เมื่อวันที่ 3 กันยายน ที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) นางสดศรี สัตยธรรม กกต. ด้านกิจการพรรคการเมืองและการออกเสียงประชามติ กล่าวถึงกรณี กกต.มีมติดำเนินคดีอาญากับนายศิริโชค โสภา ส.ส.สงขลา พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) เนื่องจากโพสต์ภาพเผาบ้านเผาเมือง เมื่อช่วงเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม. พร้อมกับระบุว่าไม่เคยได้รับเชิญให้มาชี้แจงต่อ กกต.ว่า  ตามรายงานของอนุกรรมการไต่สวนข้อเท็จจริงคดีนี้ได้มีการแจ้งข้อกล่าวหาผู้ถูกร้องทุกคนและให้มีการชี้แจงแล้ว เว้นแต่นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรค ปชป. ซึ่งเป็นหนึ่งในผู้ถูกกล่าวหาที่อนุกรรมการฯ ไม่ได้มีการแจ้งข้อกล่าวหา แต่เมื่อ กกต. มีมติยกคำร้อง จึงไม่เป็นปัญหา สำหรับกรณีมีมติสั่งดำเนินคดีอาญากับนายศิริโชค แต่ไม่มีการสั่งเลือกตั้งใหม่ผู้ว่าฯ กทม.หรือให้ใบเหลืองกับม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร นั้น ขณะนี้ยังเป็นข้อสงสัยของหลายฝ่าย รวมถึงตนด้วยเพราะอนุกรรมการฯ มีมติเสียงข้างมากเสนอให้ยกคำร้อง โดยให้เหตุผลว่าไม่เห็นว่ากรณีดังกล่าวเป็นการใส่ความ ให้เกิดการเข้าใจผิดในคะแนนนิยม ซึ่งในการประชุม กกต. พบว่า กกต. หนึ่งเสียงก็มีมติเห็นตามอนุกรรมการฯ ที่เสนอ ให้ยกคำร้อง แต่มีสองเสียงเห็นว่า ให้ดำเนินคดีอาญาเพียงอย่างเดียว ขณะที่อีกสองเสียงเห็นว่า ให้ดำเนินคดีอาญาและสั่งให้มีการเลือกตั้งใหม่ ซึ่งเมื่อรวมมติแล้วกลายเป็นเสียงมากให้ยกคำร้อง แต่สั่งดำเนินคดีอาญากับนายศิริโชค

นางสดศรี  กล่าวว่า การโพสต์ภาพเผาบ้านเผาเมือง ในเฟซบุ๊กส่วนตัวของนายศิริโชค ไม่ได้มีแค่เพียงข้อความ แต่มีภาพของผู้สมัครผู้ว่าฯกทม.พรรคเพื่อไทย (พท.) และผู้ที่เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์สลายการชุมนุมปี 53 ซึ่งนายศิริโชค เป็นสมาชิกพรรคปชป. และส.ส.อีกทั้งขณะนั้นมีการเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม. ที่พรรคปชป. ส่งม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ ลงสมัครด้วย ดังนั้นมองว่าถ้าจะดำเนินคดีอาญา ตามมาตรา 118 ของ พ.ร.บ.เลือกตั้งท้องถิ่นฯ กับนายศิริโชค ก็ต้องทำไปพร้อมกับการสั่งให้มีการเลือกตั้งใหม่ เพราะถือว่าการโพสต์ภาพดังกล่าว ทำให้พรรคปชป.ได้ประโยชน์จากการเลือกตั้ง ถือเป็นความผิดตามมาตรา 57 ของ พ.ร.บ.เดียวกัน ตามที่มีการกล่าวหา ถ้าจะมองว่าเป็นการหมิ่นประมาทปกติตามประมวลกฎหมายอาญา เรื่องนี้สองเสียงข้างมากที่ให้ดำเนินคดีอาญาต้องยกคำร้องเลย แล้วให้ผู้เสียหายไปฟ้องร้องหมิ่นประมาทกันเอง ไม่ใช่มาสั่งดำเนินคดีอาญาในความผิดตาม พ.ร.บ.เลือกตั้งท้องถิ่นฯ แต่ไม่สั่งให้ใบเหลือง ผู้ว่าฯ กทม. เพราะที่ผ่านมาไม่เคยมีเช่นนี้ มันเหมือนมีมติเพียงครึ่งใบ