครื่องประดับก็จะต้องหามาประมาณโทนเขียว หรือเป็นมุกสีขาวไปเลยถ้าหาไม่ได้หรือบางคนก็ขี้เกียจก็เอาทองมาห้อยคอกันไปแต่ถ้าในงานแต่งงานแต่ละคนจะต้องใส่กันมาแบบอลังการงานสร้างเพื่อเป็นหน้าตาของตัวเองและครอบครัวแต่สำหรับเจ้าสาวจะต้องเอาให้ครบองค์กันเลยทีเดียวไม่ว่าจะเป็นสร้อยที่ห้อยจากศรีษะมาหน้าผาก ตุ้มจมูก ตุ้มหูคิ้วก็ยังต้องแปะคริสตัล กำไลจัดเต็มแทบจะถึงไหล่ หรือแหวนที่ลากลงมาถึงข้อมือกำไลต้นแขน..จริง ๆน่าจะดีไซน์ออกมาเป็นแบบชุดอวกาศที่ทำจากเครื่องจิวเวลรี่ทั้งหมดเลยหมดเรื่อง ปิดมันทั่วตัวกันไปเลยทีเดียวแต่ใส่ออกมาแล้วสวยจริง ๆ

 

 

อะ ได้มาครบแล้ว ทีนี้ก็ต้องมาลองใส่ว่าเป็นอย่างไรลำบากเพื่อนอีก เรียกมานมาอีกละให้มาสอนใส่ให้หน่อย จริง ๆ ให้สอนมาสองสามรอบละแต่ก็ยังใส่เองมิได้ โดนบ่นนิด ๆ :p

ขั้นตอนแรกเดินเข้าห้องน้ำไปใส่ปะติโค้ทกับเสื้อตัวสั้นก่อน  แล้วเพื่อนก็แงะผ้าส่าหรีออกมารูด ๆ รีด ๆ จนถึงชายแล้วจับผ้าที่เป็นชิ้นล่างเอามาเริ่มพันแล้วคับท่านพันตรงเอวสองด้านแล้วเหน็บเข้าไปในปะติโค้ทวนซ้ายขวา

 

 

 อย่ามองท่อนแขนนะ (อย่างนี้เค้าเรียกกระทู้พลีชีพป่าวเนี่ย -_-')

 

เสร็จแล้วก็มาจับจีบผ้าชิ้นส่วนบนทำให้มันเป็นจีบใหญ่ ๆแล้วก็พันต่อและส่วนที่เหลือก็เหน็บเข้าปะติโค้ทอีกโดยส่วนที่จับจีบเค้าจะเอาขึ้นมาพาดไหล่แบบในรูปแล้วพักไว้ แล้วก็ไปดูผ้าชิ้นล่างที่ปล่อยเหลือไว้ด้านหน้าเอามาจับจีบแล้วเอาด้านบนของจีบยัดใส่ไปในปะติโค้ทด้านหน้าเลยแล้วจัดให้มันดูดีขึ้นหน่อย

 

 

 

 

 จะออกมาเป็นแบบนี้แต่แบบนี้คือยังถือว่าไม่ค่อยเนี๊ยบเท่าไรเพราะมานรีบไปไหนของมานนแต่พอไปวัดไปวาได้

 

 

 

พนันกันเลยดีกว่าว่าหลังจากอ่านวิธีแล้วไม่มีใครเข้าใจเดี้ยนเลยว่าตกลงมันใส่ยังงัยฟระ.. เอางี้ไปดูคลิปที่เค้าสอนกันอย่างเป็นทางการและเข้าใจง่ายดีกว่า เท่าที่เสริชหามาอันนี้น่าจะเข้าใจง่ายสุดนะ

 

 

 

ถามกันมาว่า ทำมัยมันถึงลำบากอย่างเน้ พี่ ๆมีส่าหรีแบบสำเร็จรูปมั้ยเอาแบบใส่ปื๊บบออกมาสวยป๊าบบ.. จะบอกว่ามีค่าาไปดูตามคลิปนี้เลย

 

 

พี่นุ้ยที่อาศัยอยู่ประเทศญี่ปุ่นถามมาว่าที่นั่นมีโรงเรียนสอนการใส่อายิโน๊ะโมโต๊ะเอ้ยไม่ใช่ กิโมโน (ฮากันเข้าไป) ด้วย แล้วที่อินเดียมีโรงเรียนสอนใส่ส่าหรีมั้ยจะบอกว่าส่าหรีใส่ไม่ยากเท่ากิโมโนนะพี่เพราะถ้ารู้วิธีแล้วก็สามารถใส่เองได้ไม่ยาก แต่โรงเรียนสอนนั้นมีพี่แต่จะเป็นประมาณสอนเพื่อไปประกอบวิชาชีพ เช่นร้านเสริมสวย ไปเรียนการสอนวิธีพันส่าหรี150 วิธีเพื่อเอามาใส่ให้ลูกค้าเพราะปัจจุบันมีการดัดแปลงการสวมใส่ส่าหรีในแนว modern มากขึ้น ซึ่งแต่ละแบบก็สวย ๆ ทั้งนั้นเลย

 

 

ขอจบลงด้วยรูปของดาราคนโปรดกับส่าหรีนะค๊าาาถ้ามีอะไรผิดพลาดอย่างไรก็ขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วยจ้ะ ขอบคุณที่เข้ามาอ่านค่ะ  ^ - ^

 

เจ้าของกระทู้เพิ่มคลิปการสวมส่าหรีให้ดู้ด้วยค่ะ สำหรับคนที่สนใจ  ^ . ^

 

 

 

 

 

 

 

 

 

12 ก.ย. 57 เวลา 11:42 3,260 70
แชร์สกู๊ป
กรุณา Login เพื่อแสดงความคิดเห็น
ส่ง Scoop ให้เพื่อน
แจ้งลบไม่เหมาะสม
ความคิดเห็น

เรื่องอื่นๆ ที่น่าสนใจ

Loading...