ฉาวอีก!รวบหลวงปู่จ่อยโกงนักธุรกิจ

 26ก.ย.2556 นายชัยสิทธิ์   บุญถนอม อายุ 44 ปี นักธุรกิจชาว จ.ชลบุรี ผู้เสียหายในฐานะโจทย์ยื่นฟ้องต่อศาลนครพนม คดีถูกอดีตพระเจ้าอาวาสดัง จ.นครพนมหลอกลวงฉ้อโกง พร้อมด้วยทนายความ ประสานงาน ร.ต.ต.พิภพ คณะเมือง รอง สวป. สภ.ตาดโตน อ.เมือง จ.สกลนคร นำกำลังตำรวจเข้าจับกุมพระใบฎีกาธีระยุทธ ปภัสโร หรือหลวงปู่จ่อย วัย 30 ปี อดีตเจ้าอาวาสวัดราษฎร์สวัสดิ์ ม.1 ต.ท่าลาด อ.เรณูนคร จ.นครพนม ตามหมายจับศาลจังหวัดนครพนม เลขที่ 100/2554 ออกเมื่อวันที่ 28 เมษายน 2554 เกี่ยวกับคดีฉ้อโกง ตามคดีดำเลขที่ 194/53 และคดีแดงเลขที่ 1095/2554 ขณะพักอยู่ภายในวัดบ้านนานกเค้า ต.ห้วยยาง อ.เมือง จ.สกลนคร   ก่อนควบคุมตัวมาที่ สภ.เรณูนคร จ.นครพนม ท้องที่เกิดเหตุ นำตัวส่งไปดำเนินคดีที่ศาลจังหวัดนครพนม ตามคำสั่งศาล เมื่อวันที่ 25 กันยายน 2556 ที่ผ่านมา
           
            สืบเนื่องตั้งแต่ปี 2553 นายชัยสิทธิ์และทนายความได้เข้าแจ้งความร้องทุกข์ต่อ พนักงานสอบสวน สภ.นาโดน อ.เรณูนคร กล่าวหาดำเนินคดีกับพระใบฎีกาธีระยุทธรที่อ้างตนเป็นฤาษีขมังเวทย์  นั่งบนตะปู อมไฟ ห่มหนังเสือเข้าร่างทรง และใช้อุบายหลอกขายพระทองคำให้ เพื่อที่จะนำเงินไปสร้างพระในวัด หลงเชื่อจึงโอนเงินเข้าบัญชีให้ประมาณ 1 ล้านบาท แต่ไม่ได้รับพระทองคำตามตกลง และไม่มีการก่อสร้างพระตามที่ตกลง

            นอกจากนี้ยังปฏิเสธหลังทวงถามหลายครั้ง  จึงมอบหมายให้ทนายความ นำหลักฐานเอกสารสำนวนยื่นฟ้องต่อศาลจังหวัดนครพนม ในข้อหาฉ้อโกง ซึ่งผู้เสียหาย มีหลักฐานพร้อมนำสลิปการโอนเงินผ่านธนาคาร เข้าบัญชีโดยตรงให้พระใบฎีกาธีระยุทธและหลักฐานภาพถ่าย หลังเข้าไปขอพบเพื่อไกล่เกลี่ยทวงเงินคืน จนกระทั่งมีการต่อสู้คดีตามกฎหมายมาต่อเนื่อง โดยทางจำเลยได้เลื่อนนัดศาลจังหวัดนครพนม และหนีการนัดของศาล จึงได้ออกหมายจับตามกฎหมาย และตำรวจจึงสามารถติดตามจับกุมตัวได้ในที่สุด
           
            ตรวจสอบพบว่าทางคณะสงฆ์อำเภอเรณูนครที่ดูแลรับผิดชอบได้ทำการถอดพระใบฎีกาธีระยุทธออกจากตำแหน่งเจ้าอาวาส ตั้งแต่ปี 2554 และแต่งตั้งเจ้าอาวาสคนใหม่เป็นที่เรียบร้อย ซึ่งในการพิจารณาให้ลาสิกขานั้น จะต้องเป็นการพิจารณาของพระอุปัชฌาย์ ดำเนินการทางวินัยสงฆ์ต่อไป  
         
            เบื้องต้นในการดำเนินคดี พระใบฎีกาธีระยุทธได้ขอยื่นประกันตัววงเงินประกันที่ 1.4 แสนบาท ทำให้ไม่ถูกจับสึกและไม่ถูกควบคุมตัวโดย พร้อมนัดสืบวันที่ 21 ตุลาคม 2556
        
            นายชัยสิทธิ์กล่าวว่า เคยมาทอดผ้าป่าที่วัดดังกล่าวเมื่อเดือน ก.พ.2552 โดยน้องชายแนะนำให้มาทำบุญวัดนี้ และรู้จักกับพระใบฎีกาธีระยุทธหรือชาวบ้านเรียก“หลวงปู่จ่อย” ชักชวนให้ร่วมสร้างพระประจำวันเกิด และพระประธานประจำวัด บอกว่าวัดต้องการใช้เงินหลายแสนบาท พร้อมเสนอว่ามีพระแม่อุมาเทวีทองคำแท้สูง 1 ฟุต มาค้ำประกันซึ่งจะนำไปมอบให้ภายหลัง จึงหลงเชื่อเนื่องจากเป็นเจ้าอาวาสที่ชาวบ้านศรัทธา และเป็นคนพื้นเพในละแวกนี้  จึงทะยอยโอนเงินให้กว่า 10 ครั้ง เป็นเงินจำนวนประมาณ 1 ล้านบาท  ผ่านบัญชีส่วนตัวระบุชื่อ พระใบฎีกาธีระยุทธ 
          
            เชื่อว่าจะนำเงินไปทำนุบำรุงพระศาสนา ระหว่างนั้นมีเงินไม่เพียงพอ จึงปรึกษากับนางกัลยา บุญถนอม ภรรยาวัย 41 ปี โดยนำสร้อยคอทองคำ สร้อยข้อมือ ที่สะสมมาตลอดชีวิตน้ำหนักกว่า 60 บาท ออกมาขายโอนเงินเข้าบัญชีให้หลวงปู่จ่อยจนครบ 9 แสนบาท ตั้งแต่เดือน ก.พ.-ต้นเดือน เม.ย.2552 จนกระทั่งผ่านมาหลายเดือน ไม่เห็นและไม่ได้รับพระทองคำตามที่กล่าวอ้าง ทวงถามหลายครั้ง พระใบฎีกาธีระยุทธบ่ายเบี่ยงและไม่ยอมรับสายโทรศัพท์ จนกระทั่งวันที่ 28 ส.ค.2552 ได้เดินทางมาทวงถามอีกครั้งที่วัด พระรูปนี้ได้แต่หลบหน้าหนีเข้าไปหลบในกุฏิ จากนั้นได้มีชายฉกรรจ์กว่า 10 คน อ้างเป็นทหาร ตำรวจ คุ้มกันและขัดขวางไม่ให้เข้าพบ และขู่ฆ่าเอาชีวิตจึงรู้แล้วว่าถูกหลอก

            เมื่อต้นเดือน ม.ค.2553 จึงได้ตั้งทนายเป็นโจทย์ยื่นฟ้องพระใบฎีกาธีระยุทธในข้อหาฉ้อโกง  ที่ศาลจังหวัดนครพนมพร้อมประทับรับฟ้อง  และมีการนัดไต่สวน แต่จำเลย ไม่มาตามนัดศาลจึงออกหมายจับ ซึ่งหลบหนีไปกบดานกว่า 2 ปี จนกระทั่งพบเบาะแสจึงประสานตำรวจจับกุมได้ อยากให้หน่วยงานเกี่ยวข้องในเรื่องของวินัยสงฆ์มาดูแลดำเนินการด้วย เนื่องจากเจ้าตัวยังไม่ลาสิกขา ทั้งนี้จึงฝากให้ประชาชนผู้ใจบุญอย่าหลงเชื่อ และเรียกร้องให้ผู้เสียหายอีกจำนวนมากออกมาแจ้งความดำเนินคดีกับพระนอกรีตนี้ด้วย

 
 
อ้างอิง  ข่าวจากหนังสือพิมพ์คมชัดลึก
28 ก.ย. 56 เวลา 15:08 1,576 2 50
แชร์สกู๊ป
กรุณา Login เพื่อแสดงความคิดเห็น
ส่ง Scoop ให้เพื่อน
แจ้งลบไม่เหมาะสม
ความคิดเห็น

เรื่องอื่นๆ ที่น่าสนใจ

Loading...