สถานการณ์บนคาบสมุทรเกาหลีอยู่ในภาวะตึงเครียดมานานนับเดือน ล่าสุด เกาหลีเหนือมีท่าทีที่อ่อนข้อลง หลังจากที่มีการเคลื่อนย้ายขีปนาวุธ 2 ลูก ออกจากแท่นปล่อยขีปนาวุธเป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยสหรัฐฯมองว่า ถือเป็นสัญญาณบวก ที่จะทำให้ทุกฝ่ายสบายใจได้ว่า ขณะนี้ภัยคุกคามจากเกาหลีเหนือได้บรรเทาลงแล้ว

เจ้าหน้าที่ระดับสูงของกระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ เปิดเผยข้อมูลล่าสุดระบุว่า ขณะนี้ เกาหลีเหนือได้เคลื่อนย้ายขีปนาวุธมูซูดาน ซึ่งเป็นขีปนาวุธพิสัยกลาง 2 ลูก ออกจากแท่นปล่อยขีปนาวุธ ทางชายฝั่งตะวันออกของประเทศแล้ว ถือเป็นสัญญาณที่ดีที่ชี้ให้เห็นว่า ความตึงเครียดบนคาบสมุทรเกาหลีได้ทะเลาลง เนื่องจากก่อนหน้านี้ ขีปนาวุธทั้ง 2 ลูก อยู่ในสภาพพร้อมใช้งาน และมีการคาดการณ์ว่า หากเกาหลีเหนือปล่อยขีปนาวุธดังกล่าวเมื่อไหร่ ประเทศญี่ปุ่น เกาหลีใต้ และเกาะกวม ในทะเลแปซิฟิก ซึ่งเป็นดินแดนของสหรัฐฯ จะได้รับผลกระทบโดยตรง เพราะอยู่ในพิสัยทำการของขีปนาวุธ

การที่เกาหลีเหนือตัดสินใจเคลื่อนย้ายขีปนาวุธออกจากแท่นปล่อยในครั้งนี้ ทำให้นานาชาติรู้สึกโล่งออก และมองว่าอย่างน้อยในขณะนี้ ทุกคนก็รอดพ้นจากภัยคุกคามจากเกาหลีเหนือเป็นการชั่วคราว เนื่องจากนักวิเคราะห์คาดว่า เกาหลีเหนืออาจต้องใช้เวลาอีกสักระยะ ในการเตรียมความพร้อมก่อนที่จะนำขีปนาวุธไปประจำการยังแท่นปล่อยใหม่อีกครั้ง

โดยนายจอร์จ ลิตเติล โฆษกกระทรวงกลาโหม ของสหรัฐฯให้สัมภาษณ์ระบุว่า ขณะนี้ ภาวะยั่วยุให้เกิดสงครามถูกระงับไว้ชั่วคราว ซึ่งสหรัฐฯมองว่า ความเคลื่อนไหวของเกาหลีเหนือครั้งนี้ มีพัฒนาการในเชิงบวก และถือเป็นก้าวสำคัญที่น่าจับตามองเป็นอย่างยิ่ง

ก่อนหน้านี้ มีการคาดการณ์ว่า เกาหลีเหนือจะปล่อยขีปนาวุธมูซูดาน ในวันที่ 15 เมษายนที่ผ่านมา เนื่องจากตรงกับวันคล้ายวันเกิดปีที่ 101 ของนายคิม อิล ซุง บิดาของประเทศเกาหลีเหนือ แต่แล้วก็ไม่มีความเคลื่อนไหวใดๆเกิดขึ้น แต่อย่างไรก็ตาม นานาชาติยังคงจับตามองสถานการณ์บนคาบสมุทรเกาหลีอย่างใกล้ชิด ทั้งการสังเกตการณ์ผ่านภาพถ่ายดาวเทียม รวมถึงการเฝ้าติดตามแถลงการณ์ต่างๆจากเกาหลีเหนือ ในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา

ทั้งนี้ ขีปนาวุธมูซูดาน มีพิสัยทำการครอบคลุมระยะทางตั้งแต่ 640 กิโลเมตร ไปจนถึง 5,630 กิโลเมตร ซึ่งนักวิเคราะห์ทั้งหลายต่างก็เชื่อมั่นว่า ขีปนาวุธเหล่านี้ไม่สามารถใช้การได้จริง หรืออาจยิงไม่ถึงเป้าหมายที่ตั้งไว้ เนื่องจากที่ผ่านมา เกาหลีเหนือไม่เคยแสดงให้เห็นถึงอานุภาพของขีปนาวุธเหล่านี้แม้แต่เพียงครั้งเดียว