แต่ละพื้นที่ทั่วโลกผู้คนย่อมมีวัฒนธรรมการกินที่แตกต่างกันออกไป ดังนั้นจะสังเหตได้เลยว่าแต่ละพื้นที่จะมีอาหารการกินที่หลากหลายแตกต่างกันออกไป ดังนั้นจึงไม่ต้องแปลกใจถ้าอาหารที่เรากินอยู่จะกลายเป็นของแปลกในบางที่ หรือบางครั้งอาจกลายเป็นอาหารต้องห้ามไปเลยก็ได้ เหมือนกับ 13 อาหารเหล่านี้ที่แต่กลับกลายเป็นอาหารต้อมห้ามในบางพื้นที่

1. วุ้นถ้วย

ของต้องห้ามใน : ยุโรป

เป็นขนมที่ทำมาจากบุก ผลิตภัณฑ์เหล่านี้เป็นของต้องห้ามในยุโรปเพราะความลื่นของมันอาจเป็นอันตรายทำให้สำลักได้นั่นเอง

2. Kinder Surprise Eggs

ของต้องห้ามใน : อเมริกา

เป็นขนมที่มีบรรจุภัณฑ์รูปไข่ของ Kinder ที่ไม่มีคุณค่าทางโภชนาการเลย ทั้งองค์การอาหารและยายังกล่าวอีกด้วยว่า มันอาจเป็นอันตรายทำให้สำลักได้ ดังนั้นมันจึงกลายเป็นของต้องห้ามในอเมริกา

3. Blueberry Nutrigrain Bars

ของต้องห้ามใน : นอเวย์ ฟินแลนด์ และฝรั่งเศส

เหมือนจะเป็นอาหารเพื่อสุขภาพแต่มันเป็นอาหารเทียมและทำมาจากสีผสมอาหารอีกด้วย ดังนั้นมันจึงกลายเป็นของต้องห้ามในบางประเทศ

4. หมากฝรั่ง

ของต้องห้ามใน : สิงคโปร์

ในปี 1992 สิงคโปร์ห้ามใช้หมากฝรั่งในการบำรุงเหงือกเพราะมันมีราคาแพง แต่กลับยอมรับการใช้นิโคตินหรือ dental gum เป็นแผ่นพลาสติกในการดูแลรักษาเหงือกและฟัน

5. Foie Gras (ตับห่าน)

ของต้องห้ามใน : อินเดีย

ทางอินเดียมองว่าขั้นตอนการนำตับห่านมาเป็นอาหารนั้นเป็นวิธีที่ไร้มนุษยธรรม ดังนั้นจึงห้ามนำเข้าตับห่านเด็ดขาด

6. เนื้อม้า

ของต้องห้ามใน : รัฐแคลิฟอร์เนียและรัฐอิลลินอยส์ของประเทศสหรัฐอเมริกา

เนื้อม้าอาจเป็นเนื้อสัตว์ที่สามารถทานได้อย่างถูกกฎหมายในหลายประเทศ หรือหลายพื้นที่ของอเมริกาแต่ยกเว้นสองรัฐนี้เท่านั้น

7. Samosas Al-Shabaab

ของต้องห้ามใน : โซมาเลีย

เป็นอาหารที่มีรูปทรงสามเหลี่ยม ดังนั้นในปี 2011 จึงมีการประกาศเป็นอาหารต้องห้ามในโซมาเลียเพราะรูปทรงคล้ายกับสัญลักษณ์อันศักดิ์สิทธิ์ของคริสเตียน

8. เนื้อจิงโจ้

ของต้องห้ามใน : รัฐแคลิฟอร์เนีย, สหรัฐอเมริกา

หลายคนอาจงงและแปลกใจว่าเนื้อจิงโจ้กินได้ด้วยเหรอ เพราะเพิ่งเคยได้ยิน แน่นอนเนื้อจิงโจ้กินได้อย่างถูกกฎหมายในหลายประเทศทั่วโลก ยกเว้นในรัฐแคลิฟอร์เนียของอเมริกาเท่านั้น

9. เมล็ดงาดำ

ของต้องห้ามใน : สิงคโปร์, ไต้หวัน, ซาอุดิอาระเบีย และสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์

มันเป็นของต้องห้ามในซาอุดิอาระเบียเพราะเหตุผลทางศาสนา ส่วนสิงคโปร์ก็พิจารณาให้มันเป็นสินค้าต้องห้าม

10. น้ำนมดิบ

ของต้องห้ามใน : อเมริกา, แคนาดา, สก็อตแลนด์ และออสเตรเลีย

น้ำนมดิบที่ยังไม่ผ่านการพาสเจอร์ไรส์หรือฆ่าเชื้อโรคถือว่าเป็นอาหารที่อันตรายเพราะมีเชื้อโรคปนเปื้อนอยู่และอาจส่งผลอันตรายต่อคนที่กินได้ ดังนั้นมันจึงกลายเป็นของต้องห้ามในบางประเทศ

11. ปลาปักเป้า

ของต้องห้ามใน : ยุโรปและจีน

ปลาปักเป้าเป็นสัตว์ที่มีพิษเป็นอย่างมากเพราะมันอาจทำให้เกิดอันตรายถึงชีวิตหรือกลายเป็นอัมพาตได้เลย ดังนั้นในจีนและยุโรปจึงห้ามเด็ดขาด

12. ปลาแซลมอนจากฟาร์มเลี้ยง

ของต้องห้ามใน : ออสเตรเลียและนิวซีแลนด์

เนื้อปลาแซลมอนตามธรรมชาติกับฟาร์มเลี้ยงนั้นจะมีเนื้อที่แตกต่างกันมาก โดยเนื้อปลาแซลมอนจากฟาร์มนั้นส่วนใหญ่จะเป็นสีเทาและเพื่อให้เนื้อมีสีชมพูน่ากิน ดังนั้นส่วนใหญ่ทางฟาร์มจะใส่สาร astaxanthin ลงไป

13. Haggis

ของต้องห้ามใน : อเมริกา

เป็นอาหารที่ใช้เครื่องในสัตว์ในการห่อหุ้มไว้อีกที ดังนั้นในปี 1971 สหรัฐอเมริกาจึงมีนโยบายห้ามนำเข้าผลิตภัณฑ์ที่มีปอดแกะ