เอพี - เกิดเหตุวัยรุ่นไนจีเรียวิ่งเข้าไปซ่อนตัวอยู่ในซุ้มล้อ (wheel well) ของเครื่องบินโดยสารในประเทศลำหนึ่ง และยังมีชีวิตรอดหลังจากที่เครื่องบินร่อนลงจอดในอีก 35 นาทีต่อมา สายการบินและสำนักงานการบินแห่งชาติไนจีเรีย (FAAN) แถลงเมื่อวานนี้(25)
       
       โอลา อาเดบันจี โฆษกสายการบินเอริคแอร์ เปิดเผยว่า ทั้งผู้โดยสารและลูกเรือเตือนให้นักบินระวังเด็กชายคนหนึ่งที่วิ่งตรงเข้ามา ขณะที่เครื่องกำลังแล่นไปบนรันเวย์เพื่อเทคออฟจากสนามบินเมืองเบนินซิตี ทางตอนใต้ของไนจีเรีย เมื่อวันเสาร์(24) หลังจากนั้นนักบินก็ได้แจ้งข้อมูลให้ FAAN ทราบ
       
       “เราเป็นห่วงเรื่องมาตรการดูแลความปลอดภัยในสนามบินที่ยังหย่อนยานเหลือเกิน” คริส เอ็นดูลูเอ ผู้อำนวยการบริหารของเอริคแอร์ ให้สัมภาษณ์
       
       ขณะเดียวกัน โฆษกสำนักงานการบินแห่งชาติไนจีเรีย ยากูบู ดาตี เปิดเผยว่า กัปตันเลือกที่จะนำเครื่องขึ้นบินต่อไป ทั้งที่เห็นความเป็นไปได้ว่าเด็กชายอาจจะติดมาด้วย
       
       “ทันทีที่เครื่องบินเทคออฟ หน่วยรักษาความปลอดภัยของ FAAN ก็ได้เข้าไปตรวจสอบบริเวณรันเวย์ทันที และไม่พบความผิดปกติใดๆ” ดาตี กล่าว
       
       เมื่อเครื่องบินร่อนลงจอดที่เมืองลากอส ปรากฎว่าเด็กชายอายุประมาณ 13-14 ปีได้กระโดดออกมาจากล้อเครื่องบิน และถูกเจ้าหน้าที่เอริคแอร์ควบคุมตัวไว้ได้
       
       อาเดบันจี ชี้ว่า เด็กหนุ่มคนนี้รอดชีวิตมาได้อาจเพราะเป็นเที่ยวบินระยะสั้นที่ใช้เวลาเดินทางเพียงครึ่งชั่วโมง และเครื่องอาจจะบินสูงไม่เกิน 25,000 ฟิต (7,620 เมตร)
       
       อย่างไรก็ดี คนที่แอบซ่อนตัวไปกับเครื่องบินส่วนใหญ่ไม่ได้โชคดีเช่นนี้
       
       เมื่อเดือนกรกฎาคม เจ้าหน้าที่ไนเจอร์พบร่างชายคนหนึ่งตกจากฟ้าลงมาเสียชีวิตทางฝั่งตะวันตกของกรุงนีอาเม โดยจากการตรวจสอบพบว่า น่าจะเป็นชายที่ลักลอบติดไปกับเครื่องบินแอร์ฟรานซ์ ซึ่งออกจากกรุงวากาดูกูของบูร์กินาฟาโซมาแวะจอดที่ไนเจอร์ ก่อนจะเดินทางต่อไปยังกรุงปารีส
       
       เดือนกันยายนปีที่แล้ว ร่างของ โฆเซ มาตาดา วัย 26 ปี ซึ่งเป็นชาวโมซัมบิก ตกลงมากลางถนนทางตะวันตกเฉียงใต้ของกรุงลอนดอน โดยนายจ้างของเขาให้สัมภาษณ์ว่า ผู้ตายเคยแสดงความปรารถนาที่จะอพยพมายุโรปเพื่อชีวิตที่ดีกว่า
       
       เบื้องต้นตำรวจอังกฤษสันนิษฐานว่าเขาอาจเป็นเหยื่อฆาตกรรม แต่เมื่อตรวจสอบจึงพบว่าศพตกลงมาจากเครื่องบินโดยสารซึ่งกำลังจะลงจอดที่สนามบินนานาชาติฮีทโธรว์

อ้างอิง  ข่าวจากหนังสือพิมพ์ผู้จัดการ