“ประเพณีวันปีใหม่” ของแต่ละประเทศทั่วโลก

 

 

 

 

 

 
ประเทศไอร์แลนด์

ที่มาภาพ what the hell news

บรรดาสาวโสดในประเทศไอร์แลนด์จะรอคอยคืนวันปีใหม่เป็นพิเศษ เพราะวันนี้เชื่อกันว่าจะเป็นวันที่นำพาคนรักให้เข้ามาในชีวิต สาวชาวไอร์แลนด์จะวางใบมิสเซิลโท (mistletoe) ไว้ใต้หมอน เพื่อเป็นการอธิฐานว่าปีนี้ขอให้ได้เจอกับสามีในอนาคต นอกจากนั้นยังเชื่อว่าใบมิสเซิลโทจะช่วยขจัดโชคร้ายด้วย

 

 

ประเทศเดนมาร์ก

ที่มาภาพ what the hell news

ประเพณีแปลกๆ ในวันปีใหม่ของประเทศเดนมาร์กก็คือการปาถ้วยชามที่แตกได้ใส่ประตูบ้านของเพื่อนบ้าน ถ้าเป็นที่อื่นคงได้มีเรื่องกันแน่ๆ แต่น่าแปลกว่าสำหรับคนเดนมาร์กแล้วกลับชื่นชอบให้มีคนมาปาจานชามใส่หน้าบ้านตัวเอง และเมื่อหมดวันนั้น บ้านไหนที่มีกองถ้วยชามที่แตกกองพะเนินหน้าบ้านมากที่สุดจะถือว่าบ้านนั้นจะโชคดีมากที่สุด เพราะหมายความว่าคนบ้านนั้นมีเพื่อนและคนที่รักเยอะกว่าใครๆ นั่นเอง

นอกจากนั้น ชาวเดนมาร์กยังมีประเพณีการกระโดดลงจากเก้าอี้ตอนเวลาเที่ยงคืนของวันขึ้นปีใหม่อีกด้วย เชื่อกันว่าเพื่อเป็นการขับไล่สิ่งชั่วร้ายออกไป

ที่มาภาพ travelandleisure

 

 

ประเทศเม็กซิโก

ที่มาภาพ the twenty first floor

การติดต่อพูดคุยกับวิญญาณเป็นส่วนหนึ่งในความเชื่อของชาวเม็กซิโก ซึ่งเชื่อกันว่าคนเป็นสามารถติดต่อและพูดคุยกับวิญญาณคนตายที่เป็นคนรักหรือคนในครอบครัวได้ วันปีใหม่จะถือเป็นช่วงเวลาที่ดีที่สุดในการติดต่อสื่อสารกับวิญญาณคนตาย นอกจากเพื่อการพูดคุยถามไถ่แล้วบางครั้งก็รวมกึงการขอคำปรึกษาจากวิญญาณอีกด้วย

การติดต่อกับวิญญาณนี้จะไม่ทำที่บ้านใครบ้านมัน แต่จะไปทำในสถานที่ๆ รับทำการติดต่อกับวิญญาณอย่างถูกกฏหมาย เช่น บางโรงแรมจะมีบริการติดต่อกับวิญญาณได้คนละ 15 นาที นอกจากวันปีใหม่แล้ว ประเทศเม็กซิโกยังมี วันแห่งคนตาย (Day of the Dead)เพื่อฉลองให้กับเหล่าคนตาย ซึ่งจะจัดขึ้นวันที่ 2 พฤศจิกายนของทุกปี

 

 

ประเทศฟิลิปปินส์

ที่มาภาพ luvimages

ชาวฟิลิปปินส์จะชอบสิ่งของที่เป็นทรงกลมกันมาก ในวันปีใหม่ของทุกๆ ปีคนฟิลิปปินส์ส่วนมากจะพากันใส่เสื้อผ้าที่มีลายจุด ในร้านอาหารหรือโต๊ะอาหารที่บ้านก็จะตกแต่งกันด้วยผลไม้ที่เป็นทรงกลม และคนส่วนมากก็จะรับประทานอาหารหรือผลไม้ที่มีรูปทรงกลมกันในวันปีใหม่

ที่มาภาพ macheriefrancine

ชาวฟิลิปปินส์เชื่อกันว่า ของที่มีรูปร่างกลมเป็นสิ่งดีเพราะเหมือนกับรูปร่างของเหรียญเงิน หมายถึงความร่ำรวยและประสบความสำเร็จในปีนั้นๆ

 

 

ประเทศเอกวาดอร์

ที่มาภาพ what the hell news

โดยปกติแล้วการเผารูปภาพของใครหมายความถึงว่าคนนั้นอาจจะทำสิ่งที่ไม่ดีกับเราถึงขนาดอภัยให้ไม่ได้ แต่ในประเทศเอกวาดอร์ จะมีประเพณีที่คนในท้องถิ่นจะมารวมตัวกันเพื่อนำรูปภาพของสิ่งต่างๆ ที่ไม่ต้องการเจอหรือไม่ต้องการให้เกิดขึ้นในปีใหม่เอามาเผาทิ้ง

นอกจากนั้น ชาวเอกวาดอร์จะทำหุ่นไล่กาขึ้นมาจากหนังสือพิมพ์และเศษไม้ เมื่อถึงเวลาเที่ยงคืนแต่ละครอบครัวก็จะเผาหุ่นไล่กานั้น เชื่อกันว่าหุ่นไล่กานี้เป็นตัวแทนของสิ่งไม่ดีทั้งหลายของปีที่ผ่านมา และเมื่อเผามันทิ้งแล้วปีใหม่ก็จะเริ่มต้นได้อย่างมีความสุข

 

 

ประเทศสกอตแลนด์

ที่มาภาพ what the hell news

ประเทศสกอตแลนด์จะมีงานเทศกาลอันตรายที่ชื่อว่า Hogmanay ที่จัดขึ้นในวันที่ 31 ธันวาคมของทุกๆ ปี ในเทศกาลนี้ชายหนุ่มจะมีการเดินขบวนโดยถือลูกบอลไฟไว้ด้วย และหมุนหรือแกว่งลูกบอลไฟนั้นไปรอบๆ ตัวเอง  เทศกาลนี้มีความเป็นมายาวนานตั้งแต่ในสมัยยุคไวกิ้งเลยทีเดียว

ที่มาภาพ what the hell news

 

 

ประเทศเยอรมัน

ที่มาภาพ daad

ลองคิดภาพดูว่าทุกๆ คืนวันปีใหม่ คุณจะต้องโดนบังคับให้ดูรายการโทรทัศน์เรื่องเดิมๆ ซ้ำแล้วซ้ำเล่าทุกปี ทั้งบททั้งการแสดงเป็นแบบเดิมไม่มีอะไรใหม่ ฟังดูแล้วน่าจะน่าเบื่อมากกว่าสนุก แต่นี่คือสิ่งที่ชาวเยอรมันจะต้องได้เจอ เพราะตั้งแต่ปี ค.ศ.1972 เป็นต้นมา ทุกๆ เที่ยงคืนวันขึ้นปีใหม่ชาวเยอรมันจะดูรายการโทรทัศน์ที่ชื่อว่า “Dinner for One”

ไม่มีใครรู้แน่ชัดว่าที่มาของประเพณีเกิดขึ้นได้อย่างไร แต่อย่างไรก็ตาม ประเพณีก็ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก ดูเหมือนว่าชาวเยอรมันจะไม่รังเกียจที่จะต้องดูรายการเดิมซ้ำๆ กันทุกๆ ปี

 

 

ประเทศชิลี

ที่มาภาพ underthetruth

Talca เป็นเมืองเล็กๆ ในประเทศชิลีซึ่งมีประเพณีฉลองปีใหม่ที่แปลกและออกจะน่าขนหัวลุกอยู่สักหน่อย ชาวเมือง Talca จะฉลองปีใหม่กับคนในครอบครัวที่เสียชีวิตไปแล้ว ในช่วง 15 ปี ที่ผ่านมา ทุกๆ คืนวันปีใหม่ตอนเวลา 23 นาฬิกา นายกของเมืองจะเปิดประตูทางเข้าสุสานไว้เพื่อให้ชาวเมืองได้เข้าไปร่วมฉลองกับคนในครอบครัวที่จากไปแล้ว ในสุสานจะมีการประดับไฟสลัวๆ และมีเพลงคลาสสิคเปิดประกอบไปด้วย

ที่มาภาพ what the hell news

ชาวเมืองเชื่อกันว่า เมื่อคนตายไปแล้ววิญญาณของพวกเขาจะรอคนที่รักอยู่ในสุสาน และคนในครอบครัวก็ควรจะเริ่มต้นปีใหม่กับพวกเขาเหล่านี้ถึงแม้จะตายไปแล้ว ประเพณีเริ่มต้นขึ้นเมื่อปี ค.ศ.1995 เมื่อมีครอบครัวหนึ่งแอบเข้าไปในสุสานเพื่อฉลองวันปีใหม่กับพ่อของตัวเอง หลังจากนั้น ชาวเมืองกว่า 5,000 คนก็ทำตามจนกลายเป็นประเพณีไป

 

 

ประเทศบราซิล เม็กซิโก และโบลิเวีย

ที่มาภาพ gbooza

ชาวบราซิล เม็กซิโก โบลิเวีย และชาวเมืองในแถบอเมริกาใต้จะต้อนรับวันปีใหม่ด้วยการใส่การเกงชั้นในสีสันสดใส โดยปกติแล้วมักจะเป็นสีแดง เหลือง หรือสีสดๆ อื่นๆ เชื่อกันว่าถ้าใส่กางเกงชั้นในสีสดใสผ่านคืนวันขึ้นปีใหม่ไปแล้วจะทำให้ปีนั้นเจอแต่โชคดี อีกทั้งยังช่วยให้พบกับคนรักในอนาคตอีกด้วย

กางเกงชั้นในสีแดง หมายถึงให้ชีวิตรักมีแต่ความสุข ส่วนสีเหลืองหมายความว่า ขอให้ร่ำรวยมีเงินทองมากๆ

 

กรุณา Login เพื่อแสดงความคิดเห็น
ส่ง Scoop ให้เพื่อน
แจ้งลบไม่เหมาะสม
ความคิดเห็น

เรื่องอื่นๆ ที่น่าสนใจ

Loading...