ผอ.รร.ดัง! โต้ลั่นถูกแบล็กเมล์ “สาวสปา“แจ้งจับ อ้างลวนลาม

วันที่ 29 ส.ค. ที่กระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) น.ส.นภัทร เล็กสุวรรณ อายุ 31 ปี อยู่บ้านเลขที่ 167/8 ถ.ทุ่งโฮเต็ล ต.วัดเกตุ อ.เมือง จ.เชียงใหม่ เจ้าของร้านธัญสินีสปา ย่านสายไหม กทม. พร้อมด้วยญาติ เข้าร้องเรียนกับสื่อมวลชน กรณีผอ.และรองผอ.โรงเรียนชื่อดังแห่งหนึ่ง ย่านสายไหม กระทำมิชอบด้วยกฎหมายและมีความประพฤติไม่เหมาะสมกับการเป็นข้าราชการชั้น ผู้ใหญ่

น.ส.นภัทรกล่าวว่า เมื่อเวลาประมาณ 16.00 น. วันที่ 17 พ.ค.ที่ผ่านมา ตนให้บริการต้อนรับลูกค้าที่มาใช้บริการนวดแผนไทยที่ร้าน ผอ.พร้อมด้วยรองผอ.โรงเรียนชื่อดังเข้ามาใช้บริการ แต่เนื่องจากขณะนั้นพนักงานนวดติดบริการลูกค้าคนอื่น ผอ.โรงเรียนจึงให้ตนนวดแทน ทั้งที่ปกติตนจะทำหน้าที่แคชเชียร์และต้อนรับลูกค้าเท่านั้น แต่ด้วยความเกรงใจเนื่องจากเห็นว่าน่าจะเป็นข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ ประกอบกับตนสามารถนวดแบบสปาได้ จึงยินดีไปนวดสปาให้

น.ส.นภัทร กล่าวอีกว่า แต่ระหว่างยืนนวดอยู่นั้น ผอ.คนดังกล่าวลุกขึ้นนั่งแล้วใช้ขาสองข้างขวางกั้นไม่ให้ตนขยับหนี ก่อนเข้าประชิดตัวและกระทำการที่ไม่เหมาะสม ตนไม่ยินยอมพยายามดิ้นรนต่อสู้ และส่งเสียงร้องขอความช่วยเหลือจนสามารถดิ้นหลุดออกมาได้ จากนั้นเพื่อนๆ ในร้านเข้าไปต่อว่าผอ.คนดังกล่าว แต่กลับถูกผอ.โต้กลับว่าไม่ได้ทำอะไร จากนั้นผอ.รีบแต่งตัวออกจากร้านไปพร้อมกับรองผอ.

น.ส.นภัทร กล่าวต่อว่า เช้าวันรุ่งขึ้นมีโทรศัพท์เข้ามาที่ร้านพูดจาข่มขู่ จากการตรวจสอบหมายเลขโทรศัพท์เป็นเบอร์ของโรงเรียนชื่อดังย่านสายไหม เมื่อเกิดเหตุการณ์ต่อเนื่องในลักษณะไม่สู้ดี ตนและครอบครัวเกรงจะไม่ได้รับความปลอดภัย จึงไปแจ้งความไว้เป็นหลักฐานที่สน.สายไหม เพื่อให้ดำเนินคดีกับผอ.โรงเรียนรายนี้ เมื่อวันที่ 20 พ.ค. ขณะนี้คดีอยู่ในชั้นศาล โดยวันที่ 31 ส.ค.นี้ศาลจังหวัดมีนบุรีนัดไปเบิกความนัดแรก

"ดิฉันร้อง เรียนเรื่องนี้เนื่องจากได้รับความเสียหาย และผู้กระทำความผิดเป็นข้าราชการระดับสูงของกระทรวงศึกษาธิการ ก่อนหน้านี้เมื่อวันที่ 12 ก.ค. มอบหมายทนายความมายื่นหนังสือร้องเรียนกับปลัดกระทรวงศึกษาฯ โดยมีเลขานุการหน้าห้องรับเรื่องไว้ แต่จนถึงขณะนี้เรื่องดังกล่าวไม่มีความคืบหน้า จึงจำเป็นต้องมาขอความเป็นธรรมจากสื่อมวลชนช่วยติดตามเรื่องนี้" น.ส.นภัทรกล่าว

ด้านนายชินภัทร ภูมิรัตน เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (กพฐ.) กล่าวว่า ได้รับเรื่องร้องเรียนแล้ว และส่งเรื่องให้สำนักพัฒนาระบบบริหารงานบุคคลและนิติการ สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงแล้ว เบื้องต้นต้องนำคำร้องเรียนของผู้ร้องมาประกอบ เพราะถือเป็นจุดเริ่มต้นที่จะสืบหาข้อเท็จจริง ตามวันเวลาสถานที่ที่ระบุไว้ โดยต้องมีพยานที่รับรู้ข้อเท็จจริง ซึ่งต้องเป็นไปตามหลักเกณฑ์การสอบ การจะสรุปข้อกล่าวหาที่มีผู้ร้อง ต้องมีหลักฐานชัดเจนว่าเป็นจริงหรือไม่

กรุณา Login เพื่อแสดงความคิดเห็น
ส่ง Scoop ให้เพื่อน
แจ้งลบไม่เหมาะสม
ความคิดเห็น

เรื่องอื่นๆ ที่น่าสนใจ

Loading...