สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ เมื่อวันที่ 23 ก.ค. ทำความรู้จักกับนายแพทย์มาร์คัส เซ็ธเชลล์ สูตินรีแพทย์ผู้ถวายการทำคลอดให้แก่แคทเธอรีน ดัชเชสแห่งเคมบริดจ์ และอาคาร "ลินโด วิง" ในโรงพยาบาลเซ็นต์ แมรี กลางกรุงลอนดอน สถานที่ประสูติของรัชทายาทราชวงศ์อังกฤษยุคใหม่

นพ.เซ็ธเชลล์ วัย 69 ปี จบการศึกษาจากภาควิชาสูติศาสตร์-นรีเวชวิทยา คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเคมบริดจ์ เข้าถวายการรับใช้ราชวงศ์วินด์เซอร์ ในฐานะสูตินรีแพทย์ประจำพระองค์สมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 ตั้งแต่ช่วงปี 2533 หลังการเกษียณอายุของนพ.เซอร์ จอร์จ พิงเกอร์ ศัลยแพทย์ประจำราชสำนักคนเก่า ผู้ถวายการทำคลอดให้ไดอานา เจ้าหญิงแห่งเวลส์ ซึ่งทรงมีพระประสูติกาลเจ้าชายวิลเลียมและเจ้าชายแฮร์รี

ทั้งนี้ นพ.เซ็ธเชลล์เป็นผู้ทำคลอด โซฟี เคาน์เทสแห่งเวสเซ็กซ์ พระชายาในเจ้าชายเอ็ดเวิร์ด เอิร์ลแห่งเวลเซ็กซ์ พระโอรสองค์เล็กในสมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 และเจ้าชายฟิลิป ดยุคแห่งเอดินบะระ ซึ่งเคาน์เทสให้กำเนิดบุตรสาว คือ เลดี้ ลูอิส วินด์เซอร์ เมื่อเดือนพ.ย. 2546 และวิสเคาน์ เซเว่น วินด์เซอร์ ในอีก 2 ปีถัดมา นอกจากนี้ ยังเป็นผู้ถวายการผ่าตัดกล่องพระสกุล ( มดลูก ) ให้แก่คามิลลา ดัชเชสแห่งคอร์นวอลล์ด้วย

สำหรับโรงพยาบาลเซ็นต์ แมรีนั้น เริ่มเป็นที่รู้จักในวงกว้างจากการเป็นสถานที่ประสูติของเจ้าชายวิลเลียมและเจ้าชายแฮร์รี เมื่อปี 2525 และ 2528 ตามลำดับ ทว่าก่อตั้งขึ้นตั้งแต่เมื่อปี 2388 นอกจากเป็นโรงพยาบาลแล้วยังเป็นโรงเรียนฝึกหัดแพทย์ด้วย สามารถรองรับผู้ป่วยได้ 495 เตียง ส่วนอาคารลินโด วิงนั้น ตั้งอยู่ในส่วนของแผนกสูตินรีเวช ได้รับความเชื่อถือจากชนชั้นสูงที่กำลังจะคลอดบุตรตั้งแต่ในอดีต ในเรื่องคุณภาพของการดูแลว่าที่คุณแม่ตั้งแต่ก่อนคลอดจนกระทั่งหลังคลอด และออกจากโรงพยาบาล

อย่างไรก็ตาม สมาชิกราชวงศ์วินด์เซอร์ในระดับรัชทายาท จะต้องประสูติที่พระตำหนัก หรือพระราชวังแห่งใดแห่งหนึ่งมาตลอด ยกเว้นกรณีของสมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 ซึ่งประสูติที่บ้าน เนื่องจากในเวลานั้นไม่มีใครคาดว่า พระองค์จะเสด็จขึ้นครองราชย์เป็นกษัตริย์แห่งอังกฤษ

ปัจจุบันค่าห้องพักภายในลินโด วิงอยู่ที่เฉลี่ยคืนละ 5,000 ปอนด์ ( ราว 238,500 บาท ) ภายในเต็มไปด้วยเครื่องอำนวยความสะดวกครบครัน และตกแต่งไม่ต่างจากห้องสวีทในโรงแรม 5-6 ดา