วอนช่วย! หนุ่มป่วยเป็นโรคประหลาด "ปากใหญ่ผิดธรรมชาติ"

 

อนาถพบหนุ่มวัย 32 ด่านมะขามเตี้ย กาญจนบุรี ป่วยเป็นโรคประหลาดปากใหญ่ผิดธรรมชาติ ต้องอาศัยพี่ชาย และพี่สะใภ้ที่มีอาชีพเร่ขายเนื้อหมูคอยเลี้ยงดู ด้าน นอภ.ด่านมะขามเตี้ย วอนผู้ใจบุญช่วยเหลือ


 

       เมื่อเวลา 07.00 น.วันนี้ (27 มี.ค.) นายจำรัส กังน้อย นายอำเภอด่านมะขามเตี้ย จ.กาญจนบุรี เปิดเผว่า ตนได้รับแจ้งจาก นายระพล รัตนวงษ์ไชโย นายกองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) ด่านมะขามเตี้ยว่า หน่วยงานพัฒนาชุมชน อบต.ด่านมะขามเตี้ย ได้ลงพื้นที่เพื่อสำรวจ และตรวจสุขภาพประชากรในพื้นที่หมู่ 5 ต.ด่านมะขามเตี้ย พบผู้ที่อาศัยอยู่บ้านเลขที่ 103 หมู่ 5 เป็นชายป่วยเป็นโรคประหลาด ปากผิดรูปใหญ่ผิดธรรมชาติ แถมร่างกายยังพิการ หลังจากรับแจ้งจึงเดินทางไปตรวจสอบ

       

       เมื่อไปถึงพบเป็นบ้านปูนชั้นเดียว หลังคามุงด้วยสังกะสี อยู่ในสภาพเก่า และทรุดโทรม ภายในมีผู้อาศัยอยู่รวม 5 คน สอบถามทราบชื่อคือ นายน้อย เศรษฐีชาวนา อายุ 43 ปี เจ้าของบ้าน มีนางปาริชาติ ชมญาติ อายุ 35 ปี เป็นภรรยา และมีลูกสาวอายุประมาณ 10 ปี และ 11 ปี อีก 2 คน

       

       ส่วนผู้ชายอีก 1 คน ที่อาศัยอยู่ด้วยกัน คือ นายมนูญ เศรษฐีชาวนา อายุ 32 ปี ทราบว่าเป็นน้องชายของ นายน้อย ซึ่งกำลังนอนดูทีวีอยู่ภายในบ้าน และเมื่อชายคนดังกล่าวเห็นคณะเจ้าหน้าที่ก็ได้ลุกนั่ง และมองดูท่าทางออกจะสงสัย จากนั้นจึงเดินออกมาเพื่อทักทาย

       

       พบสภาพร่างกายของ นายมนูญ ที่ป่วยเป็นโรคประหลาดปากผิดรูปลักษณะริมฝีปากล่างดำบวม และใหญ่มาก ส่วนริมฝีปากบนก็มีสภาพบวมเช่นกันแต่เล็กกว่าเล็กน้อย ลิ้นออกมาจุกปากมีบาดแผลภายใน เวลาพูดสังเกตให้ดีจะมีฟันอยู่เล็กน้อย นอกจากนี้ แขนและขาซ้ายมีสภาพอ่อนแรงเนื่องจากพิการมาตั้งแต่เกิด ส่วนผิวหนังบริเวณใบหน้า ลำคอ และหลังจะเป็นสีดำคล้ำ ตาซ้ายมองเห็นไม่ชัด ซึ่งจากสภาพร่างกายของนายมนูญ ทำให้คณะทุกคนพบเห็นรู้สึกสลดใจเป็นอย่างมาก

       

       นายน้อย เศรษฐีชาวนา พี่ชายเปิดเผยภายหลังว่า ครอบครัวของตนมีฐานะที่ยากจน อาศัยอยู่ด้วยกัน 5 คน ประกอบด้วย ภรรยาลูกสาว 2 คน และน้องชายที่พิการอีก 1 คน ตนมีอาชีพเร่ขายเนื้อหมูตามตลาดนัดต่างๆ มีรายได้ต่อเดือนเฉลี่ยเดือนละประมาณ 6,500 บาท ทั้งนี้ น้องชายได้ป่วยเป็นโรคประหลาด และพิการมาตั้งแต่เกิด เดิมทีน้องชายอาศัยอยู่กับพ่อแม่ที่อำเภอท่ามะกา 

       

       ต่อมา พ่อแม่ได้เสียชีวิตลงจึงไม่มีคนดูแลน้องชาย ด้วยความเป็นห่วง และสงสารน้อง ตนจึงไปรับตัวมาอยู่ด้วยกันที่บ้านหลังนี้ ซึ่งก็เป็นระยาเวลาประมาณ 12 ปีแล้ว ในอดีตถึงแม้น้องชายจะพิการแต่ก็ยังสามารถกินข้าวได้ปกติ และมีรูปร่างที่อ้วนน้ำหนักเกือบ 100 กิโลกรัม แต่เมื่อยิ่งโตขึ้นปากของน้องก็จะโตตามไปด้วยอย่างที่เห็น ซึ่งส่งผลกระทบต่อสุขภาพของน้องเป็นอย่างมาก เนื่องจากไม่สามารถกินข้าวได้ตามปกติ และในที่สุดร่างกายก็เริ่มผอมลงเรื่อยๆ อีกทั้งภายในช่องปากก็เริ่มมีบาดแผล เวลาจะพูดลิ้นก็จะออมาจุกอยู่ที่ปาก

       

       นอกจากนี้ น้องชายยังมีโรคประจำตัวอีกคือ โรคลมบ้าหมู หรือลมชัก ซึ่งเป็นมาตั้งแต่เกิด แต่ด้วยความที่ทางบ้านมาฐานะยากจน พอมีเงินก็พาไปหาหมอที่โรงพยาบาลเพื่อซื้อยามากิน หากวันไหนไม่มีก็หายาต้มให้กินบ้าง แต่ปัจจุบัน หากมีเงินก็จะพาไปตรวจสุขภาพ และซื้อยาที่โรงพยาบาลด่านมะขามเตี้ย ซึ่งทางโรงพยาบาลก็นัดให้ไปตรวจสุขภาพอยู่อย่างสม่ำเสมอ แต่หากวันไหนถึงวันที่หมอนัดถ้าไม่มีเงินค่าเดินทางก็ไปไม่ได้ และเมื่อยาหมดน้องก็จะเป็นลมชัก ซึ่งเขาทรมานมาก ทุกคนในครอบครัวได้แต่สงสาร และได้แต่ภาวนาวิงวอนขอให้เขาหายเป็นปกติเท่านั้นก็พอ

       

       ด้านนายจำรัส กังน้อย นายอำเภอด่านมะขามเตี้ย กล่าวว่า หลังจากที่ตนมารับตำแหน่งนายอำเภอด่านมะขามเตี้ย ครั้งแรกตนได้ประสานไปยังกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน และผู้นำท้องถิ่นในพื้นที่ให้ช่วยกันออกสำรวจประชากร โดยเฉพาะให้สำรวจคนชรา และผู้พิการที่จะต้องได้รับเบี้ยยังชีพรายเดือน และสั่งห้ามให้มีการตกหล่นอย่างเด็ดขาด ซึ่งก็ได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดีจากผู้นำท้องถิ่นนั้นๆ

       

       ในส่วนของนายมนูญ ถือว่าป่วยเป็นโรคที่ประหลาดมาก เห็นครั้งแรกตนถึงกับตกใจ เพราะไม่เคยพบเห็นผู้ป่วยเช่นนี้มาก่อน จากนี้ไปตนจะประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องลงมาช่วยเหลือในเบื้องต้นอีกครั้งหนึ่ง อีกทั้งจะรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบต่อไป และหากหน่วยงานใด หรือประชาชนท่านใดมีจิตรศรัทธาที่จะให้ความช่วยเหลือ ก็สามารถติดต่อสอบถามมาที่ตนได้โดยตรงที่เบอร์ 08-1867-0147 ส่วนบัญชีธนาคาร จะเร่งให้เจ้าหน้าที่ไปเปิดบัญชีอีกครั้ง หลังได้จะแจ้งให้ทราบในภายหลัง

 
 
ที่มา ผู้จัดการ
กรุณา Login เพื่อแสดงความคิดเห็น
ส่ง Scoop ให้เพื่อน
แจ้งลบไม่เหมาะสม
ความคิดเห็น

เรื่องอื่นๆ ที่น่าสนใจ

Loading...