วงจรปิดเผย"เอ็กซ์"รู้ตัวโดนยิง ซิ่งพอร์ชหนี แต่ไม่รอดถูกยิงเข้าเป้า3นัด ตร.ชี้มือปืนวางแผนอย่างดี

จากกรณี เหตุลอบยิงนายจักรกฤษณ์ พณิชย์ผาติกรรม  หรือเอ็กซ์ อดีตนักกีฬายิงปืนทีมชาติไทย   ภายในรถยนต์  ยี่ห้อปอร์เช 2 ประตู สีดำ ทะเบียน ชส 2223 กรุงเทพมหานคร  บริเวณปากซอยรามคำแหง 166 หรือวัดบำเพ็ญใต้ ถนนรามคำแหง แขวงและเขตมีนบุรี กทม. จนเสียชีวิต   เมื่อช่วงหัวค่ำวันที่ 19 ตุลาคมที่ผ่านมา  โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจตั้งประเด็นการสังหารไว้หลายเรื่อง 1.ยาเสพติด 2.ชู้สาว 3.การพนัน และ 4.ความโกรธแค้นส่วนตัว โดยขณะนี้ได้มีการส่งศพไปพิสูจน์สาเหตุการเสียชีวิตที่สถาบันนิติเวช โรงพยาบาลแล้วนั้น

 

ตร.ไล่สอบวงจรปิด หาเบาะแสยิง

 


เมื่อวันที่ 20 ตุลาคม  แหล่งข่าวชุดสืบสวนเปิดเผยว่า  จากการที่มีพยานระบุว่า  ระหว่างที่นายจักรกฤษณ์ขับรถยนต์ออกมาจากถนนสุขาภิบาล3และมีเหตุกระทบกระทั่งกับผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์นั้น ชุดสืบสวนสอบถามรายละเอียดจากคนรับใช้ที่ถูกสะเก็ดหัวกระสุนขณะนั่งมาในรถด้วยว่า ระหว่างทางไม่มีความขัดแย้งใดๆกับใครเลย แต่นายจักรกฤษณ์ มาถูกยิงจุดเกิดเหตุดังกล่าวเพียงเท่านั้น

 

ทั้งนี้ทางชุดสืบสวนที่ได้รับมอบหมายให้ตรวจสอบกล้องวงจรปิดที่นายจักรกฤษณ์ ขับออกมาจนมาถึงจุดเกิดเหตุว่ากล้องวงจรปิดบางตัวเสียไม่สามารถบันทึกภาพไว้ได้ ส่วนที่บันทึกภาพไว้ได้นั้นขณะนี้อยู่ระหว่างประสานงานกับกรุงเทพมหานคร เพื่อขอข้อมูลรายละเอียดจากกล้องวงจรปิด

 

อย่างไรก็ตาม รายงานข่าวจากชุดสืบสวนยังไม่สรุปประเด็นสาเหตุการเสียชีวิตของนายจักรกฤษณ์ ที่ถูกยิงเสียชีวิตโดยชุดสืบสวนยังมีประเด็นความขัดแย้งเรื่องการซื้อขายแลกเปลี่ยนพระเครื่อง

 

 

"น้องเมย์ รัชนก" โพสต์เฟซบุ๊กอาลัย

 

 

ขณะที่  "น้องเมย์" รัชนก อินทนนท์ นักแบดมินตันสาวไทย มือ 2 ของโลก เจ้าของแชมป์โลกคนล่าสุด ซึ่งตอนนี้ได้เสร็จสิ้นภาระกิจการแข่งขันแบดมินตันเดนมาร์ก โอเพ่นแล้ว ได้โพสข้อความลงเฟซบุ๊กของตัวเอง ถึงการจากไปของอดีตนักแม่นปืนหนุ่มทีมชาติไทยว่า

R.I.P พี่เอ็กซ์
..ครั้งหนึ่งเคยได้คุยกับพี่เค้าและได้รู้จักกันระหว่างเดินทางกลับจากโอลิมปิกเกมส์และเป็นครั้งแรก แต่ไม่เคยคิดว่าครั้งนั้นจะเป็นครั้งสุดท้ายเหมือนกันที่หนูกับพี่จะไม่ได้เจอกันอีก หลับให้สบายนะพี่.."

 

ไม่พบพิรุธ"เมียเอ็กซ์" ตร.สอบปากคำให้การตรง"คนใช้"


เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนสอบสวนประชุมเครียดเพื่อลำดับเหตุการณ์และหาปมสังหาร "เอ็กซ์"  จักรกฤษณ์ พาณิชย์ผาติกรรม อดีตนักกีฬายิงปืนทีมชาติไทย ถูกยิงเสียชีวิตเมื่อช่วงค่ำวันที่ 19 ตุลาคม บริเวณปากซอยรามคำแหง 166 โดยมีน.ส.หวาน  สาวใช้ชาวพม่านั่งร่วมไปด้วย ระหว่างเดินทางไปหาภรรยาและลูกที่บ้านพักย่านซอยรามคำแหง 162


ทั้งนี้ ภายหลังเกิดเหตุพล.ต.ต.ฐิติราช หนองหารพิทักษ์ รองผบช.น. ได้เรียกประชุมทีมสืบสวนสอบสวนจากสน.มีนบุรี  กก.สส.บก.น.3 และบก.สส.บช.น. ที่บก.น.3 พร้อมทั้งเชิญนายมานพ นางบุญคิด  พาณิชย์ผาติกรรม บิดาและมารดา และพญ.นิธิวดี ภู่เจริญยศ ภรรยา มาสอบปากคำเบื้องต้น โดยใช้เวลาตลอดคืนจนถึงเวลา 04.00 น. วันที่ 20 ตุลาคม


  
  รายงานข่าวแจ้งว่า จากการสอบสวนพญ.นิธิวดี เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจไม่พบพิรุธแต่อย่างใด โดยให้การว่าก่อนเกิดเหตุได้โทรศัพท์พูดคุยกับนายจักรกฤษณ์เรื่องการปรับปรุงห้องให้ลูกที่บ้านพักในซอยรามคำแหง 174 โดยนายจักรกฤษณ์ชวนพญ.นิธิวดี ไปพูดคุยเรื่องการปรับปรุงที่บ้านพักในซอยรามคำแหง174 แต่นางบุญคิด บอกว่าไม่น่าออกไปเพราะเย็นแล้ว นายจักรกฤษณ์จึงขับรถออกจากบ้านพักซอยรามคำแหง 174 มาพบพญ.นิธิวดีเพื่อรับประทานอาหารด้วยกันที่บ้านพักของพญ.นิธิวดีในซอยรามคำแหง 162  โดยนายจักรกฤษณ์ได้ชวนน.ส.หวาน สาวใช้ชาวพม่านั่งรถมาด้วย เพราะพี่สาวของน.ส.หวาน ทำงานอยู่ที่บ้านพญ.นิธิวดี แต่ระหว่างมาถึงปากซอยรามคำแหง 166 ก็เกิดเหตุขึ้น

 

  รายงานข่าวแจ้งว่า ทีมสืบสวนสอบสวนได้สอบปากคำพญ.นิธิวดีเพื่อคลายประเด็นสงสัย กรณีที่พญ.นิธิวดี มาถึงจุดเกิดเหตุอย่างรวดเร็ว และขึ้นรถพยาบาลพานายจักรกฤษณ์ไปส่งโรงพยาบาลด้วย ประเด็นนี้พญ.นิธิวดี ให้การว่า  เนื่องจากหลังเกิดเหตุน.ส.หวาน สาวใช้ชาวพม่าโทรศัพท์หาพญ.นิธิวดีทันที จึงเดินทางออกจากบ้านพักในซอยรามคำแหง 162 มายังจุดเกิดเหตุซึ่งอยู่ใกล้กันใช้เวลาเพียง5นาที สอดคล้องกับคำให้การของน.ส.หวาน รวมทั้งน.ส.หวาน ให้การว่าขณะนั่งมาในรถที่นายจักรกฤษณ์เป็นคนขับไม่ได้เกิดเหตุกระทบกระทั่งบนท้องถนนกับใคร

 

 

ชี้ขัดแย้งคนในสมาคมยิงปืนตลอด

 

นอกจากนี้จากการสอบสวนพญ.นิธิวดี ถึงข้อสงสัยที่เป็นสาเหตุสังหารนายจักรกฤษณ์ พบว่าพญ.นิธิวดี ไม่สามารถระบุสาเหตุที่แน่ชัดได้ ส่วนประเด็นความขัดแย้งในสมาคมยิงปืนและการแข่งขันกีฬายิงปืน พญ.นิธิวดี ระบุว่า  นายจักรกฤษณ์เคยขัดแย้งกับคนในสมาคมมาตลอด แต่ที่ผ่านมาก็ไม่มีอะไรเกิดขึ้น โดยประเด็นนี้พล.ต.ต.ฐิติราช สั่งการให้บก.สส.บช.น.ตรวจสอบประเด็นและความเป็นไปได้ว่ามีใครบ้างที่เคยขัดแย้งกับนายจักรกฤษณ์ถึงขั้นต้องการเอาชีวิต ง

 

นอกจากนี้ได้สั่งการให้สน.มีนบุรี และกก.สส.บก.น.3 ตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดตามเส้นทางที่นายจักรกฤษณ์ขับรถออกจากบ้านพักถึงจุดเกิดเหตุ และเส้นทางหลบหนี แต่เบื้องต้นพบว่ากล้องบางตัวเสียไม่สามารถบันทึกไว้ได้ ส่วนที่บันทึกภาพไว้ได้เป็นกล้องของกรุงเทพมหานครและขณะเกิดเหตุเป็นวันหยุด จึงต้องรอเปิดทำการในวันที่ 21 ตุลาคมจึงจะประสานขอภาพจากกล้องวงจรปิดจากกรุงเทพมหานครได้

 

ชี้มือปืนระดับอาชีพ เล็งเป้าหมายคนเดียว

 

  รายงานข่าวแจ้งด้วยว่า เบื้องต้นทีมสืบสวนสอบสวนวิเคราะห์ว่าคนร้ายเป็นมือปืนอาชีพ เพราะกระสุนเข้าจุดตาย และเล็งตรงมาที่เบาะคนขับอย่างเดียว ส่วนเบาะนั่งข้างคนขับไม่พบร่องรอยกระสุน โดยคนร้ายน่าจะติดตามนายจักรกฤษณ์มาจากบ้านพัก หรือไม่เช่นนั้นต้องมีคนส่งสัญญาณให้ลงมือ


 

 

 

ผลพิสูจน์ "เอ็กซ์"ตายเพราะเสียเลือดมาก

 

ที่สถาบันนิติเวชวิทยา โรงพยาบาลตำรวจ  เมื่อเวลา 10.40 น. วันที่ 20 ตุลาคม   นายมานพ พณิชย์ผาติกรรม นางบุญคิด พณิชย์ผาติกรรม บิดา มารดา และญาติพี่น้องของนายจักรกฤษณ์ พณิชย์ผาติกรรม หรือเอ็กซ์ อดีตนักกีฬายิงปืนทีมชาติไทย พร้อมด้วย พญ.นิธิวดี ภู่เจริญยศ ภรรยาของนายจักรกฤษณ์ ได้เดินทางไปรับผลการตรวจพิสูจน์ศพนายจักรกฤษณ์ ท่ามกลางความเศร้าโศกเสียใจ


 จากนั้นในเวลาประมาณ 11.30 น. ภรรยาของนายจักรกฤษณ์ ก็เดินทางกลับโดยไม่ให้สัมภาษณ์   จากนั้น  เวลา 12.30 น. เจ้าหน้าที่โรงพยาบาลได้เรียกนางบุญคิด และพี่สาวของผู้ตาย เข้าไปรับเอกสารผลการพิสูจน์ศพ โดยในเอกสารใบแจ้งตายระบุว่า  ศพของนายจักรกฤษณ์ อายุ 40 ปี ที่ส่งมาจาก สน.มีนบุรี เมื่อวันที่ 19 ตุลาคม นายแพทย์สภาบันนิติเวชวิทยา โรงพยาบาลตำรวจ ได้ทำการตรวจพิสูจน์ศพเรียบร้อยแล้วปรากฎว่า เสียชีวิตจากการเสียโลหิตปริมาณมากจากบาดแผลกระสุนทำลายหัวใจและปอด ลงชื่อโดย พันตำรวจเอกนายแพทย์ สุพิไชย ลิ่มศิวะวงศ์ นายแพทย์ (ศบ.5) กลุ่มงานนิติพยาธิ นายแพทย์ผู้ตรวจ  

 


โดย นางบุญคิด ได้เดินทางออกไปไหว้สักการะบูชาองค์พระหน้าสถาบันนิติเวชวิทยา พร้อมบริจาคเงินจำนวน 500 บาท ให้มูลนิธิสถาบันฯช่วยเหลือศพผู้ยากไร้

 

พ่อ-แม่ ปล่อยโฮ รับศพลุก เอาชุดทีมชาติสวมร่างไร้วิญญาณ

 

 ต่อมาเวลา 12.30 น.นางบุญคิด ได้ลงลายมือรับทราบผลผ่าพิสูจน์สาเหตุการตายที่ นพ.พ.ต.อ.สุพิไชย ลิ่มศิวะวงศ์ นายแพทย์ (สบ5) กลุ่มงานนิติพยาธิ นิติเวช รพ.ตร. ผู้ผ่าพิสูจน์ ศพ โดยระบุว่า เสียเลือดปริมาณมากบาดแผลจากกระสุนปืนทำลายหัวใจและปอด โดย บิดา-และมารดา ได้นำ ชุดที่สวมใส่ เป็นชุดเสื้อสูทสีน้ำเงิน ของนักกีฬาทีมชาติไทย เมื่อครั้งตอนที่เอ็กซ์ เคยสวมใส่เมื่อครั้งรับใช้ชาติ มาสวมใส่ให้เอ็กซ์ก่อนที่จะนำศพไปบำเพ็ญกุศลที่วัด พระศรีมหาธาตุ บางเขน เป็นเวลา 5 วัน

 

 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ช่วงเวลา 13.30น. เจ้าหน้าที่สถาบันนิติเวชได้เชิญพ่อและแม่ของนายจักรกฤษณ์ เข้าไปที่ห้องประกอบพิธีทางศาสนา โดย เอ็กซ์ อยู่บนเตียงนอน สวมชุดสูท สีน้ำเงิน เนคไท สีชมพูเทา หรือ ชุดโดฮาร์เกมส์ ปี 2006 มีผ้าคลุมสีขาว  และเมื่อนายมานพ เห็นศพลูกตัวเองก็ร้องไห้เสียงดังลั่นห้อง 

 

เผย ตั้งชื่อ"จักรกฤษณ์" เพราะไปขอพระพรหม


ขณะที่นางบุญคิดก็ร้องไห้ไม่หยุด เมื่อเห็นร่างไร้วิญญาณของนายจักกฤษณ์    ก่อนจะเข้าไปสวมกอดและจูบบริเวณใบหน้า     พร้อมระบุว่า  "แม่อโหสิกรรมให้ลูกนะ ที่ตั้งชื่อว่า จักรกฤษณ์ เพราะแม่ไปขอ พระพหรมเอราวัณ ท่านมา  เพราะตอนเด็กๆลูกเลี้ยงยากมาก ต่อจากนี้ไปไม่ต้องเป็นห่วงนะลูกนะ พระพหรมท่านให้ลูกมาแค่นี้ "  จากนั้นได้สวมกอดร่างลูกชาย ก่อนเจ้าหน้าที่จะนำร่างของนายจักรกฤษณ์ ขึ้นรถตู้และเคลื่อนย้ายไปตั้ง บำเพ็ญกุศลที่วัดพระศรีมหาธาตุบางเขน

 

นางบุญคิด ให้สัมภาษณ์ด้วยน้ำตานองหน้าต่อว่า เสียใจมากที่ลูกชายจากไปตั้งแต่อายุยังน้อย ก่อนหน้านี้ลูกชายยังมานอนกับแม่อยู่เลย ยังได้ถ่ายรูปคู่กับลูกของตัวเองส่งมาให้แม่ดูด้วย พร้อมกับหยอกล้อกับแม่ว่าเล่นไลน์เป็นด้วยเหรอ และก่อนเสียชีวิตไม่นาน ก็ส่งรูปเมรุไปให้แฟนเขาด้วย โดยบอกว่าสุดท้ายแล้วทุกคนก็ต้องตาย และยังบอกด้วยว่า ห่วงบ้านว่าน้ำจะท่วม

 

แม่ ขอคนฆ่าโดนประหาร-เผย"เอ็กซ์"บอกให้เปิดเพลง"แสงสุดท้าย"

 

 ผู้สื่อข่าวถามว่า การดำเนินคดีต่อจากนี้จะเป็นอย่างไร นางบุญคิด ตอบว่า ก็ปล่อยเป็นเรื่องของเจ้าหน้าที่ดำเนินการไป และอยากให้ลงโทษคนฆ่าลูกด้วยการประหารชีวิต ขอให้คมหอกคมดาบไปสู่ผู้บงการทั้งหมด โดยลูกชายเคยเปรยไว้ว่า หากตนตายขอให้เปิดเพลงแสงสุดท้าย  ของบอดี้สแลม เพราะชื่นชอบเป็นพิเศษ พร้อมกับเล่าต่อไปว่า ร้องไห้ตั้งแต่เมื่อคืนจนถึงตอนนี้ยังไม่หยุดเลย นั่งมองรูปลูกตัวเองทั้งคืน เหมือนเขาจะคุยกับเราแต่ก็ไม่คุยด้วย ได้แต่บอกว่าให้หลับให้สบาย พักผ่อนเยอะๆ เพราะเหนื่อยมามากแล้ว

 

 

 ผู้สื่อข่าวถามว่า ลูกของนายจักรกฤษณ์ ทราบหรือยังว่าพ่อตัวเองเสียชีวิต   นางบุญคิด ตอบว่า ลูกเขายังไม่ทราบ ก็บอกเพียงว่าพ่อไปทำงาน และยังเล่าให้ฟังต่อไปว่า ตอนลูกแข่งขันกีฬา พยายามบอกให้เอาชนะอารมณ์ตัวเองก่อนเอาชนะคนอื่น ขอให้ทำเพื่อประเทศชาติ แต่พอแพ้ขึ้นมาก็ต้องหนีนักข่าวเหมือนหมาตัวหนึ่ง

 

ลูกๆ อดีตนักแม่นปืนไม่รู้พ่อตาย

 

 

 

 เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า เอ็กซ์ เคยเล่าให้ฟังหรือไม่กรณีนำพระไปขายให้กับคนมีสี  และเกิดเป็นพระปลอมขึ้นมา ซึ่งมีมูลค่ามาก นางบุญคิด ปฏิเสธ พร้อมว่า ลูกชายไม่เคยเล่าเรื่องปัญหาเรื่องส่วนตัวให้ทราบเลย ทั้งนี้ หลังจากเอ็กซ์เสียชีวิต เเล้ว    หลานสาว ซึ่งเป็นลูกของเอ็กซ์   อายุ 4ขวบ3 เดือน และ น้องปก หลานชาย  อายุ 1ขวบ3เดือน ยังไม่ทราบ  ทราบว่าพ่อเสียชีวิตแล้ว ทราบแค่ว่า  ไม่สบาย อยู่โรงพยาบาล

 

 

พ่อเผย เคยดูดวง บอกไม่ติดคุกก็ตาย


ด้านนายมานพ ได้ให้สัมภาษณ์ว่า ที่ผ่านมาไม่ค่อยได้พูดคุยกับลูกมากนัก ก่อนหน้านี้ได้ไปหาหมอดูมาเช่นกัน หมอดูบอกว่าดวงของนายจักรกฤษณ์ในช่วงนี้ถ้าไม่ติดคุกก็ต้องตาย ซึ่งก่อนหน้านี้ เอ็กซ์ก็ติดคุกไปแล้ว เพราะเรื่องมีปัญหา ในครอบครัว ก็เข้าใจว่าน่าจะหมดเคราะห์แล้ว กระทั่งมาเสียชีวิต

 

 


  ผู้สื่อข่าวรายงานอีกว่า ระหว่างการเคลื่อนย้ายศพไปยังวัดพระศรีมหาธาตุ บางเขน มีกลุ่มไอ้มดแดง หรือ กลุ่มรถจักรยานยนต์ ฮาร์เลย์ จำนวน 10 คัน มีนายทรงวุฒิ วุฒิการโกศล หัวหน้ากลุ่มนำขบวนรถตู้ไปที่วัด

 

 

เพื่อนแก๊งฮาร์เลย์ชี้เบาะแส ก่อนตาย เคยบ่นเรื่อง"พระเครื่อง"

 

ด้าน  นายทรงวุฒิ  วุฒิการโกศล หัวหน้ากลุ่มไอ้มดแดง ซึ่งเป็นกลุ่มขี่รถจักรยานยนต์ฮาร์เล่ เปิดเผยว่า กลุ่มไอ้มดแดง มีสมาชิก 50 คน รวมตัวกันที่ รีสอร์ต เดอะวิลล่า 71 ลาดพร้าว 71 โดยนายจักรกฤษณ์มีรถ 2 คัน คันหนึ่งรุ่นโกลโปรลิศ เข้ากลุ่มเมื่อ 2 ปีก่อน โดยรวมตัวกันเพื่อออกงานเชิญของผู้ว่าฯ โชว์ตัวต่างๆ นายจักรกฤษณ์เคยไปออกงาน2ครั้ง เป็นคนรักเพื่อน ตอนที่เป็นข่าวกับครอบครัวนายจักรกฤษณ์มาหาบ่อย และเล่าแบบเดียวกับที่เป็นข่าว แต่ที่น่าจะเป็นสาเหตุคือราว 1-2 สัปดาห์ที่ผ่านมา นายจักรกฤษณ์เล่าให้ฟังเกี่ยวกับการซื้อขายพระเครื่องแล้วคุยแบบมีอารมณ์โกรธ  ซึ่งเบื้องลึกตนไม่ทราบ ต้องให้ตำรวจสอบสวนต่อไป


 

 

ตรงขอให้ไว้ใจทำงานเต็มที่สืบคดี "ฆ่าเอ็กซ์"

 

 

เมื่อเวลา 14.00 น.  ที่สน.มีนบุรี พล.ต.อ.เอก อังสนานนท์ รอง ผบ.ตร. พล.ต.ต.ฐิติราช หนองหารพิทักษ์ รอง ผบช.น. พล.ต.ต.ประยนต์ ลาเสือ ผบก.สส.บช.น. พ.ต.อ.สุคุณ พรหมายน รรก.ผบก.น.3 พ.ต.อ.สราวุธ จินดาคำ ผกก.สน.มีนบุรี พ.ต.อ.ภิรมย์ สวนทอง ผกก.สส.บก.น.3 พร้อมเจ้าหน้าที่ชุดติดตามคดี ได้ร่วมประชุมติดความความคืบหน้าของคดีที่ห้องประชุม สน.มีนบุรี โดยไม่อนุญาตให้สื่อมวลชนเข้ารับฟัง ก่อนใช้เวลาในการประชุมกว่า 1 ชั่วโมง จึงแล้วเสร็จ  

 

 

  หลังจากการประชุมเสร็จ พล.ต.อ.เอก เปิดเผยว่า หลังจากเกิดเหตุเมื่อวานนี้ทาง ผบ.ตร.ได้ให้ประชุมติดตามความคืบหน้าของคดี ได้กำหนดแนวทางการสืบสวน พร้อมกำหนดประเด็นไว้แล้วทุกประเด็น ขณะนี้ต้องขอเวลาเจ้าหน้าที่ในการดำเนินงานส่วนที่เกี่ยวข้อง ทั้งการตรวจสอบวัตถุพยาน  พยานหลักฐานในที่เกิดเหตุ ซึ่งจำเป็นต้องมีการตรวจพิสูจน์หลักฐานในทางนิติวิทยาศาสตร์ และทางสำนักงานตำรวจแต่งชาติได้ส่งเจ้าหน้าที่ และผู้เชี่ยวชาญในแต่ละด้าน มาตรวจพิสูจน์ปืนหรือส่วนอื่นๆที่เกี่ยวข้องในการติดตามตัวคนร้ายมาดำเนินคดี ซึ่งต้องให้เวลาเจ้าหน้าที่สักระยะหนึ่ง

 

 

 

  พล.ต.อ.เอก กล่าวต่อว่า ส่วนน้ำหนักสาเหตุและประเด็นที่เป็นปมให้เกิดการฆาตกรรมครั้งนี้ ทางเจ้าหน้าที่ยังคงไม่ตัดประเด็นใดๆทิ้งไป ยังคงให้น้ำหนักทุกประเด็นที่จะเป็นสาเหตุไปสู่การ ซึ่งต้องใช้คำว่า ว่าจ้างมือปืนมายิงผู้ตาย โดยทั้งหมดนี้ ต้องสืบสวนสอบสวนทุกประเด็นให้ครบถ้วน  นอกจากนี้กระสุนที่คนร้ายใช้สามารถบอกได้แต่วัตถุพยานที่เก็บได้ คือหัวกระสุนปืนที่พบที่ศพของผู้ตาย และปลอกกระสุนปืน อย่างไรก็ตามต้องนำไปตรวจเพื่อตรวจสอบว่าเป็นลูกกระสุนที่ยิงจากอาวุธปืนชนิดใดอยู่ดี ดังนั้นทางเจ้าหน้าที่จึงยังคงตั้งประเด็นปมสังหารไว้กว้างๆ  เพราะยังไม่มีพยานมาบ่งชี้ว่าจะเป็นไปในแนวทางใดที่แน่นอน ส่วนกล้องวงจรปิดอยู่ในขั้นตอนของฝ่ายสืบสวน ซึ่งกำลังแบ่งงานกันทำ ขอให้ไว้ใจได้ ว่าตอนนี้เจ้าหน้าที่กำลังทำงานอย่างเต็มที่

 

กระสุนสังหาร 3 นัด เข้าเป้า  ฝีมือยิงไม่ธรรมดา


หลังจากนั้นพ.ต.อ.ฉัตรชัย นันทมงคล นวท.(สบ.4)  กลุ่มงานอาวุธปืนและเครื่องกระสุน ได้รายงานวิถีกระสุนที่คนร้ายใช้ยิงให้กับ พล.ต.อ.เอก รับทราบ  โดยระบุว่า แนวกระสุนที่เป็นอันตรายและเป็นตัวสังหารนายจักรกฤษณ์ คือ 3 นัดแรก มีนัดที่ 1 ซึ่งอยู่ติดกับขอบกระจกรถด้านข้างคนขับ โดยนัดนี้ถือเป็นนัดสำคัญมาก นั่นคือเป็นการวิ่งเข้าประกบตัวรถ ซึ่งจะเห็นได้ชัดจากความแรงของกระสุน เนื่องจากเมื่อกระทบกระจกแล้ว มีการแตกกระจายไปเป็นรูปใยแมงมุม ส่วนนัดที่ 2 คือรอยกระสุนที่เป็นตำแหน่งชยับต่อออกมาจากนัดแรก  และนัดที่ 3 คือนัดที่ขยับตามออกมา โดยอยู่ใกล้กับกระจกมองข้าง  ก่อนจะมีนัดต่อมาๆ ซึ่งพลาดไปโดนตัวรถด้านข้าง และด้านหน้า ซึ่งนั่นเป็นการชี้ให้เห็นว่ารถจักรยานยนต์ที่คนร้ายใช้ก่อเหตุถูกขับเคลื่อนไปทางด้านหน้า และไกลออกไปเรื่อยๆ

 

 พ.ต.อ.ฉัตรชัย กล่าวอีกว่า จากสิ่งที่ตรวจสอบพบ ทำให้เห็นว่าคนร้ายซึ่งเป็นมือปืน จะต้องทำการบ้านมาอย่างดี  เนื่องจากรถของนายจักรกฤษณ์ เป็นรถสปอร์ต ซึ่งตำแหน่งที่นั่งจะค่อนข้างต่ำ และตัวเบาะมีลักษณะเอนไปข้างหลัง ซึ่งต่างจากรถยนต์ทั่วๆไป  เห็นได้ชัดว่าคนร้ายน่าจะมีการแอบซุ่ม ลอบมอง และกะจังหวะไว้ก่อนแล้วเป็นเวลานาน จึงสามารถระบุพิกัดจุดนั่งของคนขับได้เป็นอย่างดี  อีกทั้งประกอบกับฝีมือในการยิงปืนของคนร้ายคงไม่ธรรมดา ไม่เช่นนั้นคงไม่โดนทีเดียว 3 นัดรวด

 

 “ต้องมีการซุ่มดู และศึกษาจุดนั่ง และพิกัดคนขับอย่างดี คงมีการเฝ้าดูมาซักระยะแล้ว จนมั่นใจว่าหากยิง ณ จุดนี้ๆ จะต้องโดนตัวแน่ๆ เห็นได้ชัดว่า 3 นัดแรกไม่พลาดซักนัด ทุกนัดมุ่งโดนตัวคนขับแน่นอน เชื่อว่าคนร้ายคงมีฝีมือการยิงปืนที่ไม่ธรรมดาเหมือนกัน” พ.ต.อ.ฉัตรชัยกล่าว

 

วงจรปิด เผยชัด 2 คนร้าย ขี่จยย. คล้าย ฮอนด้า รุ่นสกู๊ปปี้ ไอ

 

ด้านพล.ต.ต.ประยนต์ ลาเสือ ผบก.สส.บช.น. เปิดเผยว่า ขณะนี้กำลังเร่งตรวจสอบหาสาเหตุการเสียชีวิตของนายจักรกฤษณ์  เบื้องต้นต้นได้มีการเชิญผู้เกี่ยวข้องมาสอบปากคำแล้ว ทั้งพ่อแม่ เพื่อน พี่ของภรรยา แล้ว ยังอยู่ระหว่างตรวจสอบว่ามีความเชื่อมโยงกับประเด็นใดบ้าง อย่างไรก็ตาม ได้เร่งหาข้อมูลทั้งหมดก่อน เพื่อหาสาเหตุที่แน่ชัดในการสังหารอีกครั้ง

 

ด้านพ.ต.อ.สุคุณ พรหมายน รรท.ผบก.น.3  กล่าวว่า ภายในที่ประชุมได้มีการสรุปแนวทางเพื่อสอบสวนในประเด็นต่างๆ เกี่ยวกับผู้ตาย  ได้แก่ ทั้งเรื่องความขัดแย้งภายในครอบครัว ความขัดแย้งเรื่องเกี่ยวกับการยิงปืน ความขัดแย้งเรื่องการขายพระ และประเด็นเรื่องเกี่ยวกับชู้สาว ซึ่งยังอยู่ระหว่างการตรวจสอบข้อเท็จจริง ส่วนการตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิด ขณะนี้ได้มาแล้วบ้างบางส่วน แต่สามารถระบุได้ว่า คนร้าย 2 คน ใส่หมวกกันน็อกเต็มใบ ได้ขับขี่รถจักรยานยนต์ จากการตรวจสอบคาดว่าน่าจะรถจยย.ของผู้หญิง คล้ายยี่ห้อฮอนด้า รุ่นสกู๊ปปี้ ไอ ทั้งนี้ ต้องรอผลสรุปจากการตรวจสอบที่ชัดเจนจากฝ่ายสืบสวนอีกครั้ง ทั้งนี้ พล.ต.อ.เอก อังสนานนท์ รองผบ.ตร.เร่งรัดให้ดำเนินการสืบสวนสอบสวนจับตัวคนร้ายมาดำเนินคดีโดยเร็วต่อไป

 

เผย "เอ็กซ์" น่าจะรู้ตัวโดนประกบเลยขับรถหนี

 

มีรายงานข่าวแจ้งว่า การตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดพบว่า คนร้ายทั้ง 2 คน มีลักษณะคล้ายมือปืนรับจ้างอาชีพ ซึ่งได้ขับขี่รถจยย. ตามประกบผู้ตายมากระทั่งผู้ตายรู้ตัวจึงได้ขับรถยนต์หลบหนีอย่างรวดเร็ว แต่เนื่องเป็นบริเวณปากซอย คนร้ายจึงอาศัยจังหวะเลี้ยวรถของผู้ตายดักยิง แล้วขับรถจยย.หลบหนีไปทางถ.รามคำแหง แยกมิสทีน ซึ่งจากการสอบถามภรรยานายจักรกฤษณ์ ก็ยังไม่ทราบว่ามีปัญหาอะไร ซึ่งชีวิตของผู้ตายค่อนข้างเป็นความลับ มีโทรศัพท์หลายเครื่อง 4-5 เครื่อง อีกทั้งยังมีปัญหากับแม่ยายของภรรยาที่ให้ลูกแจ้งความดำเนินคดี 

 

 

 

ส่งศพ"เอ็กซ์ จักรกฤษณ์"พิสูจน์นิติเวช ตร.ตั้ง4ปมให้น้ำหนักแค้นส่วนตัว "แม่"บอกหมดเวรกรรม ขอสู่สุคติ

กรุณา Login เพื่อแสดงความคิดเห็น
ส่ง Scoop ให้เพื่อน
แจ้งลบไม่เหมาะสม
ความคิดเห็น

เรื่องอื่นๆ ที่น่าสนใจ

Loading...