คนร้ายขโมยรถบรรทุกน้ำของ อบต.กะดุนง นำมาบรรจุน้ำมันแล้วฉีดใส่บ้านพักครูซึ่งใช้เป็นที่พักของทหารใน อ.สายบุรี ก่อนจุดไฟเผา และเกิดเหตุยิงปะทะ สลด! ครูวัย 55 ปี ถูกลูกหลง ดับคาที่นอน 
       
       วันนี้ (9 ต.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่พักครูของนางแวนะ บูงอ วัย 55 ปี ครูโรงเรียนบ้านเจาะกือแย ซึ่งตั้งอยู่ด้านหลังศูนย์สุขภาพตำบลตะบิ้ง (สถานีอนามัยก่า) ต.ตะบิ้ง อ.สายบุรี จ.ปัตตานี ยังคงเงียบเหงา หลังจากนางแวนะ ถูกกระสุนปืนของคนร้ายที่ยิงมาจากป่ายางพารา ในระหว่างที่มีเหตุยิงปะทะกันระหว่างกลุ่มผู้ก่อความไม่สงบกับเจ้าหน้าที่ทหารพราน ร้อย 4206 ที่ตั้งฐานปฏิบัติการย่อยภายในบ้านพักครู เป็นเหตุให้นางแวนะ ซึ่งนอนพักผ่อนอยู่บนชั้น 2 ของบ้านเสียชีวิตทันทีในที่เกิดเหตุ ซึ่งญาติจะนำศพไปประกอบพิธีทางศาสนาอิสลามที่ ต.สะนอ อ.ยะรัง จ.ปัตตานี
       
       จากการสอบสวนในที่เกิดเหตุทราบว่า เมื่อช่วงเวลาประมาณ 02.00 น. วันนี้ (9 ต.ค.) เกิดเหตุคนร้ายไม่ทราบจำนวนใช้รถกระเช้าที่ติดแท็งก์บรรจุน้ำซึ่งขโมยมาจาก อบต.บ้านกะดุนง อ.สายบุรี จ.ปัตตานี นำไปบรรจุน้ำมันจนเต็มก่อนขับเข้ามาบริเวณบ้านพักครู โรงเรียนบ้านเจาะกือแย ซึ่งตั้งอยู่ด้านหลังศูนย์สุขภาพตำบลตะบิ้ง (สถานีอนามัยก่า) อ.สายบุรี
       
       จากนั้นคนร้ายได้นำน้ำมันที่บรรจุในแท็งก์รถคันดังกล่าวเข้ามาฉีดใส่บ้านพักครู ในบริเวณที่ทหารใช้เป็นที่พักของฐานปฏิบัติการ จำนวน 3 หลัง ก่อนที่จะนำระเบิดเพลิงโยนใส่ จึงเกิดเพลิงลุกไหม้อย่างรุนแรง จากนั้นมีเสียงปืนยิงปะทะกันระหว่างเจ้าหน้าที่ทหารพรานกับกลุ่มผู้ก่อความไม่สงบ ก่อนที่คนร้ายจะล่าถอย แล้วได้ขับรถกระเช้าคันดังกล่าวมาจอดทิ้งไว้ที่บริเวณจุดกลับรถ บนถนนทางหลวงสาย 42 ปัตตานี-นราธิวาส จากนั้นจึงวางเพลิงเผารถยนต์คันดังกล่าว 
       
       ทั้งนี้ ภายหลังเสียงปืนสงบพบว่ามีเจ้าหน้าที่ทหารถูกยิงได้รับบาดเจ็บ 1 นาย และครูถูกลูกหลงกระสุนปืนเจาะเข้าที่บริเวณศีรษะ 1 นัด เสียชีวิตทันทีบนเตียงที่นอนชั้น 2 ของบ้านพักครู ซึ่งห่างจากจุดที่คนร้ายวางเพลิงประมาณ 15 เมตร
       
       หลังเกิดเหตุ เจ้าหน้าที่ตำรวจ ทหาร และฝ่ายปกครอง ได้สนธิกำลัง 3 ฝ่าย นำกำลังชุด EOD และเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานจังหวัดปัตตานี เข้าตรวจสอบบริเวณจุดเกิดเหตุ ในส่วนของรถกระเช้าที่ติดแท็งก์น้ำของ อบต.กะดุนง นั้น จากการตรวจสอบพบว่า คนร้ายได้ปล้นมาจาก อบต.กะดุนง เมื่อเวลาประมาณ 20.00 น. ของค่ำเมื่อวานนี้ (8 ต.ค.) เจ้าหน้าชุด EOD ต้องใช้น้ำแรงดันสูงฉีดใส่ตัวถังรถคันดังกล่าวเพื่อล้างคราบน้ำมันที่กระจายทั้งคัน โดยเกรงว่าอาจเกิดระเบิดได้ เนื่องจากน้ำมันยังเหลืออยู่ภายในแท็งก์อีกเป็นจำนวนมาก ทำให้ต้องมีการปิดถนนเส้นทางสายดังกล่าวชั่วคราว ทำให้รถติดเป็นอัมพาตยาวหลายกิโลเมตร
       
       นอกจากนี้ แหล่งข่าวในพื้นที่ระบุว่าเป็นการก่อเหตุป่วนพร้อมกันทั้ง 4 จังหวัด คือ ในพื้นที่ จ.ยะลา ปัตตานี นราธิวาส และ 4 อำเภอของ จ.สงขลา คาดว่าเป็นการจอบโต้รัฐ ก่อนที่จะมีการพูดคุยเจรจาสันติภาพกับกลุ่ม BRN ในวันที่ 20 ต.ค.ที่จะถึงนี้ ที่ประเทศมาเลเซีย โดยคาดว่าจะมีตัวแทนกลุ่มผู้ก่อความไม่สงบกลุ่มอื่นๆ นอกจาก BRN เข้าร่วมเจรจา และอาจเป็นรอบแตกหักของการพูดคุยกับตัวแทนของรัฐบาล ถ้าไม่สามารถปฏิบัติในข้อเรียกร้องที่เคยเสนอมาก่อนหน้านี้ โดยเฉพาะข้อเสนอที่ให้มีการปล่อยตัวแกนนำผู้ก่อความไม่สงบที่ถูกควบคุมตัวในเรือนจำ ซึ่งอาจกลายเป็นเงื่อนไขของการยุติการพูดคุยในโอกาสต่อไป และจะเลือกใช้วิธีการก่อเหตุความไม่สงบที่พัฒนาสู่ความรุนแรงมากขึ้น
 

 

 

 

 

 

อ้างอิง  ข่าวจากหนังสือพิมพ์ผู้จัดการ