เบื้องหลัง....หนัง-ต้อง-ห้าม !!(สุดสยอง) ที่คนทั้งโลกสนใจที่สุด (ใจไม่ถึงอย่าดู!!!!) เฟส 1

เบื้องหลัง....หนัง-ต้อง-ห้าม !! 



เรื่องแรก

ภาพหายาก : เบื้องหลังการถ่ายทำหนังต้องห้าม (ดอกไม้โลหิต / Guinea Pig : Flower of Flesh and Blood)

ดอกไม้โลหิต หรือ Guinea Pig : Flower of Flesh and Blood ถือเป็นหนังในกลุ่ม หนังต้องห้าม ที่มีชื่อเสียงมากที่สุดในทวีปเอเชีย และมีชื่อเสียงดังกระฉ่อนไปทั่วโลก ว่ากันว่าหนังเรื่อง ดอกไม้โลหิต หรือ Guinea Pig : Flower of Flesh and Blood นั้นสร้างออกมาได้อย่างสมจริงมาก มากซะจนดาราฮอลีวูดอย่าง Charlie Sheen และกลุ่มเพื่อน(ที่ได้ดูหนังเรื่องนี้เข้า)ถึงกับหน้าถอดสี ตกตะลึงคิดว่าสิ่งที่พวกเขาได้พบเห็นจากหนังเรื่องนี้เป็นเรื่องจริง Charlie Sheen เข้าใจว่า Guinea Pig : Flower of Flesh and Blood คือ Real Snuff film (สนัฟฟ์ฟิล์มของจริง ฆ่าจริง เหยื่อตายจริง ประมาณหลอกผู้หญิงมาฆ่าแล้วเก็บภาพวีดีโอไว้ขายในเชิงพานิช) Charlie Sheen และเพื่อนจึงทำการติดต่อ MPAA (Motion Picture Association of America) และ FBI ให้ช่วยสืบสวนคดีดังกล่าว

ทางด้านผู้กำกับ Hideshi Hino และทีมงานเลยเกิดอาการ “ งานเข้า ” อย่างเต็มๆ เพราะถูกตำรวจเชิญตัวมาสอบสวนในร้ายแรง(หลอกคนมาฆ่าเพื่อถ่ายวีดีโออันตราย) จนในที่สุด Hideshi Hino ต้องไปรื้อเอาเบื้องหลังการถ่ายทำหนังเจ้าปัญหาดังกล่าวออกมาแสดงให้ตำรวจ FBI และนักข่าวดูว่า Flower of Flesh and Blood ไม่ใช่ Real Snuff film แต่เป็นเพียง Fake Snuff film ที่สร้างได้อย่างสมจริงสุดๆเท่านั้น ที่สำคัญนางเอกในหนังเรื่องนี้ยังมีชีวิตอยู่อย่างแน่นอนและพร้อมที่จะมาแสดงตัวกับทางตำรวจเพื่อให้ผู้คนหายสงสัย เมื่อความจริงพิสูจน์เสร็จว่านางเอกหนังยังมีชีวิตอยู่ Flower of Flesh and Blood เป็นเพียงหนังเรื่องหนึ่ง ไม่ใช่เรื่องจริงแต่ประการใด ผู้กำกับและทีมงานจึงรอดคุกไปแบบฉิวเฉียด แต่ก็นั่นแหล่ะกรณีที่โด่งดังของหนังเรื่องนี้ก็ยังส่งผลให้หนังสือพิมพ์หัวสีแดนปลาดิบเอาไปเล่นข่าวขึ้นหน้าหนึ่งซะหลายวัน

ซึ่งในเวลาต่อมาได้เกิดคดีฆาตกรรมสะเทือนขวัญโดยคนร้ายชื่อ Tsutomu Miyazaki ได้ทำการฆาตกรรมเด็กผู้หญิง 4 รายเลียนแบบหนัง Guinea Pig : Flower of Flesh and Blood โดย Tsutomu Miyazaki เองซึ่งขณะนั้นอยู่ในกลุ่ม “โอตากุ” ได้ทำให้พวก “โอตากุ” กลายเป็นเป้าและจำเลยของสังคมไปอย่างช่วยไม่ได้ ยังผลให้เกิดกระแสการต่อต้านพวก “โอตากุ” ในลักษณะต่างๆนานา สุดท้าย Tsutomu Miyazaki ถูกตัดสินประหารชีวิตด้วยการแขวนคอในเรือนจำกรุงโตเกียวในวันที่ 17 มิถุนายน ปี ค.ศ. 2008 และจากคดีฆาตกรรมดังกล่าวนี้เองส่งผลให้ซีรี่ย์ Guinea Pig ต้องถูกทางการญี่ปุ่นสั่งแบนตลอดกาล กลายเป็นหนังต้องห้ามที่ห้ามสร้างภาคต่อโดยเด็ดขาด ซีรี่ย์ Guinea Pig จึงยุติการสร้างลงที่ภาคที่ 7

ซึ่งจากที่ผู้กำกับ Hideshi Hino ได้นำวีดีโอเบื้องหลังการถ่ายทำหนังมาทำการชี้แจงกับทางตำรวจ FBI และนักข่าวจนสามารถหลุดพ้นคดีฆาตกรรมได้นั้น วันนี้จึงขอรื้อเอกสาร แผ่น DVD ดังกล่าวมาเปิดดูอีกครั้ง เพื่อร่วมรำลึกให้กับหนังเรื่อง Guinea Pig : Flower of Flesh and Blood กับฉากเบื้องหลังการถ่ายทำ(ฉากหาชมยาก) ที่มีทั้งความเครียด เสียงหัวเราะ รอยยิ้ม และคราบน้ำตา


ที่มาของภาพประกอบ : ตัดเอามาจาก DVD หนังเรื่อง Guinea Pig : Flower of Flesh and Blood


1. หน้าปกหนังเรื่อง Guinea Pig : Flower of Flesh and Blood คิดว่าหลายๆคนที่นิยมของนอกกระแสคงจะเคยผ่านตามากันบ้างแล้ว

 



อันนี้หน้าปก Guinea Pig : Flower of Flesh and Blood เวอร์ชั่นโหด ว่ากันว่ากว่าจะถ่ายภาพนี้ขึ้นปกหนังได้นี่แต่งสวยหน้าคุณพี่นางเอกอยู่นาน(ก็ผู้หญิงเขารักสวยรักงามนี่นะ)ถึงจะถูกฆาตกรรมหั่นร่างออกเป็นชิ้นๆก็ขอสวยสักหน่อยนะ(ฮา)

 




2. นางเอกของเรื่อง กำลังบิ้วอารมณ์ตามที่ผู้กำกับสั่งอย่างตั้งใจ(ในปากอมเลือดปลอมอยู่นะ)

 



3. ผู้กำกับตรวจดูฉาก และอวัยวะปลอมประกอบฉากอย่างเคร่งเครียด

 



4. ฉากหั่นมือ คนที่เครียดมากที่สุดคือพ่อซามูไรชุดดำ เพราะถ้าผ่าพลาดล่ะ มือปลอมและเลือดปลอมทำยากนะ

 



5. หั่นแล้ว เลือดต้องไหลซึมออกมาแบบนี้

 




6. ที่เลือดจากข้อมือไหลแรง เพราะทีมงานที่นั่งอยู่ข้างๆใช้นิ้วมือบีบขวดเลือดเทียมนั่นเอง

 



7. สัมภาษณ์คนเล่นเป็นฆาตกร-ซามูไรชุดดำ

 



8. ทีมงานต้องชี้แจงตัวร้ายให้ใช้วิธีการหั่นมือปลอมด้วยมีดอย่างถูกวิธี ถ้าหั่นผิดเลือดมันจะไม่ไหลนะ

 




9. ฉากนี้นางเอกเล่นสบายที่สุดเพราะแค่นอนเฉยๆ ส่วนเสียงจากข้อมือ(กระดูก)ที่ถูกหั่นจนหักออกเป็นชิ้นๆนั้น……..เสียงดังกล่าวมาจาก

 




10. เสียงกระดูกหัก……..เสียงดังกล่าวมาจากทีมงานที่ยืนอยู่ข้างๆครับ

 




11. พี่คนนี้แหล่ะที่รอทำเสียงกระดูกหักให้หนังออกมาสมจริงที่สุด

 




12. ฉากการฆาตกรรมหญิงสาวของซามูไรชุดดำในตำนาน หลายคนว่าดูฉากนี้แล้วเกิดอาการเครียดมาก

 




13. แต่นักแสดงเล่นไปฮาไป เก็บอารมณ์ขณะแสดงกันไม่อยู่…..มองกันไปมองกันมาเลยขอปล่อยเสียงหัวเราะซะ

 



14. หัวเราะกันซะให้เสร็จ……เดี๋ยวจะได้ถ่ายต่อ(ผู้กำกับโกรธเเล้วนะ!!)

 




15. อันนี้ฝ่ายเทคนิคทำมือปลอมให้เคลื่อนไหวได้เหมือนจริงที่สุด

 




16. กว่าพี่ซามูไรชุดดำจะได้หั่นศพจนเสร็จสมใจ คนที่เป็นทุกข์ที่สุดก็คือทีมงานทำเอฟเฟค เพราะถ้าถ่ายแล้วไม่ผ่านต้องเทคหน้ากล้องใหม่ ต้องทำเอฟเฟคใหม่ด้วยนะ(งานเข้า)

 




17. คนนี้ผู้กำกับครับ พี่แกชื่อ Hideshi Hino ผู้สร้าง Guinea Pig : Flower of Flesh and Blood ให้มีความสมจริงแบบที่สุด สมจริงซะจนเกือบได้ย้ายบ้านเข้าไปอยู่ในคุกยกกองถ่าย

 




18. จากการ์ตูนชุด M Collection ตอน Akai Hana กลายมาเป็นแรงบันดาลใจของ Hideshi Hino ในการสร้าง Guinea Pig : Flower of Flesh and Blood

 




19. ฉากนี้(มั๊ง)ที่เป็นต้นแบบของ Guinea Pig : Flower of Flesh and Blood

 




20. นางเอกของเรื่องต้องมาถูกจับโบกปูน(ปูนปลาสเตอร์) หล่อเป็นพิมพ์โมเดลจำลองสำหรับใช้ถ่ายหนัง

 

 

 

 




21. ถอดแบบออกมาแล้วก็ต้องเอาไปลงสี(เลือดปลอม)ระบายสีให้เหมือนหัวหญิงสาวผู้เคราะห์ร้ายให้มากที่สุด กว่าหนังจะถ่ายเสร็จคงใช้เลือดปลอมไปเป็นถังๆแน่งานนี้

 





22. ส่วนขาของหญิงสาวที่ตกเป็นเหยื่อก็ต้องหล่อด้วยปูนปลาสเตอร์จากแบบของจริงด้วย จะได้สมจริงที่สุด

 




23. หล่อขาเทียมเสร็จก็เอาไปลงสี คราวนี้ก็เป็นงานเทียบสีระหว่างขาจริงกับขาปลอม

 





24. งานตกแต่งสีเพิ่มเติม ให้ดูกลมกลืนกันทั้ง 2 ข้าง (ขออย่างเดียวเวลาหั่นศพเหยื่อซามูไรอย่าหั่นผิดข้างละ…..เดี๋ยวงานเข้า)

 




25. เทียบสีโมเดลศีรษะของหญิงสาวที่ถูกตัดอีกครั้ง

 




26. ใช้เลือดปลอมละเลงลงไปให้เหมือนกับแบบที่ร่างไว้(งานนี้ต้องใช้ช่างศิลป์เฉพาะทางกันเลยทีเดียว)

 




27. ผู้กำกับ Hideshi Hino เล่าต่อถึงเรื่องการถ่ายฉากที่สำคัญที่สุดในหนังเรื่อง Guinea Pig : Flower of Flesh and Blood นั่งคือฉากที่ซามูไรชุดดำต้องใช้ขวานตัดศีรษะเหยื่อ

 




28. ฉากนี้ไงครับ

 



29. ฉากนี้ทางทีมงานต้องจัดแจงมุมกล้องให้ดีที่สุด ถ่ายยาก แต่ก็สำเร็จเป็น Flower of Flesh and Blood ในที่สุด ทั้งหมดนี่แหล่ะคือเบื้องหลังหนังต้องห้ามในตำนาน ดอกไม้แห่งเลือด

 

กรุณา Login เพื่อแสดงความคิดเห็น
ส่ง Scoop ให้เพื่อน
แจ้งลบไม่เหมาะสม
ความคิดเห็น

เรื่องอื่นๆ ที่น่าสนใจ

Loading...