ตร.กร่าง ขับรถปาดหน้าชักปืนขู่นักข่าว อ้างแค่ยกปืนขอโทษ

ร.ต.ต.ประจิต หงวนกระโทก อายุ 53 ปี รอง สวป.สภ.เสิงสาง จ.นครราชสีมา กร่างขับรถปาดหน้ารถนักข่าวท้องถิ่นก่อนชักปืนขึ้นขู่ ถูกตำรวจ สภ.โชคชัย สกัดจับมาสอบสวนดำเนินคดี วันนี้ ( 3 ต.ค.)   ตำรวจกร่าง ร.ต.ต.ประจิต หงวนกระโทก รอง สวป.สภ.เสิงสาง จ.นครราชสีมา    
  
 
      วันนี้ (3 ต.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ สภ.โชคชัย อ.โชคชัย จ.นครราชสีมา นายพิศิษฐ์ กฤติวชิระพันธ์ อายุ 33 ปี ผู้สื่อข่าวหนังสือพิมพ์ท้องถิ่นฉบับหนึ่งใน จ.นครราชสีมา ได้เข้าแจ้งความร้องทุกข์กับ พ.ต.อ.บรรพต มุ่งเขตกลาง ผู้กำกับการ (ผกก.) สภ.โชคชัย ว่า ถูก ร.ต.ต.ประจิต หงวนกระโทก อายุ 53 ปี ตำแหน่ง รองสารวัตรป้องกันปราบปราม (รอง สวป.) สภ.เสิงสาง จ.นครราชสีมา ขับรถยนต์กระบะ อีซูซุ สีน้ำเงิน หมายเลขทะเบียน บน 9177 นครราชสีมา ปาดหน้ารถยนต์ ก่อนชักอาวุธปืนขึ้นมาข่มขู่ เจ้าหน้าที่ตำรวจภูธรโชคชัย จึงสกัดจับไว้ได้ บนถนนสายราชสีมา-โชคชัย ต.ท่าอ่าง อ.โชคชัย ก่อนนำตัวมาสอบสวนที่ สภ.โชคชัย พร้อมของกลาง อาวุธปืนขนาด 9 มม. และ กระสุนจำนวน 1 กระบอก
       
       นายพิศิษฐ์ กฤติวชิระพันธ์ อายุ 33 ปี เปิดเผยว่า ขณะกำลังขับรถยนต์มาตามถนนสายราชสีมา-โชคชัย โดยมีเพื่อนผู้สื่อข่าวนั่งโดยสารมาในรถด้วย เพื่อตระเวนทำข่าวสถานการณ์น้ำท่วมในเขต อ.โชคชัย ขณะขับรถมาตามถนนสายหลัก มีรถยนต์กระบะที่มี ร.ต.ต. ประจิต เป็นคนขับ ได้ขับแซงด้านซ้ายและปาดหน้าในระยะกระชั้นชิด ตนจึงกระพริบไฟเตือนว่าขับรถไม่ถูกต้อง พร้อมกับบีบแตรไป 1 ครั้ง และขับรถต่อไปตามปกติ แต่ ร.ต.ต. ประจิต กลับแสดงกิริยาไม่พอใจพร้อมก้มลงไปหยิบอาวุธปืนที่วางอยู่ใกล้เบาะคนขับ และหันปากกระบอกปืนเล็งมาที่รถยนต์ของตน
       
       “ด้วยความตกใจ จึงรีบโทรศัพท์แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.โชคชัยให้ช่วยสกัดจับ จนสามารถสกัดจับไว้ได้ดังกล่าว ทั้งนี้ยืนยันว่าจะดำเนินคดีตามกฎหมายให้ถึงที่สุด เนื่องจาก ร.ต.ต.ประจิต เป็นถึงเจ้าหน้าที่ตำรวจ และยังลุแก่อำนาจ ใช้อาวุธปืนข่มขู่ประชาชน ทั้งที่ไม่เคยมีเรื่องบาดหมางใดๆมาก่อน ” นายพิศิษฐ์ กล่าว
       
       ทางด้าน ร.ต.ต. ประจิต กล่าวว่า ได้ขับรถแซงรถของผู้สื่อข่าวในระยะกระชั้นชิดจริง จากนั้นก็เห็นรถยนต์กระพริบไฟ พร้อมกับบีบแตร ตนจึงยกอาวุธปืนขึ้นมาเพื่อที่จะเป็นการบอกว่าขอโทษ ให้เลิกแล้วต่อกัน และการที่ใช้มือขวาข้างถนัดถืออาวุธปืนขึ้นมาเพราะซ้ายเป็นอัมพฤกษ์ แต่ไม่คิดว่าจะเป็นการเข้าใจผิด
       
       อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.โชคชัย จะดำเนินการสอบสวนหาข้อเท็จจริง เพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
 
 
 
 
อ้างอิง  ข่าวจากหนังสือพิมพ์ผู้จัดการ
กรุณา Login เพื่อแสดงความคิดเห็น
ส่ง Scoop ให้เพื่อน
แจ้งลบไม่เหมาะสม
ความคิดเห็น

เรื่องอื่นๆ ที่น่าสนใจ

Loading...