เหตุการณ์แปลกประหลาดที่เกิดขึ้นจริงบนโลก เมื่อวันที่ 7 สิงหาคม 1994 ชาวบ้านในเมือง Oakville รัฐวอชิงตัน สหรัฐอเมริกา พบว่าฝนที่ตกลงมามีความผิดปกติ เพราะแทนที่จะเป็นน้ำฝนมันกลับมีลักษณะคล้ายกับน้ำมูก "เป็นเมือกเหนียวๆ คล้ายเจลวุ้น" สร้างความประหลาดใจให้กับคนในเมืองเป็นอย่างมาก

และที่่น่าแปลกไปกว่านั้นคือ ใครที่สัมผัสถูกมันก็จะมีอาการแปลกๆ ตามมาทั้งหายใจลำบาก วิงเวียนศีรษะ สายตาพร่ามัว และคลื่นไส้ โดยชาวเมืองที่สัมผัสถูกมันนั้นต่างก็มีอาการเหมือนกันหมดคล้ายกับไข้หวัดใหญ่และเป็นอยู่นานกว่า 2 - 3 เดือน นอกจากนี้หมาและแมวที่สัมผัสถูกมันต่างก็ล้มป่วยและเสียชีวิตเป็นปริศนาอีกด้วย

จึงมีการเก็บตัวอย่างของ "น้ำฝนแปลกประหลาด" ไปทำการตรวจสอบในห้องปฏิบัติการตรวจสารเคมี ปรากฎว่าเจ้าหน้าที่กลับพบว่ามันมี "เซลล์เม็ดเลือดขาวของมนุษย์" แต่ก็ไม่สามารถระบุได้ว่ามันคืออะไรกันแน่ จึงทำการส่งตัวอย่างนี้ไปยังกรมอนามัยแห่งสหรัฐอเมริกา

ทั้งยังมีการตั้งข้อสังเกตขึ้นเพื่อหาคำตอบเกี่ยวกับสิ่งประหลาดนี้อีกด้วย โดย ike McDowell นักจุลชีววิทยาแห่งกรมอนามัยพบว่า มันเต็มไปด้วยเชื้อแบคทีเรีย 2 สายพันธุ์ที่อาศัยอยู่ในระบบย่อยอาหารของมนุษย์ จึงคาดว่ามันอาจเป็นของเสียที่ตกลงมาจากเครื่องบินโดยสาร แต่กลับมีข้อโต้แย้งถึงข้อสังเกตนี้เพราะ ก่อนเครื่องบินจะทิ้งของเสียนั้นจะมีการย้อมสีเป็นสีฟ้าเสียก่อน ทั้งเวลาที่ "สิ่งแปลกประหลาด" นี้ตกมาก็เป็นเวลาต้องห้ามในการปล่อยของเสียของเครื่องบินอีกด้วย

แต่หลังจากนั้น 1 ปีต่อมาก Tim Davis นักจุลชีวิวทยาก็นำมันมาตรวจสอบอีกครั้ง ก็พบว่ามันเต็มไปด้วยเซลล์ที่มีความซับซ้อน ทั้งยังมีนิวเคลียสของสิ่งมีชีวิตอีกด้วย แสดงว่าก่อนที่มันจะตกลงมามันเคยเป็นสิ่งมีชีวิตมาก่อน

จึงมีการคิดทฤษฎีใหม่ขึ้นมาว่า มันอาจเป็น "ซากของแมงกะพรุนที่ถูกทำลาย" และมีการขนใส่เครื่องบินเพื่อนำไปทิ้ง แต่กลับเกิดอุบัติเหตุเสียก่อน แต่แล้วทฤษฎีนี้ก็มีข้อโต้แย้งอีกว่า ถ้าเป็นซากแมงกะพรุนจริงมันต้องมีกลิ่นเหม็นคล้ายกับกลิ่นเน่าเีย แต่สิ่งประหลาดที่ตกมากลับไม่มีกลิ่นเลย บ้างก็ว่าเป็นอ้วกของนกนางนวลแต่ก็ไม่น่าจะใช่เพราะตอนเกิดเหตุไม่มีนกสักตัว แถมยังใช่เวลาอพยพของมันอีกด้วย

แต่ทฤษฎีที่มีความเป็นไปได้มากสุดคือ "การทดลองอาวุธลับของรัฐบาล" โดยเชื่อกันว่ากองทัพพยายามคิดค้นอาวุธลับและนำมาทดสอบกับมนุษย์อย่างลับๆ แต่แล้วทางกองทัพก็ออกมาปฏิเสธ จนปัจจุบันยังไม่มีใครสามารถหาคำตอบได้เลยว่า "เจ้าเมือกแปลกประหลาด" ที่ตกลงมาจากท้องฟ้าจำนวนมากนั้นคืออะไรกันแน่...?

ข้อมูลและภาพประกอบจาก "เอเลี่ยนโบราณ เรื่องแปลกจากทุกมุมโลก"