ทำความรู้จัก"สันตะปาปาฟรานซิส" โป๊ปผู้สมถะ และ"มีปอดข้างเดียว"

 

สมเด็จพระสันตะปาปาองค์ใหม่ ทรงเป็นพระองค์แรกที่มาจากภูมิภาคลาตินอเมริกา  และเป็นองค์แรกในรอบ 1,300 ปี ที่ไม่ได้เป็นชาวยุโรป


A first: The 76-year-old, unveiled as Jorge Mario Bergoglio, becomes both the 
first South American and Jesuit Pope v


จอร์เก มาริโอ แบร์โกลอิโอ วัย 76 ชาวอาร์เจนตินา สมเด็จพระสันตะปาปาพระองค์ใหม่ ผู้เลือกพระนามของตนเองว่า ฟรานซิส ตามชื่อของนักบุญฟรานซิสแห่งอัสซิซี นับเป็นผู้นำศาสนจักรทาทอลิกองค์แรกที่มาจากคณะเยซูอิต และเป็นองค์แรกที่มาจากละตินอเมริกา


St 
Francis of Assisi, the 13th century Italian founder of the Franciscan order

นักบุญฟรานซิสแห่งอัสซิซี


ทั้งนี้ สมเด็จพระสันตะปาปาฟรานซิส ทรงเป็นพระสันตะปาปาพระองค์แรกที่มาจากภูมิภาคลาตินอเมริกา และเป็นองค์แรกในรอบ 1,300 ปีที่ไม่ได้เป็นชาวยุโรป นับตั้งแต่สันตะปาปาเกรกอรี่ ที่ 3 ชาวซีเรีย เมื่อปี ค.ศ. 731 และถือเป็นโป๊ปที่ไม่ได้เป็นชาวอิตาเลียนคนที่สามติดต่อกัน


พระคาร์ดินัล ฮอร์เก มาริโอ เบอร์โกลกิโอ อายุ 76 ปีแห่งอาร์เจนตินา ซึ่งได้รับเลือกเป็นสมเด็จพระสันตะปาปา ประมุของค์ใหม่แห่งคริสตจักรโรมันคาทอลิก ทรงเลือกที่จะใช้ชื่อว่าสมเด็จพระสันตะปาปาฟรานซิส เพื่อเป็นเกียรติแก่นักบุญฟรานซิสแห่งอัสซิซีที่มีอายุอยู่ในยุคศตวรรษที่ 12 ซึ่งเป็นผู้ที่อุทิศตนช่วยเหลือคนยากคนจน


สมเด็จพระสันตะปาปาฟรานซิส ประสูติที่กรุงบัวโนสไอเรส เป็นบุตร 1 ใน 5 คนของบิดาที่เป็นคนงานรถไฟชาวอิตาเลียนที่อพยพไปอยู่ที่นั่น และปวารณาตัวเข้ารับใช้คริสตศาสนาเมื่อปี 1969

 

Family photo: Pope Francis I, second from left in back row, 
poses for a picture with his family in an unknown location

โป๊ปฟรานซิส ในสมัยวัยหนุ่ม (คนที่ 2 แถวยืนจากซ้าย)

 

ในช่วงที่อาร์เจนตินาถูกรุมเร้าด้วยความขัดแย้งในช่วงปี 1976-1983 ซึ่งเกิดการสู้รบระหว่างฝ่ายซ้ายกับฝ่ายขวา ที่เรียกกันว่า "สงครามสกปรก" (Dirty War) นั้น ท่านไม่ได้ต่อต้านรัฐบาลเผด็จการทหารในยุคนั้น ซึ่งผู้ต้องสงสัยเป็นฝ่ายซ้ายราว 30,000 คนได้หายสาบสูญ, ถูกทรมาน และถูกสังหาร ท่านถูกกล่าวหาว่ารับรู้การละเมิดสิทธิมนุษยชนเหล่านี้ แต่ไม่ได้พยายามอย่างมากพอที่จะยับยั้ง


เมื่อวันที่ 5 เม.ย. 2005 ทนายด้านสิทธิมนุษยชนยื่นฟ้องพระองค์ โดยกล่าวหาว่าร่วมสมคบคิดกับรัฐบาลทหารเมื่อปี 1976  ในการลักพาตัวบาทหลวงนิกายเยซูอิต  โดยพระองค์ในขณะนั้น ซึ่งดำรงตำแหน่งผู้นำ Society of Jesus of Argentina ได้รับการร้องขอให้สละภาระหน้าที่ของศาสนจักร อันเนื่องความขัดแย้งภายใน ต่อการรับมือกับรัฐบาลเผด็จการทหาร ขณะที่พระที่ก่อความรุนแรงบางรายถูกจับกุม โดยที่พระองค์ถูกกล่าวหาว่าไม่พยายามมากพอที่จะปกป้องบุคคลเหล่านั้น

 

 

เช่นเดียวกับผู้นำคริสตศาสนจักรในละตินอเมริกาในสมัยนั้น พระองค์จำเป็นต้องต่อสู้เพื่อบางสิ่ง และต้องทำในสองสิ่งพร้อมๆกัน มือข้างหนึ่งต้องคอยรับมือกับรัฐบาลเผด็จการทหาร ขณะมืออีกข้างต้องคอยดำเนินกิจกรรมด้านการเรียกร้องทางการเมือง


ในช่วงวิกฤตเศรษฐกิจของอาร์เจนตินาเมื่อปี2001 คาร์ดินัลเบอร์โกกลิโอ ได้ร่วมประท้วงตำรวจที่กระทำการรุนแรงต่อประชาชนในการประท้วง ที่ต่อมาทำให้อดีตประธานาธิบดีเฟอร์นานโด เดอ ลา รัว ต้องลาออกจากตำแหน่ง

 


สมเด็จพระสันตะปาปาฟรานซิสเคยศึกษาวิชาเคมี และเคยถูกฝึกให้เป็นเภสัชกร รวมถึงเคยสอนหนังสือหลายวิชาทั้งวรรณคดี  จิตวิทยา ปรัชญา และเทววิทยา ก่อนที่จะได้รับตำแหน่งอาร์คบิชอพแห่งอาร์เจนตินา เมื่อปี 1998 และต่อมาได้เป็นพระคาร์ดินัลในปี 2001 ในช่วงที่อาร์เจนตินากำลังประสบวิกฤติเศรษฐกิจ 


เป็นที่ทราบกันในหมู่ชาวอาร์เจนตินาว่าพระองค์มีความอ่อนน้อมถ่อมตนและสมถะ และเลือกที่จะอาศัยในอพาร์ทเมนท์แบบเรียบง่าย มากกว่าที่จะอาศัยในบ้านพักสังฆาธิการที่ทางการจัดไว้ให้ และทรงเลือกที่เดินทางด้วยรถประจำทาง มากกว่าที่จะใช้รถลีมูซีน และปรุงอาหารรับประทานเอง

 

 

นอกจากภาษาสเปนแล้ว พระองค์ยังสามารถพูดได้หลายภาษา อาทิ เยอรมันและอิตาเลียน อย่างไรก็ดี พระองค์ก็มีปัญหาด้านสุขภาพเช่นกัน โดยเคยทรงผ่าตัดปอดออกไปข้างหนึ่ง หลังเคยติดเชื้อในสมัยยังเป็นวัยรุ่น  หรือกว่า 50 ปีก่อน ทำให้พระองค์ใช้ชีวิตด้วยปอดเพียงข้างเดียวกระทั่งปัจจุบัน


หลังได้รับเลือกแล้วในวันนี้พระองค์จะทรงประกอบพิธีมิสซาครั้งแรกก่อนที่จะได้รับการสถาปนาอย่างเป็นทางการในวันที่19 มีนาคม

 

เมื่อเสด็จมายังกรุงโรม พระองค์มักทรงเลือกสวมชุดบาทหลวงสีดำธรรมดา แทนที่จะเป็นชุดสีแดงและเสื้อกั๊กสีม่วงตามศักดิ์และสิทธิ์ของพระคาร์ดินัล และว่ากันว่าแม้แต่เสื้อกั๊กสีม่วงของพระองค์ก็ทรงรับต่อมาจากพระคาร์ดินัลแห่งบัวโนสไอเรสองค์ก่อนด้วย


อย่างไรก็ดีพระคาร์ดินัล แบร์โกลอิโอ มีแนวคิดทางเทววิทยาแบบอนุรักษ์นิยม สนับสนุนจุดยืนของวาติกันในการคัดค้านการทำแท้ง, คัดค้านการแต่งงานของคนเพศเดียวกัน, การบวชของสตรี ขณะที่เคยพูดถึงการใช้ถุงยางอนามัยว่า "อาจอนุญาตได้" เพื่อป้องกันโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ และเป็นที่รู้จักในการอุทิศตนเพื่อช่วยเหลือผูู้ยากไร้ โดยเมื่อปี 2001 ทรงเคยล้างและจุมพิตเท้าของบรรดาผู้ป่วยโรคเอดส์ในโรงพยาบาลแห่งหนึ่ง

 

ตามข้อมูลของเว็บไซต์การ์เดียนเมื่อพระองค์ได้รับการแต่งตั้งให้เป็นพระคาร์ดินัล เมื่อปี 1998 พระองค์ได้เรียกร้องให้ชาวอาร์เจนตินามิให้เดินทางไปยังกรุงโรมเพื่อร่วมเฉลิมฉลอง แต่ให้บริจาคเงินแก่ผู้ยากไร้แทน นอกจากนั้น พระองค์ยังเคยร่วมแต่งหนังสื่อชื่อ "Sobre el Cielo y la Tierra"  หรือ"ว่าด้วยสวรรค์กับพิภพ" ที่สามารถหาอ่านได้ในคินเดิล

 

พระองค์ทรงเป็นแฟนบอลของทีม "ซาน ลอเรนโซ"


อย่างไรก็ดี เพราะมีแนวคิดอนุรักษ์นิยม ท่านจึงถูกจัดให้เป็นฝ่ายตรงข้ามกับประธานาธิบดีคริสตินา เดอ เคิร์ชเนอร์ ผู้นำคนปัจจุบันของอาร์เจนตินา ซึ่งมีแนวคิดเอียงซ้าย

 

พระคุณเจ้าออสวาโด มุสโต ซึ่งเคยสอนที่โรงเรียนสอนศาสนาแห่งเดียวกับพระองค์เคยกล่าวไว้ว่า พระองค์เป็นคนที่ไม่ประนีประนอมเช่นเดียวกับอดีตโป๊ปจอห์น พอล ที่ 2 ในแง่หลักการของศาสนจักร ซึ่งเป็นหลักการที่ได้รับการปกป้องเสมอมา ทั้งการการุณยฆาต การประหารชีวิต การทำแท้ง สิทธิในการมีชีวิต สิทธิมนุษยชน และการครองพรมจรรย์ของนักบวช

 

และความเชื่อดังกล่าวนี้เองก็ได้รับการทดสอบในอาร์เจนตินาประเทศแรกในละตินอเมริกาที่บัญญัติกฎหมายการสมรสเพศเดียวกัน พระองค์เคยกล่าวโจมตีร่างกฎหมายของรัฐบาล ที่จะรับรองการแต่งงานและการรับบุตรบุญธรรมของคู่รักเพศเดียวกัน โดยระบุว่า เป็น "สงครามต่อต้านพระเจ้า" และเป็น "กลเกมของปีศาจ" โดยประธานาธิบดีคริสตินา เดอ เคิร์ชเนอร์ ซึ่งสนับสนุนแนวคิดด้านการคุมกำเนิด และการผสมเทียมเพื่อมีบุตร และเมื่อพระองค์คัดค้านเรื่องดังกล่าว ผู้นำอาร์เจนตินาแสดงความเห็นว่า"จุดยืนของท่านแบร์โกลอิโอเป็นแบบยุคกลาง"

 

แม้พระองค์จะทรงมีทัศนะเชิงอนุรักษ์นิยมในเรื่องลัทธิความเชื่อของศาสนจักรแต่ก็เคยทรงวิจารณ์บรรดาบาทหลวงที่ไม่ยอมประกอบพิธีล้างบาปให้แก่ทารกที่ถือกำเนิดจากแม่โดยไม่มีพ่อเช่นกัน

 


ที่มา มติชนออนไลน์

 


กรุณา Login เพื่อแสดงความคิดเห็น
ส่ง Scoop ให้เพื่อน
แจ้งลบไม่เหมาะสม
ความคิดเห็น

เรื่องอื่นๆ ที่น่าสนใจ

Loading...