เอียง สารี อดีตผู้นำเขมรแดง เสียชีวิตในวัย 87 ปี

เมื่อวันที่ 14 มีนาคม 2556 เว็บไซต์เอบีซีนิวส์ รายงานว่า นายเอียง สารี หนึ่งในผู้ร่วมก่อตั้งกลุ่มเขมรแดง และเป็นหนึ่งในจำนวนกลุ่มผู้นำส่วนน้อย ที่ถูกนำตัวขึ้นพิจารณาคดี จากการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ชาวเขมรกว่า 1.7 ล้านคน โดยนายเอียง ได้เสียชีวิตลงในช่วงเช้าของวันที่ 14 มีนาคม ในวัย 87 ปี ที่โรงพยาบาล

           ทั้งนี้ การเสียชีวิตของนายเอียง เกิดขึ้นก่อนที่จะศาลจะตัดสินพิพากษาคดีฆ่าล้างเผ่าพันธุ์และอาชญากรสงคราม ซึ่งการพิจารณาคดีในครั้งนี้ ถือเป็นการให้ความหวังกับกลุ่มผู้รอดชีวิต ที่คาดหวังว่า เขาจะได้รับการลงโทษอย่างสาสม จากข้อหาที่เขาเป็นอาชญากรสงคราม ผู้ขีดเขียนประวัติศาสตร์หน้าที่เลวร้ายที่สุดของกัมพูชา

           รายงานระบุว่า นายเอียงได้ถูกคำสั่งให้เข้ารับการพิจารณาคดี โดยความร่วมมือของศาลยุติธรรมกัมพูชา และศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ โดยมีผู้นำกลุ่มเขมรแดงอีก 2 คนในวัย 80 ปี คือนายนวน เจีย และนายเขียว สัมพัน ก็ถูกคำสั่งให้เข้ารับการพิจารณาคดีด้วยเช่นซึ่งผู้คนต่างหวาดเกรงว่า ผู้นำเขมรแดงอีก 2 คน อาจจะเสียชีวิตก่อนที่จะมีคำพิพากษาออกมา ส่วนด้านภรรยาของนายเอียง สารี คือ นางเอียง ธิริธ อดีตรัฐมนตรีว่าการสังคม ก็ถูกตั้งข้อหาด้วยเช่นกัน แต่เมื่อปีก่อน เธอไม่ได้ถูกนำตัวให้เข้าสู่กระบวนการพิจารณาคดี เนื่องจากเธอมีปัญหาทางจิต ที่คาดว่าน่าจะเป็นโรคอัลไซเมอร์

           ด้านนายลาร์ส โอลเซน โฆษกของศาลยุติธรรม ได้ออกมายืนยันถึงข่าวการตายของนายเอียง แต่ยังไม่ทราบแน่ชัดถึงสาเหตุการเสียชีวิต มีเพียงแต่บอกว่า นายเอียงทรมานจากโรคความดันโลหิตสูง และเขาเองก็มีปัญหาเกี่ยวกับหัวใจ เมื่อวันที่ 4 มีนาคมที่ผ่านมา นายเอียงถูกส่งแอดมิทที่โรงพยาบาลพนมเปญ เนื่องจากสุขภาพที่ทรุดโทรมและเหนื่อยล้าอย่างรุนแรง

           "ทางเราเองเสียใจที่ไม่สามารถปิดคดีของนายเอียง สารี ได้ ส่วนคดีของนายนวน เจีย หัวหน้าด้านอุดมการณ์ของเขมรแดง และนายเขียว สัมพัน อดีตประมุขแห่งรัฐของกัมพูชาในยุคเขมรแดง จะยังคงดำเนินคดีตามปกติ" นายโอลเซน กล่าว

           สำหรับประวัติของ นายเอียง สารี เขาเป็นผู้ก่อตั้งกลุ่มเขมรแดง ร่วมกันกับนายพล พต น้องเขยของนายเอียง ซึ่งกลุ่มเขมรแดงเข้ามาอำนาจและปกครองกัมพูชาในช่วงปี 1975-1979 โดยอ้างว่าต้องการสร้างระบอบสังคมนิยมสมบูรณ์แบบ และเริ่มขับไล่ผู้คนที่อยู่ในเมืองให้ไปเข้าค่ายแรงงานตามชนบท และด้วยนโบายทางการเมืองที่สุดโต่ง ก็ส่งผลให้ผู้คนกว่า 1.7 ล้านคน เสียชีวิตจากความอดอยาก โรคภัย การทำงานหนัก และการประหารชีวิต 

กรุณา Login เพื่อแสดงความคิดเห็น
ส่ง Scoop ให้เพื่อน
แจ้งลบไม่เหมาะสม
ความคิดเห็น

เรื่องอื่นๆ ที่น่าสนใจ

Loading...