วิจารณ์สนั่น รพ.ประกาศห้ามเจ้าหน้าที่หญิงท้อง ละเมิดสิทธิส่วนบุคคล

วิจารณ์สนั่น รพ.ประกาศห้ามเจ้าหน้าที่หญิงท้อง ละเมิดสิทธิส่วนบุคคล

เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก ข่าวสด
 
          วิจารณ์สนั่น รพ.ติดประกาศห้ามเจ้าหน้าที่หญิงท้อง ถ้าท้องให้ลาออกไปเลย ชี้เป็นการละเมิดสิทธิส่วนบุคคล และละเมิดกฎหมายแรงงาน หากมีจริงสามารถฟ้องให้ยกเลิกคำสั่งดังกล่าวได้ 
 
          วันนี้ (9 พฤศจิกายน 2557) โลกออนไลน์ได้เกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์ กรณีมีโรงพยาบาลแห่งหนึ่งย่านอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ ได้ติดประกาศป้ายไว้ที่แผนกจ่ายยาของโรงพยาบาล ระบุว่า "ประกาศ.... ตั้งแต่ 30 ต.ค.57- 31 ธ.ค.58 เจ้าหน้าที่ผู้หญิงทุกท่านให้กินยาคุมกำเนิด (ห้ามท้อง) ถ้าท้องให้ลาออกไปเลย" โดยในประกาศดังกล่าว ยังให้เจ้าหน้าที่เซ็นชื่อรับทราบในแผ่นประกาศด้วย และมีเจ้าหน้าที่ผู้หญิงเซ็นชื่อรับทราบพร้อมกำกับวันเดือนปีที่ลงชื่อแล้วกว่า 30 คน
 
          และนั่นทำให้ผู้ที่พบเห็นได้เกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์อย่างกว้างขวาง โดยบางคนเห็นว่าหน่วยงานดังกล่าว อาจอยู่ในช่วงขาดแคลนบุคคลกร จึงจำเป็นต้องบังคับไม่ให้เจ้าหน้าที่หญิงตั้งครรภ์ในช่วงนี้ ในขณะที่ส่วนใหญ่เห็นว่าคำสั่งในลักษณะดังกล่าว เข้าข่ายการละเมิดสิทธิมนุษยชนอย่างชัดเจน อีกทั้งขัดกับกฎหมายแรงงานที่อนุญาตให้ลาคลอดได้ด้วย 
 
          ทั้งนี้เมื่อผู้สื่อข่าวสอบถามไปทางผู้บริหารของโรงพยาบาลหลายแห่งในย่านอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ นพ.อุดม เชาวรินทร์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลราชวิถี กล่าวว่า กรณีดังกล่าวไม่น่าเป็นไปได้ และโรงพยาบาลราชวิถีไม่เคยมีนโยบายจำกัดสิทธิของบุคคลากรแต่อย่างใด เพราะเป็นเรื่องของสิทธิมนุษยชน เชื่อว่าเรื่องดังกล่าวอาจเป็นเพียงแค่ข่าวลือ เพราะแหล่งที่มาของข่าวในสังคมออนไลน์ ไม่ได้มีความน่าเชื่อถือ อย่างไรก็ตาม จะมีการตรวจสอบอีกครั้งว่าเป็นคำสั่งภายในหน่วยงานเองหรือไม่
 
          ด้าน พญ.ศิริภรณ์ สวัสดิวร ผู้อำนวยการสถาบันสุขภาพเด็กแห่งชาติมหาราชินี (โรงพยาบาลเด็ก) ก็ได้ยืนยันเช่นเดียวกันว่าไม่มีกรณีดังกล่าวในโรงพยาบาลแน่นอน เพราะโรงพยาบาลส่งเสริมเรื่องการตั้งครรภ์ และการเลี้ยงดูบุตรด้วยนมแม่ด้วยซ้ำ เช่นเดียวกับฝั่ง นพ.สุรศักดิ์ ลีลาอุดมลิปิ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลรามาธิบดี กล่าวว่า ตนขอยืนยันว่าโรงพยาบาลไม่มีการห้ามเจ้าหน้าที่หญิงตั้งท้องอย่างแน่นอน เนื่องจากการตั้งท้องถือเป็นสิทธิ์ส่วนบุคคล
 
          ขณะที่ น.ส.พรเพ็ญ คงขจรเกียรติ ผู้อำนวยการมูลนิธิผสานวัฒนธรรม กล่าวถึงประกาศเรื่องห้ามท้องว่า การมีคำสั่งห้ามท้องนั้นเป็นการละเมิดสิทธิเนื้อตัวร่างกาย และสิทธิอนามัยเจริญพันธุ์ ซึ่งไม่สามารถกำหนดและออกกฎในลักษณะเช่นนี้ได้ เนื่องจากเป็นสิทธิของแต่ละบุคคล อีกทั้งยังถือเป็นการเลือกปฏิบัติที่ห้ามให้เพศหญิงตั้งท้อง อีกทั้งในกฎหมายแรงงาน ยังระบุว่าไม่สามารถออกกฎลักษณะดังกล่าวในสถานที่ทำงานได้ด้วย  
 
          ทั้งนี้หากคำสั่งดังกล่าวเป็นเรื่องจริง ผู้หญิงในสถานที่ทำงานนั้นสามารถร้องเรียน หรือฟ้องให้ยกเลิกคำสั่ง และประกาศดังกล่าวได้ นอกเสียจากมีแรงจูงใจว่า หากไม่ท้องในช่วงดังกล่าว จะได้เงินเพิ่มหรือมีค่าตอบแทนพิเศษ อย่างไรก็ตาม เรื่องดังกล่าวถือไม่เหมาะสม และหากเป็นเรื่องจริงต้องมีการดำเนินการฟ้องร้องให้ยกเลิกประกาศดังกล่าว
 
          ด้าน นายจะเด็จ เชาวน์วิไล ผู้อำนวยการมูลนิธิหญิงชายก้าวไกล กล่าวว่า ตอนนี้มีกฎหมายลาคลอดในกฎหมายคุ้มครองแรงงาน หากมีคำสั่งหรือข้อห้ามออกมาในลักษณะเช่นนี้ ถือเป็นเรื่องผิดกฎหมาย นายจ้างที่ออกคำสั่งออกมาต้องถูกดำเนินคดีตามกฎหมาย เนื่องจากกฎหมายระบุอย่างชัดเจนว่าผู้หญิงที่ท้องสามารถลาคลอดได้ 90 วัน ไม่ว่าจะลาก่อนหรือหลังคลอดก็สามารถทำได้ ซึ่งเรื่องนี้กรมคุ้มครองสวัสดิการแรงงาน และกระทรวงแรงงานต้องเข้าไปตรวจสอบและดูแล หากมีเรื่องดังกล่าวเกิดขึ้นจริงต้องดำเนินคดีกับนายจ้าง และหากเคยมีคนถูกบังคับให้ลาออกจากกรณีนี้ ก็สามารถเรียกร้องเงินชดเชยได้
 
          สำหรับการตั้งท้องนั้นเป็นสิทธิขั้นพื้นฐาน สิทธิทางธรรมชาติส่วนบุคคล จะไม่สามารถห้ามหรือบังคับไม่ให้มีได้ โดยก่อนหน้านี้ที่สิทธิแรงงานอนุญาติให้เพศหญิงลาคลอดได้เพียง 30 วัน เคยมีหญิงตั้งครรภ์ที่ทำงานต้องรัดหน้าท้องเวลาทำงาน แอบคลอด ทำแท้ง หรือบางคนต้องแอบมีลูกแบบหลบ ๆ ซ่อน ๆ ทำให้ส่งผลกระทบเรื่องปัญหาสุขภาพตามมากับหญิงเหล่านั้น
 
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก
กรุณา Login เพื่อแสดงความคิดเห็น
ส่ง Scoop ให้เพื่อน
แจ้งลบไม่เหมาะสม
ความคิดเห็น

เรื่องอื่นๆ ที่น่าสนใจ

Loading...