:::เชิญชมแฟชั่น5เทพีกรีกแห่งโอลิมปัส:::

:::เชิญชมแฟชั่น5เทพีกรีกแห่งโอลิมปัส:::
 

ช่วงนี้จขกท.งานยุ่งมากๆๆๆๆไม่เว้นแม้แต่เสาร์-อาทิตย์ก็ไม่ได้พัก ยังไงก็อย่าลืมกันนะคร้าบ )หน้าตาอาจจะไม่สวยมากนักเพราะวาดเมื่อ2-3ปีมาแล้วครับ ยกเว้นภาพเฮราเพิ่งวาดเมื่อ2อาทิตย์ก่อน ช่วงนั้นกำลังฝึกวาดอะไรใหม่ๆ และช่วงนั้นตุ๊กตาบลายกำลังดังก็เลยได้แรงบันดาลใจจากน้องเค้า^^ หัวโตๆน่ารักดีครับ

  เข้าเรื่องนะครับ เครื่องแต่งกายกรีกโบราณมีอยู่หลายแบบ โดยในกระทู้นี้จะพูดในช่วงยุคคลาสสิคถึงยุคเฮเลนนีสติค โดยส่วนใหญ่เสื้อผ้าของชาวกรีกจะผลิตกันเองที่บ้านจากฝ้าย ลินิน และขนสัตว์ น่าเสียดายที่ไม่มีเสื้อผ้าจริงๆหลงเหลือมาจนถึงปัจจุบัน แต่อย่างไรเราสามารถศึกษารูปแบบจากประติมากรรม ภาพเขียน ได้ครับ

เสื้อผ้าแบบกรีกโบราณมีดังนี้

1Peplos
เป็นเครื่องแต่งกายสตรีกรีกในยุคแรกๆ ในขณะที่ชาวเมืองสปาร์ตาเริ่มใส่ช่วงยุคหลังๆ มีลักษณะเป็นผ้าผืนสี่เหลี่ยม เวลาใส่จะพับส่วนบนประมาณ1ใน3ของความยาวและเอาเข็มกลัดติดที่ไหล่ เอาเชือกมัดที่เอวโดยจะเปิดด้านข้าง มักจะพบมากตามภาพเขียนข้างแจกัน มักผลิตจากผ้าขนสัตว์เนื้อหนา



2Chiton
แบ่งออกเป็น2แบบคือ Doric Chiton และ Ionic Chiton ดอริคชิตอนเกิดก่อนลักษณะคล้ายเปปลอสแต่จะเย็บเป็นถุงเวลาใส่จะเอาเข็มกลัด กลัดไหล่2ข้าง แขนกุด ดอริคชิตอนจะคล้ายกับเปปลอสมากครับต่างที่รายละเอียดเปปลอสนั้นผลิตจะผ้าผืน สี่เหลี่ยมส่วนดอริคชิตอนจะเย็บเป็นถุงครับ ไอโอนิคชิตอนพัฒนามาจากแบบดอริค ดูหรูหรากว่า จะเย็บเป็นถุงเช่นเดียวกันแต่จะกว้างกว่าทำให้เวลาใส่จะกลายเป็นชุดมีแขน ชิตอนนี้มักผลิตจากฝ้ายและลินินทำให้เวลานุ่งจะเกิดพลีทง่ายกว่าแบบเปปลอส

ดอริกชิตอน


ไอโอนิกชิตอน
3Chlamys
เป็นผ้าคลุมไหล่ของผู้ชาย เวลาใส่จะเอาเข็มกลัดกลัดทำให้ทิ้งชายพลีทเป็นรูปสามเหลี่ยม

4Himation
เป็นผ้าคลุมด้านนอกใช้ในเวลาที่อากาศเย็น เป็นแฟชั่นที่มาระยะหลังๆนิยมมากในสมัยเฮเลนนิสติค ใช้ใส่บนชิตอนนอกจากจะป้องกันความหนาวเย็นแล้วยังดูหรูหราสวยงาม แต่ก็สามารถใส่ตัวเปล่าได้เช่นกันแต่จะเรียกว่า Achiton ในสมัยโรมันจะเรียกฮิเมชั่นว่าโทก้า


คราวนี้เรามาชมภาพกันดีกว่าครับ ภาพชุดนี้วาดจากพื้นฐานของชุดกรีกโบราณ แต่จะใส่ความเป็นแฟชั่นและจินตนาการลงไปด้วยให้สมกับเป็นภาพวาดเทพนิยาย โดยใช้สีสัน ลวดลายสื่อถึงองค์เทพีนั้นๆ

เฮรา ราชินีแห่งทวยเทพ

เฮราได้ชื่อว่าเป็นมเหสีแห่งซูสผู้เป็นราชาแห่งทวยเทพ พระนางมีนิสัยเกรี้ยวกราดและขี้หึง โดยจะทรงจัดการกับชู้รักของซูสและลามไปถึงลูกๆของชู้รักอย่างสาสมและโหด เหี้ยม(ตามสไตล์เมียหลวง)พระ นางเป็นเทพีแห่งหญิงสาวและการสมรส และปกป้องสตรีที่แต่งงานแล้ว ตำนานโบราณกล่าวว่าวัวเป็นสัตว์ประจำตัวพระนาง แต่ตำนานสมัยใหม่คือนกยูง พระนางมีโอรสธิดากับซูสหลายพระองค์แต่ที่สถิตอยู่ณ.โอลิมปัสมี2องค์คือ เเอเรส เทพสงคราม เเละ เฮเฟสทัส เทพแห่งวิศวะกรรม

  เครื่องแต่งกายของเฮรานี้จขกท.ลงสีเน้นสีเขียว-ฟ้าเป็นสีที่สื่อถึงนกยูง สัตว์ประจำตัวของเฮรา สวมมงกุฏแสดงถึงความเป็นราชินีแห่งเทพทั้งมวล นั่งบัลลังก์พร้อมท่าทีกำลักนึกแผนกำจัดเมียน้อยของสามีจอมเจ้าชู้^^

อะธีน่า เทพีแห่งปัญญา

มีชื่อเต็มว่าพัลลัสอะธีน่า ว่ากันว่าอะธีน่าทรงถือกำเนิดมาจากศีรษะของซูส เนื่องจากซูสได้กลืนเทวีเมทิลขณะตั้งครรภ์ลงไป อะธีน่านั้นเป็นลูกรักของซูสและแน่นอนว่าย่อมสร้างความไม่พอใจกับเฮราอย่าง มาก อะธีน่านั้นเป็นเทพีที่ครองพรหมจรรย์ นอกจากจะเป็นเทพแห่งปัญญาแล้วยังเป็นเทพแห่งสงครามด้วยแต่เป็นสงครามที่ใช้ สมองและกลยุทธมากกว่ากำลังอย่างแอเรส ชื่อของพระนางเป็นที่มาของชื่อเอเธนส์เมืองหลวงของกรีซเนื่องจากทรงชนะชนะ เทพโพไซดอนเพราะทรงมอบต้นมะกอกที่มีคุณประโยชน์เป็นของกำนัลแก่มวลมนุษย์

  สวมใส่ชุดสีทองสีแห่งปัญญาความรู้ ตัวเสื้อประยุกต์จากการพันผ้าของกรีก ผมสีน้ำตาลตามแบบตำนานกรีก มือถือนกฮูกสัตว์แห่งปัญญา สวมมงกุฏช่อมะกอกอันเกี่ยวเนื่องกับตำนานกรุงเอเธนส์

อะโฟรไดต์ เทพีแห่งความรัก

นอกจากจะเป็นเทพีแห่งความรักแล้วยังทรงเป็นเทพีแห่งตัณหาราคะ ความงาม ความปรารถนา
กวีกรีกมักสร้างพระนางเป็นหญิงงามที่มีจิตริษยา บางครั้งทรงมอบความใคร่ให้กับชายชู้หนุ่มหล่อมากหน้าหลายตาบางครั้งก็ทำลาย ความรักกับคนที่พระนางเกลียดชัง กล่าวกันว่าพระนางเกิดมาจากฟองคลื่นในมหาสมุทร คำว่าอะโฟรไดต์ก็แปลว่าผู้เกิดจากฟองคลื่น พระนางถูกรับตัวไปยังโอลิมปัสและถูกมอบให้แต่งงานกับเฮเฟสทัสผู้พิการแต่ อย่างไรขึ้นชื่อว่าเป็นเทพีแห่งความรัก จึงทรงมีชู้กับแอเรสผู้เป็นน้องสามี กล่าวว่าทรงขึ้นเตียงบรรทมกับชู้รักแอเรสแต่โดนสวามีเฮเฟสทัสดัดหลังซึ่งได้ ทำกลไกดักอะโฟรไดต์กับชู้รักแอเรสให้เปลื่อยเปล่าบนเตียงสร้างความอับอายแก่ บรรดาทวยเทพทั้งหลาย อะโฟรไดต์มีโอรสธิดาหลายองค์ องค์ที่เด่นๆคือ อีรอสหรือคิวปิด

  เนื่องจากพระนางเกิดจากฟองสมุทรจึงให้โทนสีฟ้าเหมือนท้องทะเล มือถือกระจกสัญลักษณ์ของเพศหญิง และสื่อถึงความงาม จขกท.ลงสีให้อะโฟรไดต์คล้ำนิดๆเพราะจขกท.ว่าผู้หญิงผิวเข้มมีเสน่ห์และน่า ค้นหา(อันนี้เป็นคห.ส่วนตัว)

เพอร์เซโฟนี เทพีแห่งฤดูใบไม้ผลิ

พระนางมีรูปโฉมงามเมื่อเสด็จไปที่ใดที่นั่นมักมีแต่ความสุข มีเสียงนกร้อง ดอกไม้ผลิบาน
เหล่าสัตว์ป่ามักจะมาคลอเคลียพระนาง (เหมือนสโนว์ไวท์เลย!) พระนางเคยคิดที่ครองพรหมจรรย์แต่นางร้ายอย่างอโฟรไดต์รู้เข้าจึงคิดหาสวามี ให้พระนางโดยส่งคิวปิดไปทำให้เฮดีสเจ้ายมโลกมาหลงรักพระนาง พระนางถูกลักพาตัวไปไว้ในยมโลก เหล่าพืชพันธุ์ต่างเหี่ยวเฉา เพาะปลูกไม่ขึ้น มนุษย์ต่างอดอยาก ซูสจึงเรียกเฮดีสมาให้คืนตัวพระนาง แต่เฮดีสอ้างว่าเพอร์เซโฟนีเสวยเม็ดทับทิมไป3เม็ดจึงต้องผูกพันกับยมโลกไม่ สามารถไปไหนได้ ซูสจึงทำข้อตกลงกับเฮดีสให้ปล่อยเพอร์เซโฟนีอยู่ในยมโลกได้3เดือนและ อีก9เดือนจะอยู่บนโลกมนุษย์นี่จึงเป็นตำนานที่มาของฤดูกาลของกรีก

  จขกท. ให้สีม่วงสื่อถึงดอกไม้ในฤดูใบไม้ผลิและสีม่วงเป็นสี2วรรณะ เป็นสีที่สื่อได้หลายอารมณ์ทั้งสุข เศร้า และลึกลับ เหมือนกับที่พระนางเป็นราชินีแห่งยมโลกผู้เคร่งขรึมน่ากลัว แต่เมื่ออยู่บนโลกพระนางกลับสดใสร่าเริงดูเป็นคนละคน ดอกไม้ที่วาดนั้นเป็นดอกไม้พื้นเมืองกรีกจริงๆที่จขกท.ไปค้นคว้ามาไมาได้วาด ขึ้นลอยๆครับ แต่ชื่ออะไรบ้างก็จำไม่ได้แล้ว^^

อาร์เทมีส เทพีแห่งดวงจันทร์

พระนางเป็นเทพีแห่งดวงจันทร์ การล่าสัตว์และความรักทางใจ พระนางเป็นฝาแฝดของอพอลโลเทพแห่งดวงอาทิตย์ แสงสว่าง และการดนตรี พระนางมีความสามารถในด้านการยิงธนู รักชีวิตโลดโผน และการท่องเที่ยวล่าสัตว์ ทรงเป็นเลือกที่จะเป็นพรหมจรรย์ เพราะมีความฝังใจกับนางลีโธมารดาที่ต้องตกระกำลำบากจากการคลอดบุตรด้วยน้ำ มือเฮรา (ตามตำนานกล่าวว่าเฮราราชินีแห่งทวยเทพทรงสาปลีโธให้ไม่สามารถคลอดบุตรบน แผ่นดินได้ ในขณะใกล้คลอดลีโธต้องทนเจ็บปวดแสนสาหัสเพราะไม่สามารถคลอดลูกแฝดได้ โปไซดอนเจ้าสมุทรเกิดความสงสารจึงเนรมิตเกาะเกาะหนึ่งที่ลอยกลางทะเลให้เล โธคลอดลูก นางจึงพ้นคำสาป อาร์เทมิสทรงอ้อนวอนต่อบิดาว่าซูสจะไม่ประทานคู่หรือบังคับให้พระนางสมรส และสาบานว่าจะครองเพศพรหมจรรย์ ว่ากันว่าพระนางเคยหลงรักเพื่อนนายพรานผู้หนึ่งชื่อโอไรออน อพอลโลฝาแฝดเกรงว่าพระนางจะผิดคำสาบานจึงหลอกล่อให้พระนางเข้าใจผิดยิงธนู ใส่ชายคนรัก พระนางจึงแขวนนายพรานผู้นี้ไว้บนท้องฟ้าเป็นที่มาของกลุ่มดาวนายพราน

  เนื่องจากเป็นเทพีแห่งดวงจันทร์และการล่าสัตว์ในมือจึงถือคันศรและลูกธนู อีกอย่างคันศรนั้นสื่อถึงวงพระจันทร์อีกด้วย มัดผมที่หลุดรุ่ยแสดงถึงลักษณะนิสัยเป็นเทพีที่รักอิสระ มีจันทร์ครึ่งเสี้ยวบนศีรษะ ใส่ชุดกรีกประยุกต์ที่มีสีขาว-น้ำเงิน เหมือนดวงจันทร์ที่ซ่อนในกลีบเมฆยามค่ำคืน

  จริงๆแล้วเทพีแห่งโอลิมปัสยังมีอีก2องค์คือ ดีมีเทอร์ เทพีแห่งการเก็บเกี่ยว(เป็นมารดาของเพอร์เซโฟนีเทพีแห่งฤดูใบไม้ผลิ) และเฮสเทียเทพแห่งเตาไฟ(ซึ่งไม่มีบัลลังก์แต่สถิตอยู่ที่โอลิมปัส พระนางได้มอบบัลลังก์ให้หลานชายไดโอนีซัสเทพแห่งสุรา)ครับ แต่จขกท.ไม่มีเวลาวาดต่อจริงๆ ต้องขออภัยด้วยครับ

 

ที่มาคุณ odia

http://pantip.com/topic/30665254

2 ก.ค. 56 เวลา 17:49 16,089
แชร์สกู๊ป
กรุณา Login เพื่อแสดงความคิดเห็น
ส่ง Scoop ให้เพื่อน
แจ้งลบไม่เหมาะสม
ความคิดเห็น

เรื่องอื่นๆ ที่น่าสนใจ

Loading...