แกนนำ - ภาพถ่ายล่าสุดของนายสะแปอิง บาซอ (ซ้าย) แกนนำคนสำคัญกลุ่มบีอาร์เอ็น ดื่มน้ำชาในช่วงท้ายของเดือนรอมฎอนรัฐเปรัค ประเทศมาเลเซีย ที่คนไทยที่ไปทำงานแอบถ่ายและส่งมาให้ฝ่ายความมั่นคง เปรียบเทียบกับรูป (ขวา) ที่ถ่ายกว่าสิบปีมาแล้ว เมื่อวันที่ 23 สิงหาคม

ผู้สื่อข่าวรายงานจาก จ.ปัตตานี ว่าแหล่งข่าวความมั่นคงในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ได้เปิดเผยว่า ได้รับการติดต่อจากคนไทย ซึ่งไปประกอบอาชีพอยู่ในประเทศเพื่อนบ้านว่าสามารถถ่ายภาพล่าสุดของนายสะแปอิง บาซอ แกนนำคนสำคัญของขบวนการแบ่งแยกดินแดน และนายอดุลย์ มุณี สมุนคนสนิท ขณะเดินทางไปพบปะกับกลุ่มบุคคล แต่ไม่ทราบรายละเอียด โดยทั้งสองคนได้เดินทางไปร่วมพิธีเปิดบวชในช่วงปลายของเดือนรอมฎอน หรือช่วงท้ายเดือนถือศีลอดของชาวมุสลิม โดยการพบปะมีการร่วมดื่มกินน้ำชาใช้เวลาอยู่นานพอสมควรในสถานที่แห่งหนึ่งในรัฐเปรัค ประเทศมาเลเซีย

แหล่งข่าวคนเดิมยังเผยว่า ภาพดังกล่าวถูกถ่ายได้โดยใช้โทรศัพท์มือถือ ซึ่งไม่ใช่ยี่ห้อที่มีราคาแพงมากนัก ทำให้คุณภาพของภาพไม่คมชัดเท่าที่ควร แต่จะนำไปเปรียบเทียบและพิสูจน์ทราบเอกลักษณ์บุคคล ทั้งนี้ ถือว่าเป็นภาพใหม่ล่าสุดของบุคคลทั้งสองเท่าที่หน่วยงานความมั่นคงมีอยู่ในขณะนี้ และภาพดังกล่าวยังจะเป็นประโยชน์ต่อการนำไปทำแฟ้มประวัติภาพล่าสุดของผู้ต้องหาตามหมายจับของไทย และเป็นการลบข่าวลือที่บางหน่วยข่าวรายงานว่า นายสะแปอิงอาจมีการเปลี่ยนโฉม หรือมีการไว้ผม หนวด เครายาวอำพรางใบหน้าจริง

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากการเปิดแฟ้มประวัติของหน่วยงานความมั่นคงระบุว่า นายสะแปอิง บาซอ มีตำแหน่งเป็นครูใหญ่ของโรงเรียนสอนศาสนาแห่งหนึ่งใน จ.ยะลา แต่มีพื้นเพเดิมอยู่ที่ ต.เมาะมาวี อ.ยะรัง อดีตยังเคยเป็นกรรมการอิสลามประจำ จ.ยะลา ด้านการศึกษานายสะแปอิงจบการศึกษาด้านศาสนาจากเมืองมาดีนะห์ ประเทศซาอุดิอาระเบียในยุคก่อนที่รัฐบาลซาอุดิอาระเบียจะปรับปรุงระบบการเรียนการสอนทางด้านศาสนาด้วยการหันไปยึดแนวทางของวาฮาบี ส่วนด้านขบวนการนายสะแปอิงถูกยกระดับให้เป็นแกนนำคนสำคัญของขบวนการก่อความไม่สงบในจังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยเฉพาะในกลุ่มขบวนการบีอาร์เอ็น โคออร์ดิเนต และมักจะเป็นผู้มีส่วนเกี่ยวโยงกับเหตุการณ์สำคัญๆ รวมทั้งการสั่งการให้ก่อความไม่สงบหลายครั้ง จนหน่วยงานความมั่นคงต่างระบุและเชื่อกันว่า นายสะแปอิงจะเป็นผู้ครองตำแหน่งนายกรัฐมนตรีแห่งรัฐปัตตานี หากแบ่งแยกดินแดนได้สำเร็จ และยังเชื่อว่าเป็นผู้คอยบงการอยู่เบื้องหลังการพูดคุยสันติภาพของกลุ่มบีอาร์เอ็น