ฤดูฝนเป็นอะไรที่พิเศษ และสุดมหัศจรรย์ฤดูหนึ่ง สำหรับการเดินทางท่องเที่ยวธรมชาติ ครั้งนี้สะดุดตามีโอกาสได้สัมผัสกับวัดภูทอกที่จังหวัดบึงกาฬแบบ กางร่มเที่ยวกันเลยทีเดียวแต่กลับได้เห็นบรรยากาศสุดอัศจรรย์ บนภูทอกแห่งนี้ ภาพความประทับใจจะเป็นยังไงไปดูรายละเอียดกันเลยครับ 

 

ภาพ : ทางเข้าวัด

 

ภูทอกที่ว่านี้ตั้งอยู่ที่ จังหวัดบึงกาฬครับ จังหวัดที่77ของประเทศไทย เป็นวัดนะครับ ทางวัดพูดเสมอว่าไม่ใช่แหล่งท่องเที่ยวดังนั้น การมาเที่ยวยังวัดภูทอกแห่งนี้ จะต้องสงบ และไม่ส่งเสียงดัง มิฉะนั้นไม่ควรเข้ามา เพราะจะมีทั้งวัดและคนทั่วไปเข้ามาปฏิบัติธรรมกันเสมอ 

 

ภูทอก จ.บึงกาฬ เป็นที่จดจำกันได้ดี สำหรับบันไดวนรอบก้อนหินใหญ่ กลางป่าธรรมชาติ ที่หลายคนทึ่งว่าสุดมหัศจรรย์ วันที่เราเดินทางไปถึงเป็นช่วงวันหยุดยาววันแม่ครับ เรานอนพักที่ตัวเมืองบึงกาฬ แล้วตื่นแต่เช้าเดินทางมายังภูทอก ซึ่งใช้ระยะเวลาการเดินทางไม่นาน จากตัวเมืองบึงกาฬมาประมาณ 40กว่ากิโลเมตรเท่านั้น 

 

แต่ทว่าเมื่อมาถึง ก็มาพร้อมกับสายฝนพร่ำเบาๆด้วย ตอนรแกก็คิดในใจแล้ว …ไม่อยากขึ้นเลย กลัวเปียกและลื่น แต่ไหนๆก็มาถึงแล้ว ไม่ขึ้นก็จะเสียดายที่หลัง ตัดสินใจกางร่มขึ้นเพื่อไปชมวิวด้านบน 

 

ภาพ : ทางขึ้น

 

ภาพ : บันไดเปียก

 

ภาพ : ขึ้นบันได ไปเรื่อยๆ เหนื่อยก็หยุดพัก

 

ผมมาที่วัดภูทอกแห่งนี้ น่าจะประมาณ 4ครั้งได้แล้วละครับ แต่ครั้งนี้ไม่เหมือนทุกครั้ง เพราะเป็นช่วงเวลาที่ฝนตกด้วย กางร่มเดินถ่ายรูปไปเรื่อยๆ ก้อนหิน บันได เปียกและลื่นต้องเดินด้วยความระมัดระวังทุกก้าวครับ 

 

ภาพ : บางช่วงตัดผ่านซอกหินเข้าไป

 

พอเราเดินถึงชั้น5 ตัดสินใจ เดินไปชมพุทธวิหารก่อนเลย คิดว่าไปไฮไลท์ก่อนเลย ก่อนที่ฝนจะตกหนัก 

 

ภาพ : ชั้น5 ทางไปพุทธวิหาร

 

ภาพ : เปียกชุ่มฉ่ำ

 

สำหรับพุทธวิหารนั้น เป็นชื่อเรียกกุฏินั่งปฏิบัติธรรมของพระอาจารณ์จวน เจ้าอาวาสผู้บุกเบิกสร้างวัดภูทอกแห่งนี้ขึ้นมา ท่านมักจะมานั่งสมาธิที่จุดนี้ ปัจจุบันท่านมรณะภาพไปแล้ว แต่ด้วยแรงศรัทธา ก็มีชาวพุทธจำนวนมากที่มาเยี่ยมชมจุดนี้ วิวทิวทัศน์บริเวณนี้ยังถือว่าเป็นเสน่ห์ดึงดูดให้ผู้คนจำนวนมากเดินทางมาท่องเที่ยวยังภูทอกแห่งนี้ด้วย 

 

ภาพที่เห็น จากด้านบน พื้นล่างเป็นพื้นป่า เวลามีฝนตก ทำให้เราได้เห็นไอหมอกปรากฏขึ้นมาจากพื้นป่าลอยขึ้นมา เป็นภาพที่สวยงามบาดตามาก แอบดีใจนิดๆที่ตัดสินใจขึ้นมาตอนฝนตก จึงได้เห็นภาพนี้ เวลาฝนหยุดตก ไอร้อนกับไอเย็นปะทะกันก็ทำให้เกิดหมอกแบบนี้ สวยจริงๆ 

 

ภาพ : พุทธวิหาร

 

ภาพ : จากพุทธวิหาร เราจะมองเห็นทางเดินรอบ ที่ชั้น5 และชั้น6 ได้อย่างชัดเจน

 

ภาพ : มองภูทอกจากมุม พุทธวิหาร

 

ภาพ : ฝนตกอยู่ครับ 

 

หลังจากเที่ยวชมพุทธวิหารแล้วเราก็ไปเดินบันไดวนรอบภูทอกกันครับ ซึ่งตั้งแต่ชั้น 5 ชั้น6 นี้ จะเป็นชั้นที่มีทางเดินไม่เลาะเรียบริมหน้าผาวนรอบภูทอกกันตลอด …จุดที่สวยสุดอยู่ตรงไหนนะเหรอ บอกยากครับ เพราะเดินไปเห้นวิวแบบนี้วนไปเรื่อยๆจะพบว่าสวยทุกมุมจริงๆ แต่หลายคนลงความเห็นแล้วว่า มุมจากชั้น6นั้นสวยสุด ส่วนชั้น7ยังขึ้นปได้อีก แต่ไม่แนะนำเพราะเป็นเพียงป่ารกเท่านั้น 

 

ภาพ : พื้นเปียกต้องเดินอบ่างระมัดระวัง อีกมือก็ถือร่ม อีกมือก็ถือกล้อง

 

ภาพ : สวยทุกมุม

 

มาเดินวนชั้น6 ถ่ายรูปกันดีกว่า บางช่วงตอนเดินอยู่เกิดฝนตกหนักพอดี ซึ่งตรงชั้น6 จะมีส่วนที่มีทางเดินมีหลังคาด้วย ทำให้เราไม่เปียกหลบอยู่ตรงทางเดิน ทางเดินบางจุด แม้ว่าฝนตกหนัก แต่ก็ไม่เปียกเพราะฝนไม่สาดเข้ามา ผาหินบังลมพอดี บางช่วงผมเลยถ่ายบรรยากาศในช่วงฝนตกมาให้ชมกันด้วยเลย ว่าสวยขนาดไหน 

 

มุมมองจากชั้น6

ภาพ : ช่วงนี้ฝนเริ่มหบุดไปแล้ว ไอหมอกเริ่มเข้ามา

 

ภาพ : หมอกมาแล้ว

 

ภาพ : สลับกับบางช่วงฝนมาอีกแล้ว 

 

 

ภาพ : พอฝนหยุด หมอกก็ลอยขึ้นมาจากป่าสวยมากๆ

 

ภาพ : พุทธวิหาร มองจากชั้น6

 

ภาพ : ทางเดินเรียบเลาะหน้าผา