สื่อนอกตีแผ่ไทยยุเด็กชกมวยหาเงิน เสี่ยงสมองเสียหาย-ตายได้

 
เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก ทวิตเตอร์ @MaryAnnOchota 
 
          มวยไทย นับเป็นศิลปะการป้องกันตัวและกีฬาประจำชาติที่น่าภาคภูมิใจเพราะโด่งดังไปทั่วโลก ชาวต่างชาติเองยังชื่นชมและนิยมนำไปฝึกฝนเป็นศิลปะป้องกันตัว แต่ในขณะเดียวพวกเขาไม่ได้เห็นดีเห็นงามกับการต่อยมวยรุ่นเล็ก ขนาดสื่ออังกฤษถึงขั้นทำสกู๊ปพิเศษเกี่ยวกับการต่อยมวยเด็ก ระบุผู้ใหญ่ส่งเสริมให้เด็กชกมวยหาเงิน แต่กลับทำให้สมองเด็กจดจำต่ำ IQ ต่ำ หรือถึงขั้นเสียชีวิตได้ 

          เมื่อวันที่ 22 เมษายน 2557 เว็บไซต์มิเรอร์ เผยสกู๊ปพิเศษเกี่ยวกับการชกมวยรุ่นเล็กในไทย โดยมีแมรี่ แอน โอโคตา ผู้สื่อข่าวจากสถานีโทรทัศน์ช่อง 4 มาเก็บข้อมูลสำหรับสกู๊ปที่จะฉายทางช่อง 4 ของอังกฤษในวันศุกร์ ที่ 25 เมษายน 2557 ถึงบ้านเรา โดยได้ติดตามเด็กชายวัย 11 ปี จากภาคอีสาน ชื่อว่า แนท ที่ได้ก้าวเข้าสู่การแข่งขันชกมวยรุ่นเล็ก โดยในขณะที่มาเก็บข้อมูลนั้นแนทกำลังเตรียมตัวเพื่อขึ้นชกกับคู่แข่งวัย 12 ปี ซึ่งเป็นแชมป์มวยรุ่นเล็กมาจากอีกจังหวัดหนึ่ง และสิ่งที่เขาต้องทำในตอนนี้คือวิ่งทางไกล 8 กิโลเมตรทุก ๆ วัน ท่ามกลางอุณหภูมิเฉลี่ย 30 องศา ในชุดที่วอร์มที่ทำจากยางเพื่ออบให้เหงื่อออก โดยเขาต้องรีดน้ำหนักออก 3 กิโลกรัม หรือ 10% ของน้ำหนักตัวปัจจุบัน ให้ทันสำหรับการแข่งขันที่จะเกิดขึ้นในอีกหนึ่งอาทิตย์ถัดไป

          เมื่อผู้สื่อข่าวถามแนทว่า ทำไมถึงชอบมวยไทย "เพราะผมได้เงิน แล้วหมู่บ้านผมก็จะมีชื่อเสียง" นี่คือสิ่งที่แนทตอบ 

          โดยในการขึ้นชกเด็กชายแนทจะได้รับค่าเป็นจำนวนเงินเล็กน้อยคือประมาณ 200 บาทเท่านั้น เงินส่วนใหญ่ที่ได้รับไม่ได้มาจากการขึ้นชกโดยตรงแต่มาจากการพนันผลการแข่งขัน ซึ่งคนทั้งหมู่บ้านต่างติดตามการแข่งขันและวางเงินพนันไว้กับนัดนี้ทั้งสิ้น และถ้าเขาชนะ แนทก็จะได้เงินจากที่ชาวบ้านพนันฝ่ายเขาไว้อีกที

          พ่อของแนทคือผู้ผลักดันคนสำคัญที่ทำให้แนทก้าวเข้าสู่วงการมวยเด็ก เป็นทั้งผู้ฝึกซ้อมรวมทั้งหาเวทีมวยให้ลูกชาย เมื่อถูกถามว่าเป็นห่วงสุขภาพของลูกชายไหมในช่วงที่แนทต้องวิ่งเพื่อลดน้ำหนักให้ทันการแข่งขัน เขาก็กล่าวว่าเป็นห่วงลูกชายอยู่เหมือนกัน เพราะลูกไม่เคยต้องลดน้ำหนักเลย แต่ก็คิดว่าไม่น่าเป็นอะไร ถึงจะเหนื่อยแต่พอได้นอนหลับพักผ่อนหน่อยก็แข็งแรงเหมือนเดิม 

              ขณะที่แม่ของแนททำงานเป็นแม่บ้านอยู่ที่กรุงเทพฯ และจะส่งเงินมาให้เป็นครั้งคราว แน่นอนว่านั่นไม่พอต่อการประทังชีพสำหรับครอบครัวที่ประกอบไปด้วยแนท พ่อ และปู่กับย่า พ่อจึงเลือกให้แนทเข้าสู่วงการมวยเด็ก เพราะนั่นเป็นทางเลือกที่ดีที่สุดที่จะหาเงินมาจุนเจือครอบครัวได้ ถ้าแนทไม่ต่อยมวยพ่อก็จะต้องลงไปหางานทำที่กรุงเทพ และต้องทิ้งลูกชายไว้กับปู่และย่า ด้วยเหตุนี้แนทจึงกลายเป็นหัวเรี่ยวหัวแรงสำคัญในการหาเงินมาจุนเจือครอบครัวไปโดยปริยาย 

              แมรี่ระบุว่า การชกและพนันมวยเด็กเป็นธุรกิจที่ได้รับความนิยมมากในไทย เพราะมวยเด็กนั้นคาดเดายากทำให้ดูสนุก และยิ่งทำให้ลุ้นมันมากขึ้นในการลงพนัน โดยในปัจจุบันมีเด็กราว 30,000 คน เป็นนักสู้ในวงการมวยรุ่นเล็ก บางครอบครัวก็ส่งเสริมให้ลูกเป็นนักมวยด้วยซ้ำ เพื่อเจริญรอยตามปู่ ตา หรือพ่อที่เป็นนักมายมาแล้ว หากลูกชายได้ก้าวเข้าสู่วงการมวยอีกคนก็นับเป็นเรื่องน่าภาคภูมิใจ นอกจากนี้ก็มีเหตุผลสำคัญเรื่องการหาเงินเพื่อดำรงชีวิตให้รอด เด็ก ๆ หลายคนถูกให้ออกจากโรงเรียนกลางคันเพื่อมาทำงานหรือไปหางานในเมืองหลวง ซึ่งการเป็นนักมวยเป็นอีกอาชีพและมีโอกาสทำเงินที่เหล่าเด็กชายรีบคว้าไว้ หลายคนภูมิใจที่ได้ต่อยมวยหาเงินจุนเจือที่บ้าน และหวังจะได้ก้าวเป็นนักมวยอาชีพขึ้นต่อยบนเวทีใหญ่ ๆ แม้ว่าในความเป็นจริงเด็ก ๆ ส่วนใหญ่ไปไม่ได้ไกลกว่านักมวยรุ่นเล็กเลยก็ตาม และหนึ่งในสาเหตุที่ทำให้ไม่ได้ก้าวไปไกลกว่านักมวยเด็กก็คือ ความบอบช้ำของร่างกาย 

              ความรุนแรงและการบาดเจ็บเกิดขึ้นได้เสมอระหว่างการซ้อมหรือการแข่งขัน และก็เป็นสิ่งที่มาควบคู่กันกับธุรกิจที่สร้างความบันเทิงสำหรับผู้ใหญ่ รวมถึงสร้างเงินให้แก่ผู้ชนะ ซึ่งการออกอาวุธมวยไทยที่ขึ้นชื่อรุนแรง ทั้งหมัด เท้า เข่า และศอก สร้างความบอบช้ำให้กับเด็ก ๆ หลายราย ที่แย่ที่สุดก็คืออาการบาดเจ็บทางสมองที่ส่งผลเสียในระยะยาว และอาจเป็นอันตรายถึงชีวิตได้ เด็ก ๆ นักมวยไม่ค่อยเข้าใจถึงประเด็นนี้ พ่อแม่ต่างหากที่เข้าใจดี แต่ความยากจนขัดสนก็บีบบังคับต้องปล่อยให้ลูกเดินหน้าต่อไป 

              จากผลงานวิจัยสมองนักมวยเด็กของแพทย์หญิงจิรพร เหล่าธรรมทัศน์ ประธานราชวิทยารังสีแพทย์แห่งประเทศไทย และนายกรังสีวิทยาสมาคมแห่งประเทศไทย หัวหน้าศูนย์รังสีวินิจฉัยก้าวหน้า ศูนย์สนับสนุนพันธกิจ คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี ที่ได้ศึกษาไว้ในปี 2556 ชี้ให้เห็นว่า สมองของนักมวยเด็กมีความแตกต่างไปจากสมองของเด็กวัยเดียวกันที่มาจากพื้นฐานครอบครัวใกล้เคียงกันแต่ไม่ได้ต่อยมวย โดยสมองของนักมวยเด็กจะมีการพัฒนาเป็นอย่างมากในส่วนของการรู้สึกตัว (spatial awareness) การประสานการทำงาน (co-ordination) และการเคลื่อนไหวตอบสนอง (motor response) แต่กลับมีประสิทธิภาพในการจดจำต่ำ รวมถึงมี IQ ต่ำด้วย 

              สมองนักมวยรุ่นเยาว์เหล่านี้ยังมีธาตุเหล็กสูง เพราะมีเลือดออกมาก เป็นภาวะเดียวกับที่พบได้ในเด็กที่ประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์ หรือตกจากที่สูง อันเป็นสาเหตุของการทำลายเนื้อสมอง หรือในบางรายก็พบว่ามีภาวะน้ำในสมองมาก ซึ่งเป็นภาวะที่อาจสกัดกั้นการเจริญเติบโตของสมองได้ โดยเด็กที่อายุยังน้อยเพียงเท่านี้สมองยังเจริญเติบโตไม่เต็มที่

              อย่างไรก็ดี มวยเด็กในประเทศไทยยังคงเป็นสิ่งที่แข่งขันกันได้อย่างถูกกฎหมายและเสรี ตราบเท่าที่พ่อแม่ของเด็กชายอนุญาต
กรุณา Login เพื่อแสดงความคิดเห็น
ส่ง Scoop ให้เพื่อน
แจ้งลบไม่เหมาะสม
ความคิดเห็น

เรื่องอื่นๆ ที่น่าสนใจ

Loading...