เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 6 สิงหาคม ที่สถานีตำรวจภูธรเมืองปัตตานี พ.ต.อ.ต่วนเดร์ จุฑานันท์ ผกก.สภ.เมืองปัตตานี ได้เรียกชุดสืบสวนสอบสวน รวมไปถึงพนักงานสอบสวนเจ้าของคดี เหตุคนร้ายลอบยิง นายยะโก๊บ หร่ายมณี อิหม่ามประจำมัสยิดกลาง จ.ปัตตานี เสียชีวิตขณะเดินซื้อกับข้าวกับภรรยาในตลาดนัดจะบังติกอ อ.เมืองปัตตานี เหตุเกิดเมื่อวันที่ 5 ส.ค.ที่ผ่านมา

พ.ต.อ.ต่วนเดร์ได้ให้ชุดสืบสวนสอบสวนรายงานความคืบหน้าในการติดตามคนร้ายรวมไปถึงวัตถุพยานต่างๆ โดยเฉพาะการสอบปากคำพยานบุคคลที่อยู่ในที่เกิดเหตุ เนื่องจากช่วงเกิดเหตุมีประชาชนจำนวนมากและน่าจะเห็นตัวคนร้ายที่ก่อเหตุ ตามภาพวงจรปิดที่จับภาพคนร้ายได้ทั้ง 4 คน ซึ่งในเบื้องต้นรู้ตัวแล้ว 2 ใน 4 คน แต่ยังไม่สามารถเปิดเผยได้ เกรงจะเสียรูปคดี ส่วนสาเหตุนั้นยังต้องมีการสอบสวนในทางลึกอีกครั้งและจะนำคดีเก่าที่ผู้ตายเคยถูกลอบยิง เมื่อปี 2554 มาผนวกกัน คาดว่าน่าจะรู้สาเหตุที่ชัดเจนขึ้น ส่วนสาเหตุตั้งไว้ 2 ประเด็น คือเรื่องความขัดแย้งภายในโดยการใช้กลุ่มแนวร่วมก่อเหตุ เพื่อให้เป็นเรื่องสร้างสถานการณ์

ขณะที่ชุดสืบสวนสอบสวนคดีความมั่นคงพบเบาะแสจากกล้องวงจรปิดที่สามารถจับภาพคนร้าย 4 คน ใช้รถ จยย. 2 คัน ขับเข้ามาในตลาดใกล้กับจุดที่นายยะโก๊บอยู่ โดยคนร้ายคันแรกสวมใส่เสื้อสีขาวคนขับสวมหมวกกันน็อก คนซ้อนท้ายสวมหมวกผ้าปิดบังใบหน้าในมือถืออาวุธปืนสันขนาด .38 ส่วนคนร้ายคันที่ 2 คนขับสวมเสื้อสีดำสวมหมวกกันน็อก คนซ้อนท้ายสวมเสื้อสีส้มมีอาวุธปืนสั้นขนาด  .38 และกำลังเล็งไปด้านหน้า ซึ่งชุดสืบสวนสอบสวนทั้งของจังหวัด สภ.เมือง ต่างระดมเกาะรอยรูปท่าทาง รูปพรรณโดยการเปรียบเทียบจากแฟ้มประวัติของคนร้ายทั้งคดีความมั่นคงและคดีอาชญากรรม นอกจากนี้ได้นำภาพวงจรปิดให้ผู้ต้องหาคดีความมั่นคงที่ถูกควบคุมตัวดูว่าคนร้ายทั้ง 4 คน มีบุคลิกรูปพรรณตรงกับใครและอยู่ในกลุ่มใด ขณะที่อาวุธปืนที่คนร้ายใช้ก่อเหตุเป็นปืนขนาด .38 ทั้ง 2 กระบอก ส่วนหัวกระสุนปืนที่พบนั้นหลังจากที่ได้นำไปตรวจพิสูจน์พบว่าเคยนำไปก่อเหตุมาแล้ว 10 คดี ทั้งยิงตำรวจ และประชาชน ในพื้นที่ อ.เมืองปัตตานี ซึ่งอาวุธปืนมีการหมุนเวียนนำไปก่อเหตุ เมื่อมาตรวจสอบภาพวงจรปิดเกี่ยวกับตัวคนร้ายก็ทำให้คดีดูแคบลงและอาจจะสาวไปถึงสาเหตุที่ชัดเจน