เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก ข่าวสด

          ตำรวจรวบพลทหารค่ายสุรสีห์ จ.กาญจนบุรี สังหารโหดแม่ของเจ้านาย เหตุบันดาลโทสะ ถูกด่าว่าถึงบุพการี 

          วันนี้ (14 มีนาคม 2557) พล.ต.ต.กมลสันติ กลั่นบุศย์ ผบก.ภ.จว.กาญจนบุรี เปิดเผยว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับ แจ้งเหตุวานนี้ (13 มีนาคม) ว่า นางเรณู หนุนวงษ์ อายุ 63 ปี ซึ่งเดินทางออกจากบ้านมาเยี่ยม ร.อ.ภควัน หนุนวงษ์ ลูกชายที่ป่วยพิการเนื่องจากประสบอุบัติเหตุขณะปฏิบัติหน้าที่ เมื่อหลายปีก่อน และมีกำหนดกลับบ้านที่กรุงเทพฯ ในวันที่ 9 มีนาคม ได้หายตัวไป ไม่กลับมาบ้านตามกำหนดการ อีกทั้งสามีของนางเรณูก็ยังติดต่อไม่ได้ 

          หลังจากรับแจ้ง เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ลาดหญ้า จึงไปตามหาที่เรือนแถวข้าราชการทหาร ร.9 พัน 2 กองพลทหารราบที่ 9 ค่ายสุรสีห์ จ.กาญจนบุรี โดยเมื่อไปถึงหน้าบ้านพบว่ากุญแจล็อคประตูหน้าบ้าน และมีกลิ่นเหม็นคลุ้งคล้ายกลิ่นศพพุ่งออกมาจากภายในบ้าน เจ้าหน้าที่จึงพังประตูเข้าไปตรวจสอบ และพบกองเลือดอยู่เต็มห้องครัว บริเวณบันไดทางขึ้นชั้น 2 มีเลือดเปรอะเปื้อนทุกขั้น เจ้าหน้าที่จึงขึ้นไปตรวจสอบชั้นที่ 2 ของบ้าน พบศพของนางเรณู นอนเสียชีวิตอยู่ภายในห้องนอนโดยมีผ้าห่มคลุมร่างเอาไว้ เมื่อเปิดดูพบสภาพศพขึ้นอืด พบบาดแผลขนาดใหญ่ถูกตีด้วยของแข็งที่บริเวณศีรษะด้านหลัง 

          จากการสืบสวน เจ้าหน้าที่มั่นใจว่าผู้ที่ก่อเหตุ ฆ่านางเรณูคือ พลทหารเชษฐา เวฬุวรรณเนา อายุ 24 ปี ทหารรับใช้ของ ร.อ.ภควัน ซึ่งเมื่อวันที่ 11 มีนาคมที่ผ่านมา พลทหารเชษฐา ได้เรียกรถตู้ประจำทางสายลาดหญ้า กทม. มารับ ร.อ.ภควัน ที่พิการไปรักษาที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่งในกรุงเทพฯ ก่อนพา ร.อ.ภควัน ไปพักผ่อนที่บ้านย่านลาดพร้าว โดยทำตัวเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น เจ้าหน้าที่จึงรีบประสานไปยัง สน.โชคชัย เพื่อส่งกำลังไปคุมตัวพลทหารเชษฐา ก่อนเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ลาดหญ้า จะนำตัวมาสอบสวน 

          จากการสอบสวน พลทหารเชษฐา ยอมรับสารภาพว่า เป็นผู้ก่อเหตุทำร้ายนางเรณูจนเสียชีวิตจริง เนื่องจากเกิดบันดาลโทสะ ที่ถูกด่าทออย่างหยาบคาย อีกทั้งยังด่าไปถึงพ่อแม่ของตนอีก โดยที่ผ่านมาตนเป็นทหารรับใช้ ร.อ.ภควัน มีหน้าที่ดูแลบ้านและคอยช่วยเหลือ ร.อ.ภควัน ที่ร่างกายและสมองพิการจนพูดจา ไม่ได้ ตลอดระยะ 2 ปีที่ผ่านมา ตนดูแล ร.อ.ภควัน เป็นอย่างดี ไม่เคยขาดตกบกพร่อง ส่วนนางเรณู นาน ๆ ครั้งจะเดินทางมาเยี่ยมลูกชาย และทุกครั้งที่มาจะชอบดุด่าตนอยู่เป็นประจำ หาว่าตนดูแลลูกชายไม่ดี ซึ่งตนก็อดทนมาโดยตลอดไม่ยอมโต้เถียง 

          จนกระทั่งวันที่ 7 มีนาคมที่ผ่านมา นางเรณูเดินทางมาเยี่ยมลูกชายตามปกติ และตนพา ร.อ.ภควัน เข้าไปในห้องน้ำเพื่อให้อาบน้ำเอง ขณะรอตนได้มาเตรียมกับข้าวไว้ให้ จากนั้นนางเรณูเรียกให้ตนไปกินข้าว แต่ตนไม่หิวจึงปฏิเสธ ทำให้นางเรณูโมโหและด่าทอตนอย่างหยาบคาย อีกทั้งยังด่าทอไปถึงบุพการีของตน ตนโมโหจนเลือดขึ้นหน้า จึงโต้เถียงกลับไป นางเรณูจึงเดินปรี่เข้ามาหาและใช้มือตบหน้า แต่ตนหลบทันจึงผลักออกไป ด้วยความโมโห ตนเห็นท่อนไม้กลมยาวประมาณ 1 เมตร วางอยู่ จึงคว้ามาและตีเข้าที่ท้ายทอยอย่างแรง 3 ครั้งจนนางเรณูล้มลง จากนั้นจึงใช้ท่อนไม้ตีซ้ำเข้าที่เดิมอีก 2 ครั้ง จนแน่นิ่ง ทำให้พื้นมีเลือดไหลนองเต็มพื้น จากนั้นตนจึงลากศพขึ้นไปใช้ผ้าคลุมอำพรางที่ชั้น 2 ก่อนใช้ผ้าและน้ำล้างเลือดออกจนสะอาด รอจน ร.อ.ภควัน อาบน้ำเสร็จ ตนจึงนำ ร.อ.ภควัน ออกมาจากห้องน้ำและแต่งตัวให้จากนั้นจึงกินข้าวจนอิ่ม และพาไปพบหมอที่โรงพยาบาลค่ายสุรสีห์เพื่อให้หมอตรวจร่างกาย และกลับมานอนพักผ่อนอยู่ที่บ้านตามปกติ

          พลทหารเชษฐา กล่าวต่อว่า กระทั่งวันที่ 11 มีนาคม กลิ่นศพเริ่มเน่าเหม็น ประจวบเหมาะกับเป็นวันที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่งในจังหวัดนนทบุรี นัดให้นำ ร.อ.ภควัน ไปพบเพื่อทำกายภาพบำบัด ตนจึงพา ร.อ.ภควัน ไปหาหมอตามที่นัดไว้ และพา ร.อ.ภควัน กลับไปอยู่บ้านของนางเรณู และทำตัวตามปกติ เมื่อพ่อของ ร.อ.ภควัน ถามหาภรรยา ตนก็ตอบไปว่า คงอยู่บ้านพัก ร.อ.ภควัน ที่จังหวัดกาญจนบุรี พ่อของ ร.อ.ภควัน จึงเดินทางไปหา และไม่สามารถติดต่อทางโทรศัพท์ได้ เนื่องจากหลังเกิดเหตุ ตนได้เอาซิมโทรศัพท์ของนางเรณูออกและโยนทิ้งหน้าบ้าน ส่วนเครื่องโทรศัพท์มือถือตนได้เอาติดตัวมาที่กรุงเทพฯ ด้วย 

          ทั้งนี้ สำหรับการสอบปากคำผู้ต้องหา พล.ต.ต.กมลสันติ ได้สั่งการให้ พ.ต.อ.มานิตย์ จำลองรักษ์ รอง ผบก.ภ.จว.กาญจนบุรี เดินทางไปสอบปากคำด้วยตนเอง โดยมีนายทหารพระธรรมนูญ สังกัดกองพลทหารราบที่ 9 ค่ายสุรสีห์เดินทางไปร่วมรับฟังด้วย โดยการสอบปากคำใช้เวลานานกว่า 2 ชั่วโมงจึงแล้วเสร็จ จากนั้นเจ้าหน้าที่ทั้งหมด ได้คุมตัวผู้ต้องหาไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพที่บ้านพักหลังเกิดเหตุ 


อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก