เล็งจับจระเข้เขาใหญ่ไล่เขมือบสัตว์เล็ก หวั่นทำร้ายนักท่องเที่ยว


เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก ข่าวสด

          เจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ เร่งประสานผู้เชี่ยวชาญจากฟาร์มจระเข้ จ.ชลบุรี ช่วยจับตัวจระเข้เขาใหญ่ หลังสัตว์ป่าขนาดเล็กถูกจับกินจนลดลง และหวั่นนักท่องเที่ยวถูกทำร้าย

          จากกรณีที่มีลูกจระเข้เข้ามาอาศัยอยู่ในคลองน้ำลำตะคอง บริเวณเหนือน้ำตกเหวสุวัต บนอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ เขตพื้นที่ ต.หินตั้ง อ.เมือง จ. นครนายก เมื่อประมาณ 6 ปี ที่ผ่านมา โดยไม่ทราบว่าเกิดจากธรรมชาติหรือมีคนนำมาปล่อยไว้ แต่ในปัจจุบันจระเข้ตัวดังกล่าวโตขึ้นมาก และเริ่มมีผู้พบเห็นบ่อยครั้ง

          ดังนั้นทางอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่จึงให้ผู้เชี่ยวชาญจากฟาร์มจระเข้ จ.ชลบุรี เดินทางมาจับเพื่อตรวจดีเอ็นเอว่า เป็นจระเข้สายพันธุ์ใด แต่เนื่องจากบริเวณคลองดังกล่าวระดับน้ำค่อนข้างลึก และมีท่อนไม้กิ่งไม้อยู่ในน้ำจำนวนมาก ซึ่งง่ายแก่การซ่อนตัว เจ้าหน้าที่จึงทำได้เพียงนำเอาอุจจาระของจระเข้ไปตรวจสอบ แต่อาจได้ผลไม่ละเอียดนั้น

          ความคืบหน้าล่าสุด (4 กุมภาพันธ์ 2557) นายกฤษฎา หอมสุด หัวหน้าอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ เผยข้อมูลเพิ่มเติมว่า ในบริเวณแหล่งน้ำที่จระเข้อาศัยอยู่ เป็นเส้นทางเดินป่าลัดเลาะไปตามริมคลองระหว่างน้ำตกผากล้วยไม้ไปยังน้ำตกเหวสุวัต ที่ไหลลงมาพื้นที่ ต.หมูสี อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา ลงสู่เขื่อนลำตะคอง โดยนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติที่ไม่ทราบว่ามีจระเข้อาศัยอยู่ในคลองบริเวณนั้น มักใช้มือวิดน้ำเล่น ซึ่งทางอุทยานฯ เกรงว่า อาจถูกจระเข้หวงที่บุกเข้ามาทำร้าย ดังนั้นจึงนำป้ายทั้งภาษาไทยและภาษาอังกฤษมาติดไว้ใกล้แหล่งน้ำ พร้อมส่งเจ้าหน้าที่คอยดูแลและแจ้งเตือนนักท่องเที่ยวว่า อย่าเข้าไปใกล้แหล่งน้ำเด็ดขาด

          ด้าน สัตวแพทย์ภัทรพล มณีอ่อน หรือ หมอล็อต สัตวแพทย์ประจำกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ซึ่งมาประจำอยู่อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ เปิดเผยว่า จากการเฝ้าติดตามพฤติกรรมของจระเข้ตัวนี้ ยังไม่ยืนยันแน่ชัดว่า เป็นจระเข้พันธุ์อะไร มาจากไหน เพราะไม่สามารถจับตัวมาตรวจดีเอ็นเอได้

          แต่ในปัจจุบันจระเข้เติบโตขึ้นมาก รวมทั้งเริ่มมีพฤติกรรมดุร้าย โดยงูเหลือมและลิงป่าที่ลงมากินน้ำในบริเวณดังกล่าวถูกจับกินไปแล้วหลายตัว หลังพบซากกะโหลกลิงป่า ยังไม่นับรวมกับสัตว์อื่น ๆ ซึ่งทางอุทยานฯ จะพยายามจับตัวจระเข้มาตรวจสอบให้ได้ เพื่อพิจารณาแนวทางต่อไปว่า จะย้ายจระเข้ไปไว้ที่อื่นหรือไม่ เพราะพฤติกรรมของจระเข้ตัวนี้ กำลังส่งผลให้จำนวนสัตว์ป่าขนาดเล็กที่อาศัยอยู่ในบริเวณดังกล่าวลดลง รวมทั้งเกรงว่า อาจเป็นอันตรายแก่นักท่องเที่ยวด้วย

 
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก

กรุณา Login เพื่อแสดงความคิดเห็น
ส่ง Scoop ให้เพื่อน
แจ้งลบไม่เหมาะสม
ความคิดเห็น

เรื่องอื่นๆ ที่น่าสนใจ

Loading...