คืนเขย่าขวัญ

"ปารณ" เล่าประสบการณ์ขนหัวลุกในแท็กซี่ยามดึก

เรื่องผีๆ สางๆ นี่ผมยังไม่กล้าฟันธงว่ามีจริงหรือไม่? แต่ถ้าถามถึงความเชื่อก็พอจะบอกได้ว่า 50-50 ครับ คือใจหนึ่งก็ไม่อยากเชื่อว่าผีมีจริง เพราะโลกเราเจริญขนาดนี้แล้วนี่นา แต่อีกใจก็ยังหวาดๆ เวลาอยู่ในที่เปลี่ยวๆ ตอนกลางคืน

บางคนบอกว่า เพราะเรากลัวความมืด เราจึงกลัวผี!

แต่บางคนก็บอกว่า ผีเกิดจากมโนคติหรือจิตใต้สำนึกของตัวเองต่างหาก คนเราส่วนมากจะมีจินตนาการเรื่องผี ในที่สุดก็สร้างผีขึ้นมา ทำให้ตัวเองเชื่อว่าผีมีจริง

ทั้งหลายทั้งปวงก็แล้วแต่ใครจะเชื่อฝ่ายไหน? แต่ผมเองได้พบกับเรื่องแปลกประหลาดสุดๆ ในตอนดึกคืนหนึ่ง ไม่รู้ว่าสิ่งที่เจอะเจอเข้าอย่างจังๆ จะเป็นภูตผีปีศาจ หรือว่าสมองฟั่นเฟือน ขาดสติสัมปชัญญะไปชั่วครู่เพราะเกิดอุบัติเหตุ

คืนนั้น ผมไปงานวันเกิดเพื่อนที่อยู่บริษัทเดียวกัน ที่ร้านอาหารริมถนนตัดใหม่ใต้ทางด่วนเอกมัย - รามอินทรา

น่าแปลกอย่างที่เพื่อนๆ ดื่มเหล้าไปแค่ 2-3 แก้วก็จับบทคุยเรื่องผีกันแล้วครับ

วิชิตอยู่แถวธัญญะ เล่าถึงกระสือที่วัดพญาปลาว่ามีตัวตนจริงๆ ตอนกลางคืนลอยมากินไก่ชาวบ้านจนเขาดักรอกัน พอเห็นมีดวงไฟเหลืองๆ ลอยมาที่ใต้ถุนบ้านแล้วกลายเป็นคนผิวดำๆ ผมยาวสยาย ก็ช่วยกันล้อมจับ แต่ผีกระสือไวมากจนแหวกวงล้อมไปได้

เพื่อนบ้านคนหนึ่งคว้าได้ท่อนไม้ก็ขว้างใส่ โดนขาจนมันแผดร้องเสียงโหยหวนก่อนจะหนีเตลิดไป...รุ่งขึ้นจึงเห็นหญิงชราผู้หนึ่งเดินลากขามาซื้อของที่ร้านชำ ใครถามก็บอกว่าหกล้มเมื่อคืน แต่ไม่มีใครเชื่อ ยืนยันว่าแกเป็นผีกระสือที่ดอดมากินเป็ดกินไก่ชาวบ้านเป็นประจำ...ในที่สุดก็ขับไล่แกออกไปจากหมู่บ้านจนได้!

ต่อจากวิชิต คนอื่นๆ ก็ผลัดกันเล่าเรื่องผีกันอย่างสนุกสนาน...สมานอยู่พระโขนงเล่าว่ามีคนโดนรถชนตายในซอยเมื่อเดือนก่อน...อีกไม่กี่วันก็มีคนเห็นร่างโชกเลือดเดินเปะปะอยู่แถวนั้น หมาหอนโหยหวนทุกคืนจนพากันขนลุกขนพองไปตามๆ กัน หลายๆ คนยืนยันว่าโดนผีหลอกชนิดเต็มตา...ผีที่ตายเพราะโดนรถชนยังเดินวนเวียนอยู่ในซอยหลายวันกว่าจะหายไป

บ้านผมอยู่หลังไทยอินเตอร์ มีถนนคดเคี้ยวกับบ้านช่องเยอะแยะ ไม่มีอะไรน่ากลัว แถมยังมี

วินมอเตอร์ไซค์อยู่ใกล้ๆ บ้านอีกด้วย

ราวสองยามก็แยกย้ายกันกลับบ้าน ผมนั่งแท็กซี่ก็มานึกถึงเรื่องผีๆ สางๆ ที่เพิ่งได้ฟังมาหยกๆ ถ้าเราไปเจอร่างโชกเลือดในที่เปลี่ยวก็คงสยองน่าดูเหมือนกัน...พอดีรถเข้าซอย...เลี้ยวขวาเลี้ยวซ้ายตามที่ผมบอก ถนนโล่งว่างอยู่ในแสงไฟเยือกเย็น...

ทันใดนั้นเอง ร่างดำๆ ก็พุ่งพรวดออกมาจากข้างทาง!

"เฮ้ย! ไอ้เห้..." คนขับแท็กซี่ร้องลั่น หักรถหลบวูบแต่คงไม่พ้น เพราะได้ยินเสียงโครม! ผมกระเด็นไปฟาดประตูรถด้านซ้ายเต็มแรง...แสงสว่างดับวูบ โลกทั้งโลกกลายเป็นความมืดมิดราวกับขุมนรกอเวจีในบัดดล

สรรพสิ่งเงียบเชียบ...เงียบเหลือเกิน ผมคงจะตายไปแล้ว แต่ไม่มีความเจ็บปวดอะไรเลยแม้แต่นิดเดียว! ผมพยายามเบิ่งตามองฝ่าความมืดออกไป...แปลก! ไม่ยักมืดมิดเหมือนตอนแรกหรอก แต่เห็นแสงเหลืองๆ จากเสาไฟฟ้าส่องลงมาเยือกเย็น ร่างผมนอนเค้เก้อยู่ในพงหญ้าริมทาง ใกล้ๆ กับรั้วบ้านใครก็ไม่รู้...

อ้าว? แท็กซี่คันนั้นล่ะ หายไปไหนแล้ว?

เพิ่งนึกออกว่ามีคนตัดหน้า เสียงโครม...รถคงชนหรือไม่ก็หักหลบไปชนเสาไฟฟ้าก็ไม่รู้ เพราะผมหมดสติไปก่อน...ว่าแต่ร่างที่ตัดหน้าไปไหน? คงจะไม่โดนชนละมั้ง? ว่าแต่แท็กซี่คันนั้นน่าจะอยู่ใกล้ๆ ผมนะ ทำไมถึงได้พลอยหายเงียบไปด้วย?

ทั้งเงียบเชียบและเปล่าเปลี่ยวเหมือนตกอยู่ในโลกร้างไม่มีผิด!

ผมพยุงกายลุกขึ้นยืน...เอ๊ะ! ไม่ได้เจ็บปวดหรือเป็นอะไรมากนี่นา หัวไม่ได้แตกแข้งขาก็ไม่ได้หัก มองเห็นมะขามใหญ่จากที่ว่างแผ่กิ่งก้านสาขาออกมานอกรั้ว...คลุมมาถึงเพิงแท็กซี่ในหมู่บ้านที่ผมจำได้ดี

ปกติเคยเห็นพวกวินมอเตอร์ไซค์จับกลุ่มคุยกัน รถที่จอดอยู่ก็มีหมวกกันน็อกสีขาวทุกคัน แต่ตอนนี้ไม่มีใครอยู่เลย รถราก็ไม่เหลือแม้แต่คันเดียว

อ้อ! ดึกดื่นป่านนี้แล้วนี่นา...ผมเดินไปที่เพิ่งร้าง ดูเปล่าเปลี่ยวและเงียบเชียบว่าจะนั่งพักเอาแรง กำลังสำรวจร่างกายให้แน่ใจว่าไม่ได้เป็นอะไรจริงๆ พลางนึกถึงแท็กซี่คันนั้น...

ให้ตายเถอะ! เขาไม่น่าจะทิ้งผู้โดยสารไว้ข้างถนนแบบนั้นนี่นา ใจดำชะมัดเลย!

แต่...นรกเถอะ! นั่นอะไรที่อยู่บนเพิงไม้เตี้ยๆ แคบๆ มีผ้าใบเก่าๆ คลุมเป็นหลังคาอยู่ใต้กิ่งใบมะขามร่มครึ้มน่ะ?

ถึงแม้จะเป็นภาพสลัวๆ ก็ยังเห็นได้ชัดว่าเป็นหญิงชายคู่หนึ่งที่กำลังกอดรัดฟัดเหวี่ยงกันอย่างลืมตัวลืมตาย...ผมชะงัก เกือบเป็นพริบตาเดียวกับที่ร่างทั้งสองลุกพรวดพราดขึ้นมาหันมองจนผมตกใจ ผงะหน้า ร้องอุทานออกมาอย่างไม่รู้ตัว

คราวนี้โลกทั้งโลกแตกเป็นเสี่ยงๆ ทันที เมื่อมองเห็นใบหน้าแหลกยับเปรอะเลือดของหญิงชายคู่นั้น ตามลำคอและทรวงอกก็เต็มไปด้วยเลือด...เลือด และเลือดทั้งนั้น!

"เฮ้ย! อะไรกัน..." ผมร้องตะโกนสุดเสียง ม่านตาลายพร่าด้วยความหวาดกลัวสุดขีด พลันได้ยินเสียงปนหัวเราะ...ไม่เป็นไร ผมหลบไอ้บ้านั่นทันพอดี!

คราวนี้กะพริบตาถี่ๆ มองเห็นคนขับแท็กซี่หันมายิ้มฟันขาว...ผมตกตะลึงไปหมด เหลียวซ้ายแลขวางุนงงก็พบว่าตัวเองยังนั่งอยู่ในรถแท็กซี่ตามเดิม...แสงไฟส่องลงมาเห็นเพิงว่างเปล่าใต้ร่มเงามะขามพอดี

ลงจากแท็กซี่หน้าบ้าน ขาสั่นระริกพอๆ กับหัวใจที่ยังเต้นระทึก...ไม่รู้ว่าสิ่งที่เห็นเป็นผีจริงๆ หรือเป็นเพียงภาพหลอนเท่านั้น แต่นึกถึงแล้วขนหัวลุกทุกทีเลยครับ!

16 มี.ค. 53 เวลา 09:20 1,599 4 68
แชร์สกู๊ป
กรุณา Login เพื่อแสดงความคิดเห็น
ส่ง Scoop ให้เพื่อน
แจ้งลบไม่เหมาะสม
ความคิดเห็น

เรื่องอื่นๆ ที่น่าสนใจ

Loading...