เห็ดเผาะ เชิญยิ้ม เจาะหัวใจนักสู้ ชีวิตจริงยิ่งกว่าละครรันทด


เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม 
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก รายการเจาะใจ โพสต์โดย คุณ ThaiTV19 สมาชิกเว็บไซต์ยูทูบดอทคอม

            เห็ดเผาะ เชิญยิ้ม เจาะใจ เผยชีวิตจริงอันน่าเศร้ายิ่งกว่าละครน้ำเน่าของตลกหญิงหัวใจนักสู้ ถูกทำร้าย ทุบตีตั้งแต่เด็ก กว่าจะกลายเป็นตลกหญิงมอบเสียงหัวเราะให้ผู้ชมอย่างในวันนี้ 

            ภายใต้ใบหน้าเปื้อนยิ้มของ "เห็ดเผาะ เชิญยิ้ม" ศิลปินตลกหญิงคนดังที่สร้างเสียงหัวเราะให้ผู้ชมด้วยมุกตาเหล่ ใครเลยจะรู้ว่าชีวิตเบื้องลึกของเธอช่างแตกต่างกับภาพที่เห็นบนเวที ผู้หญิงคนนี้เผชิญกับความยากลำบากในชีวิตยิ่งกว่าดาวพระศุกร์ หรือละครที่นางเอกมีชีวิตรันทด รายการเจาะใจ เมื่อคืนวันพฤหัสบดีที่ 1 พฤษภาคม 2557 จะพาไปเจาะลึกชีวิตอีกด้านของ "เห็ดเผาะ เชิญยิ้ม"

            ได้ยินชื่อ "เห็ดเผาะ" จนติดหู แต่จริง ๆ แล้วชื่อจริง ๆ ของเธอคือ "ฉัตรรัตน์ วัฒน์จินดาศิริ"หรือ "เชอรี่" ส่วนชื่อเห็ดเผาะนั้นมาจากการที่ "โน้ต เชิญยิ้ม" ดาราตลกคนดัง ตั้งให้ตอนที่ไปเล่นละครซิทคอมเรื่องหนึ่ง และเธอก็ใช้ชื่อนี้ในวงการบันเทิงมาโดยตลอด

            แต่วันนี้ เห็ดเผาะ ไม่ได้มาเล่าถึงความสนุกสนานบนถนนสายบันเทิงให้ฟัง เพราะสิ่งที่เธอจะมาเล่านั้นคือชีวิตรันทดที่เธอต้องเผชิญกับมันมาตั้งแต่ยังเล็ก เริ่มจากเธอเกิดมาในครอบครัวที่เป็นลิเก มีพี่น้องทั้งหมด 7 คน เธอเป็นคนโต ส่วนน้องคนที่ 3 พิการเพราะเป็นโปลิโอ ต่อมา พ่อกับแม่ก็แยกทางกัน เธอกับน้อง ๆ เลยอาศัยอยู่กับแม่ เห็ดเผาะซึ่งเป็นพี่คนโตก็ต้องช่วยแม่รับจ้างปอกแห้ว เพื่อหาเงินมาเลี้ยงครอบครัว และอาศัยการร้องเพลงให้คนแถวบ้านฟัง เพื่อให้ได้เงินสักบาท สองบาท สะสมไว้เพื่อไปซื้อนมมาเลี้ยงน้อง

            ชีวิตของเห็ดเผาะผ่านไปจนถึงอายุได้ 5-6 ปี แม่ของเธอก็สอนให้หัดเล่นลิเกเป็นตัวโจ๊กบ้าง เต้นแขกบ้าง สร้างเสียงหัวเราะให้ผู้ชม จนเมื่ออายุ 7 ขวบ ลุงเขย (สามีของพี่สาวพ่อ) เห็นแวว เลยลักพาตัวเห็ดเผาะจากแม่ไปเล่นตลกที่กรุงเทพฯ กับคณะดอกโสนของลุง ใช้ชื่อว่า "เชอรี่ ดอกโสน" ซึ่งเพราะความน่ารักและตลกขบขันของเด็กหญิงตัวเล็ก ๆ คนนี้ ก็ทำให้เธอได้เงินจากผู้ชมมากที่สุดในคณะ และมีรายได้เป็นกอบเป็นกำ

ฟังอย่างนี้แล้วเหมือนกับว่าชีวิตของเห็ดเผาะน่าจะสบาย แต่เรื่องกลับไม่ใช่อย่างนั้น เพราะเงินทุกบาททุกสตางค์ที่เห็ดเผาะได้มากลับไปอยู่ที่ลุงเขยหมด แบ่งให้เธอไว้กินขนมวันละ 5-10 บาทเท่านั้น ซึ่งแรก ๆ เธอก็ไม่ได้สนใจอะไร เพราะยังงง ๆ อยู่

            ด้วยความเป็นเด็กที่ต้องเข้านอนตอนกลางคืนตามปกติ ก็ทำให้เห็ดเผาะเริ่มมีอาการง่วงและหลับอยู่บ่อยครั้งก่อนจะขึ้นแสดงตลกในกลางดึกและช่วงเช้ามืด ทำให้เธอถูกดุและถูกตีมาโดยตลอด ครั้งหนึ่งที่เธอจำได้ก็คือนอนหลับอยู่บนรถตู้ แล้วถูกเรียกให้เตรียมขึ้นแสดงแต่เธอไม่ได้ยิน จึงถูกลุงขึ้นมาตบหัวบนรถตู้แล้วจิกหัวลากลงมาจากรถพร้อมกับดุด่าสารพัดที่แอบนอนหลับ

            เรื่องที่เธอถูกตีนั้น เห็ดเผาะไม่กล้าฟ้องพ่อเลย เพราะลุงขู่ไว้ตลอดว่าห้ามพูด หากพูดไป พอกลับบ้านก็ต้องถูกตีอยู่ดี ทำให้ชีวิตในวัยเด็กของเธอถูกลุงตีมาโดยตลอด ใช้ไม้บ้าง เข็มขัดบ้าง สายยางรดน้ำบ้างแล้วแต่จะหาได้ บางครั้งร้องเพลงอยู่บนเวทีแล้วร้องไห้เพราะง่วงนอน ลุงก็จะขึ้นมาตบหน้ากลางเวทีเลย 

            พออายุได้ 8-9 ขวบ เริ่มมีคนมาพูดกับลุงว่าต้องให้เห็ดเผาะไปเรียนหนังสือด้วย เพราะมีคนเริ่มพูด ๆ กันแล้วว่า คณะดอกโสนมีเด็กมาเล่นตลกกลางคืน ถูกตี ถูกทรมาน ไม่ได้เรียนหนังสือ ลุงจึงพาเธอไปฝากที่โรงเรียนวัดดีดวด พอเข้าโรงเรียน เห็ดเผาะก็มีเวลานอนน้อยลงเข้าไปอีก เพราะเมื่อเลิกเรียนกลับบ้านก็ต้องทำการบ้าน รีดชุดหนังสือ มีเวลาเหลือให้นอนประมาณ 20 นาที ก่อนจะไปเล่นตลกต่อ ทำให้เธอแอบหลับที่โรงเรียนทุกวันจนครูเรียกไปถาม เมื่อรู้ว่าเห็ดเผาะถูกบังคับให้เล่นตลก ครูจึงไปคุยกับลุง ซึ่งลุงก็รับปากอย่างเป็นมั่นเป็นเหมาะว่าจะไม่ให้เล่นตลกแล้ว แต่เมื่อครูกลับไป เห็ดเผาะก็ถูกลุงตีอย่างหนัก และหลังจากนั้นเธอก็ไม่ได้ไปเรียนอีกเลย

            แทบไม่เคยมีวันไหนเลยที่เด็กหญิงตัวเล็ก ๆ อายุยังไม่ถึงสิบขวบจะได้พบกับความสุขเลย เธอได้แต่ไหว้พ่อแก่แล้วอธิษฐาน...

            "หนูไหว้พ่อแก่แล้วขอให้มีสักวันได้ไหม ใน 7 วัน ที่ให้หนูได้ยิ้มแล้วมีความสุขเหมือนคนอื่นเขาบ้าง" เห็ดเผาะ พูดไปแล้วก็ร้องไห้ ก่อนเล่าต่อว่า เธอยังเคยบนกับพ่อแก่ไว้ด้วยว่า อยากให้แม่มารับ และวันหนึ่งแม่ก็มารับจริง ๆ แต่ลุงก็ขวางไว้ไม่ให้เธอไปเจอแม่ ซ้ำยังเอามีดไปไล่ฟันแม่อีก วันนั้นเธอร้องไห้ทรุดลงไปกับพื้นที่คลาดจากแม่ไปแค่นิดเดียว
 และแล้วก็มีวันหนึ่งที่ลุงพาเธอไปหาคุณพ่อ ช.อ้น ณ บางช้าง นักดนตรีรุ่นเก่า เพื่อขอให้ช่วยหาที่แสดงตลกให้ พร้อมอวดว่าตัวเองมีหลานเล่นตลกเก่ง ลุงจึงพาเห็ดเผาะไปเล่นตลกให้ดูและใช้ขอบถาดตีเธอจนหัวแตกจริง ๆ ทำให้พ่อ ช.อ้น ทนไม่ไหว เพราะสิ่งที่ลุงทำนั้นเท่ากับหากินกับเด็ก พ่อ ช.อ้น จึงสั่งให้ยุบคณะดอกโสนดีกว่า แล้วตั้งชื่อคณะให้ใหม่ว่า "เชอรี่ ณ บางช้าง" พร้อมรับมาเป็นลูกบุญธรรม 

            ช่วงเวลานั้น ลุงไม่กล้าตีเห็ดเผาะอีกเลย เพราะกลัวคำขู่ของพ่อ ช.อ้น แต่เหตุการณ์ที่ทำให้เห็ดเผาะหลุดพ้นจากลุงจริง ๆ เกิดขึ้นในอีกหนึ่งปีให้หลัง เมื่อวันหนึ่งลุงปิดประตูรถตู้หนีบแขนเธอ แล้ว "แวว จ๊กมก" ตลกหญิงคนดังซึ่งเป็นน้องสาวของหม่ำ จ๊กมก มาเห็นเข้า จึงเข้ามาช่วย ก่อนที่อีกวันหนึ่ง แม่แวว จะเข้ามานั่งข้าง ๆ แล้วบอกว่าอยากจะช่วยเหลือเห็ดเผาะ อยากจะพาไปหาแม่ที่สุพรรณบุรี เพราะรู้ว่าเห็ดเผาะถูกตีทุกวัน 

            เห็ดเผาะเล่าว่า ตอนนั้นที่ถูกแม่แววถาม เธอร้องไห้ออกมาเลย แต่ก็ยังไม่กล้าหนีลุงไป เพราะกลัวถูกตีอีก แม่แววจึงบอกว่าให้เธอไปตัดสินใจก่อน แล้วจะมาถามใหม่ พออีกวันหนึ่งแม่แววก็มาบอกว่า ถ้าตกลงจะหนีให้มาหาที่คาเฟ่ที่ดาวคะนอง แม่แววจะพาเธอหนี วินาทีนั้นเห็ดเผาะยังตัดสินใจไม่ได้เลย กระทั่งในเช้าวันที่นัดหมาย ลูกชายของลุงเอาผ้าขี้ริ้วถูพื้นมาบิดน้ำใส่จานข้าวที่เห็ดเผาะกำลังจะทาน ทำให้ฟางเส้นสุดท้ายขาด เห็ดเผาะถีบลูกชายของลุงที่มาด่าเธอว่าเป็นขี้ข้าจนหน้าหงาย แล้วตัดสินใจหนีออกจากบ้านของลุงนั่งรถแท็กซี่ไปหาแม่แววที่ดาวคะนองทันที และเมื่อไปถึงดาวคะนองก็เจอแม่แววยืนรออยู่จริง ๆ...    

            เรื่องราวมาถึงขั้นนี้ หลายคนที่กำลังลุ้นเอาใจช่วยเห็ดเผาะอยู่คงดีใจกับเธอด้วยที่รอดจากลุงมาได้แล้ว แต่ทว่า...ชีวิตที่รันทดยิ่งกว่าของผู้หญิงคนนี้กำลังจะเริ่มขึ้น ติดตามชมต่อได้ในรายการเจาะใจ คืนวันพฤหัสบดีที่ 8 พฤษภาคม 2557 เวลา 22.30 น. ทางช่อง ททบ.5

กรุณา Login เพื่อแสดงความคิดเห็น
ส่ง Scoop ให้เพื่อน
แจ้งลบไม่เหมาะสม
ความคิดเห็น

เรื่องอื่นๆ ที่น่าสนใจ

Loading...