ส่องกล้องสมาร์ทโฟน-แท็บเล็ต 58 รุ่น ก่อนควักเงิน ในงาน Mobile Expo 2013

 

เว็บไซต์ข่าวสารอุปกรณ์เทคโนโยลีและไอที flashfly.net ได้รวบรวม สมาร์ทโฟน และแทบเล็ตที่น่าสนใจ และน่าจับตามาเปิดสเป็กอุ่นเครื่องกันก่อนในงาน “Thailand Mobile Expo 2013″ จะเริ่มขึ้น โดยงานดังกล่าวจะจัดตั้งแต่วันที่ 7-10 กุมภาพันธ์ 2556 ณ ศูนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิติ์

ทั้งนี้ งานดังกล่าวมีโปรโมชั่นต่างๆมากมาย และมีเครื่องจริงให้สัมผัสก่อนตัดสินใจซื้อทุกรุ่น ทุกแบรนด์

**ราคาของมือถือและแท็ปเล็ตที่ปรากฏในบทความนี้เป็นราคาขาย ณ ปัจจุบัน สำหรับราคาพิเศษพร้อมโปรโมชั่นโปรดรอดูในงาน TME2013 หรือติดตามได้ในเว็บ thailandmobileexpo.com

ขอบคุณข้อมูล และอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมที่ www.flashfly.net
 

 

เพิ่งวางขายล่าสุดเลยสำหรับฟีเจอร์โฟนรุ่นใหม่ล่าสุดจาก Nokia โดดเด่นด้วยสีสันแรงสะใจ “Nokia 206” สเปคหน้าจอ 2.4 นิ้ว (ความละเอียด 240 x 320 พิกเซล), ระบบปฏิบัติการ S40, ปุ่มกดขนาดใหญ่ เหมาะกับผู้ใช้ทุกเพศทุกวัย ที่น่าสนใจคือ รองรับการใช้งาน Social Network ชั้นนำอย่าง Twitter, Facebook ฯลฯ รวมถึงการลงแอพพลิเคชั่น เกมต่างๆ บน Nokia Store อีกด้วย ติดกล้อง 1.3 ล้านพิกเซล และแบตเตอรี่ 1,110 mAh คุยได้นานทั้งวัน สำหรับราคารุ่นนี้อยู่ที่ 1,990 บาท

 

ฟีเจอร์โฟนทัชสกรีนจากตระกูล Asha Series สเปคแรงพอตัวกับ “Nokia Asha 311” มาพร้อมกับหน้าจอทัช 3.0 นิ้ว, ซีพียูความเร็ว 1 GHz, ระบบปฏิบัติการ Nokia S40 อินเตอร์เฟสการใช้งานรองรับทัชสกรีนเต็มรูปแบบ, ลงแอพฯ ผ่าน Nokia Store รองรับ 3G Wi-Fi ครบเครื่อง สนนราคาที่ 3,990 บาท

 

‘Nokia 808 PureView” ติดกล้องความละเอียด 41 ล้านพิกเซล เซ็นเซอร์ขนาดมหึมา พร้อมแฟลชซีนอนสำหรับถ่ายกลางคืน สามารถใช้งานแทนกล้องคอมแพคได้เลย หน้าจอ AMOLED 4.0 นิ้ว, ซีพียู 1.3 GHz รองรับวิดีโอ Full HD เต็มรูปแบบ, ระบบปฏิบัติการซิมเบี้ยน Belle FP2 ลงแอพพลิเคชั่นเสริมได้พอสมควรจาก Nokia Store เล่น Social Network ได้หลากหลาย รองรับการเชื่อมต่อ 3G Wi-Fi ทุกค่าย ที่น่าสนใจคือใช้งานนำทางผ่าน Nokia Maps ฟรีตลอดชีพอีกด้วย ราคา 14,900 บาท

 

Nokia Lumia 620 น้องเล็กสเปคแรง โดดเด่นด้วยสีสันสดใส หน้าจอขนาด 3.7 นิ้ว ซีพียู Dual-Core 1 GHz ตอบสนองการใช้งานฟีเจอร์ต่างๆ ได้ดี รองรับ 3G ทุกเครือข่าย, Wi-Fi แถมรองรับ NFC ไว้เชื่อมต่ออุปกรณ์เสริม หรือส่งข้อมูลผ่านสมาร์ทโฟนด้วยกันได้อีก ติดกล้อง 5 ล้านพิกเซล ถ่ายวิดีโอระดับ HD ถ้าอยากลองใช้งานวินโดว์โฟน 8 ราคาไม่แพง “Lumia 620” พร้อมให้เป็นเจ้าของได้ในราคา 8,250 บาท รอบนี้ในงาน Thailand Mobile Expo 2013 มีโปรโมชั่นแน่นอน
 

 

งบไม่พอสอย Lumia 920 วันนี้คุณสามารถเป็นเจ้าของ Lumia 820 พระรองในราคาที่ย่อมเยากว่า ด้วยประสิทธิภาพไม่ต่างกัน ใช้ซีพียู Snapdragon S4 ตอบสนองฟีเจอร์ต่างๆ ได้อย่างลงตัว จะเล่นเกม Social Network ครบถ้วน หน้าจอขนาด 4.3 นิ้ว รองรับวิดีโอ Full HD ทั้งการชมคลิป หรือบันทึกจากกล้อง 8 ล้านพิกเซลในตัว ใช้งาน 3G ได้ทุกเครือข่าย รองรับการชาร์จแบบไร้สาย (Wireless Charging) และสามารถเพิ่มเมมโมรี่ภายนอกสูงสุด 32 GB สนนราคาที่ 16,500 บาท
 

 

ที่สุดของวินโดว์โฟน 8 จาก Nokia ฮิตติดลมบนทั่วโลก สำหรับ “Nokia Lumia 920” โดดเด่นด้วยกล้อง PureView ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล ถ่ายภาพกลางคืนดีเกินคาด และรองรับ Optical Image Stabilization ป้องกันภาพสั่นจากฮาร์ดแวร์โดยตรง หน้าจอ Puremotion HD+ ขนาด 4.5 นิ้ว แสดงผลคมชัด ตอบสนองการสัมผัสขั้นเทพ, ระบบการนำทางฟรีเต็มรูปแบบผ่าน Nokia Maps – Nokia Drive และรองรับการชาร์จไร้สายในตัว ส่วนอื่นๆ Lumia 920 คล้ายคลึงกับวินโดว์โฟนรุ่นอื่นๆ ครับ ทั้งแอพฯ เสริม การใช้งาน Service ต่างๆ สนนราคาที่ 21,500 บาท

 

 

 

Samsung Hero เบสิคโฟนราคา 590 บาท นอกจากโทรออกรับสาย ส่งข้อความ SMS ตั้งนาฬิกาปลุก ฯลฯ แล้วยังมีวิทยุ FM อีกด้วย ตัวเครื่องทนทาน สแตนด์บายได้ยาวนาน (ประมาณ 5-7 วัน) เหมาะกับซื้อไว้เป็นเครื่องสำรอง หรือเอาให้เด็กๆ ใช้งานก็ดีเหมือนกัน ไม่ต้องกลัวหายหรือพังมากเท่าสมาร์ทโฟนราคาแพง
 

 

สมาร์ทโฟนราคาประหยัดในราคาเพียง 3,000 ต้นๆ กับ “Galaxy Y” ถึงจะไม่ใช่รุ่นใหม่ แต่คุณสมบัติภายในรองรับการใช้งานต่างๆ ได้หลากหลายทีเดียว จะลงแอพพลิเคชั่นเสริม ยูทิลิตี้ Social Network หรือเกมก็รองรับสบายๆ ตัวเครื่องขนาดเล็ก พกพาสะดวก และมีหลากหลายสีให้เลือกไม่แพ้ “Galaxy Pocket” ที่อยู่ในระดับราคาเดียวกัน ด้านการรองรับ 3G มีทั้งเวอร์ชั่น 850/2100MHz และ 900/2100MHz ใช้ค่ายไหนอยู่ก็เลือกไปตามนั้นได้เลย
 

 

“Galaxy Ace 2” ขนาดหน้าจอ 3.8 นิ้ว, ซีพียู Dual-Core 800 MHz รองรับคอนเทนท์ระดับ HD เต็มรูปแบบ ลงแอพพลิเคชั่นต่างๆ ผ่าน Google Play Store เช่นเดียวกับรุ่นอื่นๆ ติดกล้อง 5 ล้านพิกเซลพร้อมออโต้โฟกัส บันทึกวิดีโอความละเอียด HD แบตเตอรี่ 1,500 mAh นอกจากนี้ยังรองรับการอัพเกรดเป็น Android 4.1.2 ได้ด้วย สามารถเป็นเจ้าของได้ในราคาประมาณ 9,900 บาท

 

“Galaxy S III mini” ย่อส่วนขนาด สเปค และราคาให้เป็นเจ้าของได้ง่ายขึ้น ด้วยสเปคหน้าจอ Super-AMOLED 4.0 นิ้ว สีสันสด เหมาะกับดูภาพ-วิดีโอ, ซีพียูระดับ Dual-Core 1 GHz ตอบสนองการใช้งานทั่วไปได้ดีเช่นเดียวกับ Galaxy S Advance, กล้อง 5 ล้านพิกเซล และรองรับการใช้งาน 3G Wi-Fi GPS ครบเครื่อง ราคา 12,900 บาท
 

 

ด้วยดีไซน์สวยงาม หน้าจอ AMOLED สุดคมชัด ทำให้ “Galaxy S Advance” ได้รับความนิยมอย่างมากในตอนนี้ สเปคภายในใช้ซีพียูระดับ Dual-Core 1 GHz รองรับวิดีโอ เกม HD รันแอพพลิเคชั่นต่างๆ ลื่นไหล แถมใกล้ได้อัพเกรดเป็น Android 4.1.2 แล้ว ติดกล้อง 5 ล้านพิกเซล รองรับ 3G ทุกเครือข่าย เครื่องเล็กพกพาง่าย ราคา 12,900 บาท

 

“Galaxy Grand” รุ่นใหม่ล่าสุดประจำต้นปี 2013 โดดเด่นด้วยหน้าจอ 5.0 นิ้ว เหมาะกับผู้ใช้ที่ต้องการหน้าจอใหญ่ ตัวหนังสือใหญ่สบายตา รันบน Android 4.1.2 ซีพียู Dual-Core 1.2 GHz ติดกล้อง 8 ล้านพิกเซล บันทึกวิดีโอ HD และแบตเตอรี่ความจุ 2100 mAh ใช้งานได้ยาวนานในหนึ่งวัน สำหรับราคา 13,900 บาท
 

 

แท็ปเล็ตราคาประหยัดจาก Samsung ที่สามารถใช้งานโทรศัพท์ได้ด้วยกับ “Galaxy Tab 2 7.0” หน้าจอขนาด 7.0 นิ้ว (ความละเอียด 1024 x 600 พิกเซล), ซีพียู Dual-Core 1 GHz พร้อมรัน Android 4.0.4 (อัพเกรดเป็น Jelly bean 4.1 ได้) ลงแอพพลิเคชั่นเสริมได้มากมาย รวมถึง Line, WhatsApp ฯลฯ เล่นได้แบบสมาร์ทโฟนทุกประการ น้ำหนักเบาเพียง 345 กรัม แบตใช้งานได้ตลอดวัน สนนราคา 11,900 บาท

 

ขยายไซส์ขึ้นมาอีกหน่อยจะได้ขนาด 10.1 นิ้วในสเปคเดียวกันสำหรับ “Galaxy Tab 2 10.1” คุณสมบัติโดยรวมเหมือน Galaxy Tab 2 7.0 ครับ ซีพียู Dual-Core 1 GHz รันบน Android 4.0.4 (อัพเกรดเป็น Jelly bean 4.1 ได้) ลงแอพพลิเคชั่นสารพัดอย่างได้เช่นเดียวกับบนสมาร์ทโฟน ลำโพงสเตอริโอเสียงดังฟังชัด ที่น่าสนใจคือโทรออกได้ ! แต่ต้องใช้สมอลทอล์ค หรือบลูทูธในการรับสายแทน รองรับ 3G ทุกค่าย
 

 

วินโดว์โฟน 8 รุ่นแรกจาก Samsung “ATIV S” หน้าจอ AMOLED HD ใหญ่มหึมา 4.8 นิ้ว เหมาะกับใช้งานทั่วไป จะดูหนัง เล่นแอพฯ เล่นเว็บได้ดีทีเดียว, ซีพียู Dual-Core 1.5 GHz ชิป Snapdragon S4 ตัวแรง ติดกล้อง 8 ล้านพิกเซล บันทึกวิดีโอ Full HD, เพิ่มเมมโมรี่ภายนอกได้ และรองรับ 3G ทุกเครือข่าย นอกจากนี้ดีไซน์ยังดูหรูหราอีกด้วย บางเฉียบเพียง 8.9 มิลลิเมตรเท่านั้น เป็น Flagship อีกรุ่นที่ Samsung เปิดราคามาแบบน่าสนใจเปิดตัวเพียง 17,900 บาท

 

ยักษ์ใหญ่แห่งปี 2012 “Galaxy S III” หน้าจอ Super-AMOLED HD ขนาด 4.8 นิ้ว ตัวเครื่องบางเฉียบเพียง 8.6 มิลลิเมตร เบาหวิวพกพาง่าย ซีพียู Quad-Core 1.4 GHz ตอบสนองการใช้งานได้สบายๆ จะเล่นเกม ดูหนัง ลงแอพฯ ติดกล้อง 8 ล้านพิกเซล พร้อมฟีเจอร์เสริมอื่นๆ ที่น่าสนใจเช่น Smart Stay, S-Beam ฯลฯ ที่สำคัญคือหาอุปกรณ์เสริมง่าย เพราะมีผู้ใช้เยอะนั่นเอง สนนอยู่ที่ประมาณ 20,000 บาท

 

สมาร์ทโฟนกึ่งแท็ปเล็ตรุ่นล่าสุด “Galaxy Note 2” หน้าจอขนาดมหึมา 5.5 นิ้ว พร้อมใช้ S-Pen เขียนบนหน้าจอได้ไม่ต่างจากการใช้ปากกาเขียนบนกระดาษ ผ่าน Premium Suite มากความสามารถ ซีพียูเร็วแรงระดับ Quad-Core 1.6 GHz รองรับคอนเทนท์ Full HD ได้สบาย พร้อมสตรีมผ่าน HDTV ได้อีกต่างหาก พร้อมรันแอพฯ 2 ตัวพร้อมกันบนจอเดียว (Multi Screen) กล้อง 8 ล้านพิกเซล, รองรับการใช้งาน 3G Wi-Fi GPS รวมถึง NFC สำหรับเชื่อมต่ออุปกรณ์ต่างๆ แบตเตอรี่ 3,100 mAh อึดเพียงพอใช้งานได้ทั้งวัน ราคา 22,900 บาท Samsung ประกาศอย่างเป็นทางการแล้วว่าจะนำ Galaxy Note 2 สีน้ำตาล (Amber Brown) มาวางขายในงาน TME2013 เป็นที่แรก

 

หากต้องการพื้นที่ในการจัดบันทึก วาดภาพ เข้าเว็บไซต์ หรือดูหนัง Full HD ได้แบบสบายตา “Galaxy Note 10.1” ตอบโจทย์คุณได้ ด้วยขนาดหน้าจอ 10.1 นิ้ว สามารถใช้ S-Pen เขียนบนหน้าจอผ่าน Premium Suite เช่นเดียวกับ Galaxy Note 2 ที่น่าสนใจคือระบบ Multi-Screen ครับ รอบนี้สามารถทำงานได้หลากหลายขนาดหน้าจอ ย่อ/ขยายหน้าต่าง และเปิดได้เกิน 2 แอพฯ พร้อมกัน แบตเตอรี่ใช้งานได้เต็มวันและสามารถใส่ซิมเล่น 3G โทรออกได้ไม่ต่างจากสมาร์ทโฟน ราคา 21,900 บาท

 

 

เริ่มด้วยรุ่นน้องเล็กสุดจาก Sony “Xperia Tipo” สเปคพอใช้งานได้ดีในระดับราคาไม่ถึง 6 พันบาท มาพร้อมกับหน้าจอทัชสกรีน 3.2 นิ้ว, ระบบปฏิบัติการ Android 4.0.4 รันบนซีพียูความเร็ว 800 MHz, ลงแอพพลิเคชั่นเสริมได้ตามปกติทั่วไป กล้องความละเอียด 3 ล้านพิกเซล และดีไซน์เล็กกะทัดรัด พกพาสะดวก นอกจากนี้ยังมีรุ่นรองรับ 2 ซิมการ์ดให้เลือกใช้ด้ (Xperia Tipo Dual) ราคา 5,590-5,990 บาท

 

ชอบสมาร์ทโฟนที่ดูดีมีสไตล์ ดีไซน์สวยหรู แนะนำ “Xperia J” การออกแบบโค้งเว้าคล้าย Xperia Arc S ตัวเครื่องบางเฉียบเพียง 9.4 มิลลิเมตร หน้าจอขนาดใหญ่ 4.0 นิ้ว แสดงผลคมชัด, ซีพียูความเร็ว 1 GHz ตอบสนองการใช้งานทั่วไปได้ดี, ระบบปฏิบัติการ Android 4.0.4 กล้องความละเอียด 5 ล้านพิกเซล และเครื่องเล่นเพลง Walkman เสียงดีเอาเรื่อง อย่างไรก็ตาม รุ่นนี้ไม่รองรับคอนเทนท์ระดับ HD ด้วยข้อจำกัดของชิปประมวลผล แต่ราคาก็ไม่แพงมากนักที่ 8,490 บาท

 

ทน แกร่ง กันน้ำ กันกระแทก พร้อมตอบโจทย์การใช้งานครบเครื่อง เป็นคุณสมบัติเด่นของ “Xperia Go” สมาร์ทโฟนแอนดรอยด์หน้าตาดีจาก Sony ครับ หน้าจอขนาด 3.7 นิ้ว ซีพียูระดับ Dual-Core 1 GHz รันบนระบบ Android 4.0.4 ลงแอพพลิเคชั่นมากมาย รองรับการใช้งาน Line, WhatsApp ฯลฯ กล้อง 5 ล้านพิกเซล และรองรับ 3G Wi-Fi GPS ครบสูตร อย่างไรก็ดี ตัวเครื่องไม่ได้ออกแบบให้เอาไปจุ่มน้ำเล่น สำหรับราคาอยู่ที่ 8,990 บาท
 

 

“Xperia SL” มีจุดเด่นที่หน้าจอความละเอียด HD 4.3 นิ้ว คมชัดเนียนสุดๆ เหมาะกับใช้ดููรูปภาพ วิดีโอ หรือเล่นเกม ดีไซน์เหลี่ยมโค้งพร้อมแถบไฟ LED ด้านล่าง ซีพียู Dual-Core 1.5 GHz, ระบบ Android 4.0.4 และกล้อง 12 ล้านพิกเซล เหนือกว่าหลายรุ่นในระดับเดียวกัน ตอนนี้สามารถหาซื้อ Sony Xperia SL ได้ในราคา 13,990 บาท
 

 

คล้ายกับ Xperia SL รุ่นนี้สเปคอัพขึ้นมานิดหน่อยตรงหน้าจอ 4.5 นิ้ว ส่วนอื่นๆ คล้ายกันคือซีพียู Dual-Core 1.5 GHz, ระบบ Android 4.0.4, กล้อง 12 ล้านพิกเซล รองรับ 3G ทุกเครือข่าย แต่ที่ทำให้หลายคนชอบคือดีไซน์ค่อนข้างสวยงามทีเดียว แม้เครื่องจะใหญ่ไปหน่อยก็ตาม ส่วนราคาแพงกว่า Xperia SL อยู่ที่ 14,990 บาท
 

 

เพิ่งวางจำหน่ายเมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมานี่เองสำหรับ “Xperia TX” สมาร์ทโฟนตัวแรงจาก Sony ดีไซน์โค้งเว้าเรียบง่าย หน้าจอ HD ขนาดใหญ่ 4.6 นิ้ว ดูหนัง เล่นเกม เข้าเว็บไซต์ต่างๆ สะดวกกว่าเดิม, ซีพียู Snapdragon S4 (Dual-Core) 1.5 GHz แรม 1 GB, ระบบปฏิบัติการ Android 4.0.4 (อัพเกรดเป็น Jelly Bean 4.1 ได้ในเร็วๆ นี้) ลงแอพพลิเคชั่น เกม ยูทิลิตี้เสริมได้เช่นเดียวกับรุ่นอื่นๆ , กล้องความละเอียด 13 ล้านพิกเซล บันทึกวิดีโอระดับ Full HD รองรับ 3G ทุกเครือข่าย สำหรับราคาเปิดตัวอยู่ที่ 16,990 บาท
 

 

“Xperia V”  โดดเด่นด้วยคุณสมบัติกันน้ำ กันกระแทก แถมตอบโจทย์การใช้งานทุกด้านตั้งแต่มัลติมีเดีย โซเชี่ยล แอพฯ เสริมต่างๆ ลงเพิ่มได้จาก Google Play Store ใช้งานบนหน้าจอ HD 4.3 นิ้ว, ซีพียู Snapdragon S4 1.5 GHz เช่นเดียวกับ Xperia TX, กล้อง 13 ล้านพิกเซล รองรับ 3G Wi-Fi GPS และดีไซน์สวยงาม ไม่เทอะทะ เปิดตัวที่ราคา 16,990 บาท

 

 

เชื่อว่าหลายคนคงรอสมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ล่าสุดจาก LG อย่าง “Optimus L9” จากการออกแบบสวยงามสไตล์ L-Series เหลี่ยมคลาสสิค บางเฉียบเพียง 9.1 มิลลิเมตร น้ำหนักเบาหวิว ขนาดหน้าจอใหญ่ 4.7 นิ้ว เทียบชั้นรุ่น High-End เลยทีเดียว ซีพียูระดับ Dual-Core 1 GHz รองรับคอนเทนท์ HD1080p ไม่หน่วงอีกต่อไปแล้ว ติดกล้องความละเอียด 8 ล้านพิกเซล แถมรองรับการใช้งาน 3G ทุกเครือข่าย และแบตเตอรี่ 2,150 mAh อึดพอตัว สนนราคา11,900 บาท

 

ตอนนี้ถึงกระแสสมาร์ทโฟน 3 มิติจะซบเซาลงไป เพราะใช้งานจริงไม่ค่อยเวิร์ค แต่สำหรับ Optimus 3D Max กลับยืนอยู่ได้ด้วยการออกแบบที่สวยงาม และคอนเทนท์ 3D ปัจจุบันก็หาชมได้ไม่ยากนัก หน้าจอขนาด 4.3 นิ้ว ซีพียูระดับ Dual-Core 1 GHz กล้อง 5 ล้านพิกเซล สามารถบันทึกภาพ – วิดีโอแบบ 3 มิติได้ทันทีและสามารถสตรีมขึ้น HDTV ได้ นอกจากนี้ Optimus 3D Max ยังคงสามารถลงแอพฯ เสริมต่างๆ ตามปกติ ไม่ต่างจากสมาร์ทโฟน Android รุ่นอื่นๆ ราคาจัดได้ที่ 13,900 บาท

 

สมาร์ทโฟน Tegra 3 ราคาประหยัดอย่าง “Optimus 4X HD” หน้าจอ True HD IPS 4.7 นิ้ว แสดงผลคมชัด เนียนสีสันสดใส, บอดี้บางเพียง 8.9 มิลลิเมตร งานประกอบ วัสดุทนทาน ใช้ชิป Tegra 3 1.5 GHz ประมวลผลเร็วสะใจ รองรับเกมระดับ HD กล้อง 8 ล้านพิกเซล บันทึกวิดีโอระดับ Full HD สามารถเพิ่มเมมโมรี่การ์ดสูงสุด 32 GB และรองรับ 3G ทุกเครือข่าย
 

“LG Nexus 4” หรือ E960 ร่วมมือพัฒนากับ Google นำเสนอความแรงสุดขั้ว คู่กับดีไซน์อันเป็นเอกลักษณ์จาก LG หน้าจอ True HD IPS+ 4.7 นิ้ว ซีพียู Snapdragon S4 Pro 1.5 GHz เช่นเดียวกับรุ่น Flagship อื่นๆ ในปัจจุบัน ที่สำคัญคือรัน Android เวอร์ชั่นล่าสุดคือ 4.2.1 และสามารถอัพเกรดไปได้อีกนาน เช่นเดียวกับ Galaxy Nexus ที่ปัจจุบันยังคงอัพ Jelly Bean 4.2 ได้สบายๆ ด้านราคาอาจจะแพงนิดนึง อยู่ที่ประมาณ 17,900 บาท
 

 

อันนี้ก็อินดี้ไม่แพ้ใครเหมือนกัน กับสมาร์ทโฟนหน้าจอ 5.0 นิ้ว อัตราส่วน 4:3 กว้างสุดขอบโลก สำหรับ “Optimus Vu” ภายในสเปคคล้ายกับ Optimus 4X HD ครับเช่น ซีพียู Tegra 3 1.5GHz, ระบบปฏิบัติการ Android 4.0.4, กล้อง 8 ล้านพิกเซล, เมมโมรี่ภายใน 32 GB และรองรับการเขียนบนหน้าจอ ผ่าน Stylus (Rubberdium) แม้ว่าดีไซน์จะดูแปลก แต่ผู้ใช้บางคนก็ชอบ เพราะหน้าจอกว้าง ใหญ่ ดูสบายตา และสามารถถือแนวตั้งเพื่ออ่านหน้าเว็บ อีเมล ฯลฯ ได้เลย ราคาอยู่ที่ 18,900 บาท

 

รุ่นนี้ก็รอลุ้นกันว่าจะมีมาให้ลองสัมผัสในงาน TME 2013 หรือไม่สำหรับ “Optimus G” ว่าที่ Flagship ต่อจาก Optimus 4X HD โดดเด่นด้วยดีไซน์หรูหรา เรียบง่ายคล้าย Nexus 4 แต่มาในรูปทรงแท่งสี่เหลี่ยมโค้งมน หน้าจอ True HD IPS+ 4.7 นิ้ว, ซีพียู Snapdragon S4 Pro 1.5 GHz, กล้อง 13 ล้านพิกเซล และรัน Android 4.1.2 เร็ว ลื่นกว่าที่เคยเป็นคาดว่าราคาคงไม่แพง อย่างน้อยก็ถูกกว่ามือถือหน้าจอ Full HD ที่ส่วนใหญ่ราคาเกิน 20,000 บาท

 

กระแส BlackBerry ในบ้านเราดูเงียบไปบ้าง แต่ยังคงมีผู้ใช้จำนวนมากจากการใช้งาน Social Network & Messaging ที่เฟื่องฟูในปัจจุบัน สำหรับ BlackBerry Curve 9220 มาพร้อมกับสเปคหน้าจอ 2.44 นิ้ว คีย์บอร์ด QWERTY มาตรฐาน เหมาะกับผู้ใช้ที่ถนัดแป้นปุ่มกดมากกว่า On-Screen Keyboard ซีพียูความเร็ว 800 MHz แรม 512 MB ตอบสนองการใช้งานทั่วไปได้ดี รันแอพฯ ต่างๆ ลื่นไหลกว่าเดิม ใช้ระบบปฏิบัติการ BlackBerry OS 7 ลงแอพพลิเคชั่นเสริมต่างๆ ได้พอตัว อย่างไรก็ดี รุ่นนี้ไม่สามารถใช้งาน 3G ได้ ราคาอยู่ที่ 5,990 บาท
 

 

อัพสเปคขึ้นมาอีกหน่อยจะได้ BlackBerry Curve 9320 หน้าตาคล้ายรุ่น 9220 แต่สเปคสูงกว่า รองรับ 3G, GPS และแบตเตอรี่อึดใช้ได้ (1,450 mAh) การใช้งานโดยรวมคล้ายคลึงกับ BlackBerry รุ่นอื่นๆ คือ ข้อความ, อีเมล, โซเชี่ยลเน็ตเวิร์ค ฯลฯ ติดกล้อง 3.2 ล้านพิกเซล และใช้โอเอส BlackBerry OS 7.1 ราคา 7,990 บาท

 

ไฮไลท์ที่น่าสนใจของ BlackBerry คือโอเอสเวอร์ชั่นใหม่ “BB10” ปรับโฉมใหม่ยกแผง ทั้งอินเตอร์เฟส ระบบภายใน ฯลฯ มีฟีเจอร์ที่น่าสนใจเช่น BlackBerry Hub รวมการใช้งานข้อความ – โซเชี่ยลในหนึ่งเดียว, BlackBerry Keyboard แบบใหม่ รวมถึงระบบความปลอดภัยขนาดได้รับมาตรฐาน FIPS 140-2 ของรัฐบาลสหรัฐฯ สำหรับตัว Device คาดว่าจะมีมาจัดแสดงในงาน TME 2013
 

 

 

นี่คือวินโดว์โฟน 8 ราคาประหยัดรุ่นแรกของแบรนด์ คู่แข่งตัวสำคัญของ Nokia Lumia 620 มาพร้อมกับดีไซน์โดดเด่นเฉพาะตัวของ HTC บางเบาพกพาสะดวก หน้าจอ SLCD 3.7 นิ้ว (ความละเอียด 800 x 480 พิกเซล), ซีพียู Snapdragon S4 Dual-Core 1 GHz ประมวลผลบนโอเอส Windows Phone 8 ลงแอพพลิเคชั่นเสริมผ่าน Windows Phone Store ตอนนี้เริ่มมีแอพฯ ให้เลือกใช้งานเยอะขึ้น รองรับ 3G (850/2100 MHz) Wi-Fi GPS ครบเซ็ท ติดกล้อง 5 ล้านพิกเซล ราคา 9,900 บาท

 

เป็นคู่แฝดของรุ่น Desire V แต่รุ่นนี้ไม่รองรับ 2 ซิม และเปลี่ยนสเปคภายในบางส่วน ใช้หน้าจอ Super-LCD 4.0 นิ้ว แสดงผลได้คมชัดกำลังดี ซีพียูระดับ Dual-Core 1 GHz ตอบสนองฟีเจอร์ต่างๆ หลากหลาย เร็วทันใจ รันบนระบบปฏิบัติการ Android 4.0.4 (อัพเกรดเป็น Jelly Bean ได้) ติดกล้อง 5 ล้านพิกเซล ประมวลผลด้วยชิป ImageSense เช่นเดียวกับ One V ดังนั้นภาพถ่ายจึงออกมาดีทีเดียว สำหรับค่าตัวของ Desire X ราคา 11,000 บาท
 

 

วินโดว์โฟน 8 ตัวท็อป “Windows Phone 8X” จาก HTC มีความน่าสนใจตรงดีไซน์เหลี่ยมค่อนข้างแนว ตัวเครื่องบางเฉียบ น้ำหนักเบา แถมสีสันแรงสะใจ มาพร้อมกับหน้าจอ Super-LCD 4.3 นิ้ว ความละเอียด HD, ซีพียู Snapdragon S4 1.5 GHz แรม 1 GB ลื่นหัวแตกบนโอเอสวินโดว์โฟน 8 ครับ ติดกล้อง 8 ล้านพิกเซล (F/2.0 Aperture) ประมวลผลภาพผ่าน ImageSense และเมมโมรี่ภายใน 16 GB รองรับการเชื่อมต่อ 3G Wi-Fi GPS ครบเครื่อง เป็นอีกรุ่นที่ค่อนข้างอินดี้ทีเดียว สนนราคาที่ 19,900 บาท
 

 

สมาร์ทโฟนจอสวย ประมวลผลไว เมมโมรี่ภายในมหาศาล “HTC One X+”กับสเปคหน้าจอ Super-LCD2 ขนาด 4.7 นิ้ว (ความละเอียด 1280 x 720 พิกเซล) สีสันสวยงามตระการตา ชิปประมวลผล Tegra 3 1.7 GHz เล่นเกม ดูหนัง HD เต็มรูปแบบ, รันระบบปฏิบัติการ Android 4.1, กล้อง 8 ล้านพิกเซล ชิปประมวลผล ImageSense เช่นเดียวกับ HTC One X ตัวแรก และเมมโมรี่ภายใน 64 GB สำหรับราคาขายรุ่นนี้อยู่ที่ 21,900 บาท
 

 

ไม้เด็ดของ HTC ต้อนรับปีใหม่ 2013 คือสมาร์ทโฟนจอ Full HD รุ่นแรกที่จะวางจำหน่ายในประเทศ สำหรับ “HTC Butterfly” (หรือ DLX) โดดเด่นด้วยหน้าจอ Super-LCD3 ขนาดใหญ่ 5.0 นิ้ว ความละเอียด Full HD ชิปประมวลผล Snapdragon S4 Pro (Quad-Core) 1.5 GHz แรงสมฐานะ ทำได้ทุกอย่างในเครื่องเดียว, กล้องความละเอียด 8 ล้านพิกเซล ชิปประมวลผล ImageSense รองรับบันทึกวิดีโอ Full HD 1080p เช่นเดียวกับ Flagship หลายๆ รุ่น ใช้ระบบปฏิบัติการ Android 4.1 พร้อม Sense UI 4+ ไม่เหมือนใคร ราคา 22,900 บาท

 

 

มาดูที่แบรนด์ OPPO ขนาดรุ่นเล็กอย่าง “Find Melody” ก็ยังดีไซน์ได้ดูดีเกินราคา ขนาดหน้าจอ 3.5 นิ้ว (ความละเอียด 320 x 480 พิกเซล) ตัวเครื่องมีขนาดเล็ก พกพาสะดวก สเปคซีพียูความเร็ว 1 GHz รันบนระบบปฏิบัติการ Android 4.0.4 ครอบด้วยอินเตอร์เฟสจาก OPPO เอง ติดกล้อง 3 ล้านพิกเซล รองรับ 3G ทุกเครือข่าย และใช้งาน 2 ซิมพร้อมกันได้ ซึ่งมีน้อยรุ่นที่ทำได้ นอกจากนี้บแบตเตอรี่ยังค่อนข้างอึด ราคาวางจำหน่ายอยู่ที่ 4,990 บาท

 

อัพสเปคขึ้นมาพอประมาณ “OPPO Find Gemini+” เป็นสมาร์ทโฟน Android ซีพียู Dual-Core ที่น่าสนใจมากรุ่นนึง เพราะราคาไม่แพง รองรับการใช้งานทั่วไปครบเครื่อง ใช้งาน 3G ทุกเครือข่าย, Wi-Fi GPS และสามารถใส่ได้ถึง 2 ซิมการ์ดด้วยกัน เหมาะกับใช้โทรออก รับสาย หรือจะแชท ทำได้บนรุ่นเดียว หน้าจอขนาด 4.0 นิ้ว แบตเตอรี่ใช้งานได้นานานเกิน 1 ปี เหมาะผู้ใช้สมร์ทโฟน-ไม่เน้นกล้องมากันัก เช่นเดียวกับไม่เน้นความแรง ด้านราคาตอนนี้อยู่ที่ 9,900 บาท
 

 

สมาร์ทโฟนรุ่นตลาสสิคของ OPPO ที่วางจำหน่ายมาค่อนข้างนานแล้ว “Find 3” ดีไซน์ทรงเหลี่ยมคลาสสิค ค่อนข้างหรูหรา มาพร้อมกับหน้าจอ IPS 4.0 นิ้ว แสดงผลได้ค่อนข้างดี, ซีพียู Dual-Core 1.5 GHz ตอบสนองฟีเจอร์การใช้งานต่างๆ มากมาย ลงแอพพลิเคชั่นเสริมผ่าน Google Play Store แชท เล่นเกม ดูหนัง ฟังเพลง ฯลฯ ติดกล้อง 8 ล้านพิกเซล บันทึกวิดีโอระดับ Full HD อย่างไรก็ตาม รุ่นนี้น้ำหนักตัวมากนิดนึงบ แต่ก็จับถือได้กระชับมือ สำหรับ OPPO Find 3 ราคาประมาณ 10,900 บาท
 

 

ต้นปี 2556 แบบนี้ OPPO มี 2 รุ่นใหม่เปิดตัวก็คือ Find Way และ Find 5 สำหรับ “Find Way” (หรือ OPPO Ulike2 ในจีน) ออกแบบมาเพื่อสาวๆ โดยเฉพาะด้วยคุณสมบัติเด่น กล้องหน้าความละเอียด 5 ล้านพิกเซล ! พร้อมโหมด Beauty Plus หน้าเนียนใส ขาวปิ๊งโดยไม่ต้องง้อแอพฯ ใดๆ ทั้งสิ้น ส่วนกล้องหลังติดมาให้ 8 ล้านพิกเซล บันทึกวิดีโอ HD และมีโหมดให้ปรับเยอะพอตัว รวมถึงการใช้ฟังก์ชั่นกล้องโลโม เช่นเดียวกับบนสมาร์ทโฟน OPPO หลายรุ่น หน้าจอขนาดใหญ่ 4.5 นิ้ว, ซีพียู Dual-Core 1.2 GHz และรัน Android 4.0.4 ดีไซน์สวยงาม

 

หนึ่งในม้ามืดของสมาร์ทโฟน Flagship ที่เพียบพร้อมด้วยคุณสมบัติระดับเทพ ทั้งหน้าจอ Full HD ขนาด 5.0 นิ้ว เนียนคมชัดที่สุดเท่าที่เคยมีมา ดีไซน์สุดอลังการ วัสดุบอดี้โลหะ ซีพียู Snapdragon S4 Pro 1.5 GHz ประมวลผลแอพฯ ลื่นทุกสถาบัน ระบบปฏิบัติการ Android 4.1, กล้อง 13 ล้านพิกเซล ถ่ายภาพสวยงาม พร้อมบันทึกวิดีโอ Full HD มีโหมด HDR ด้วย ! แบตเตอรี่ 2,500 mAh และรองรับ 3G ทุกเครือข่าย มีให้เลือก 2 ความจุ – 16, 32 GB คาดว่าจะเปิดตัวไม่ถึง 20,000 บาท
 

 

 

น้องเล็กสุดของ Acer “Liquid Z1 Duo” ที่สเปคภายในอยู่ในเกณฑ์พอใช้ได้ เมื่อเทียบกับราคา มาพร้อมกับหน้าจอขนาด 3.5 นิ้ว ซีพียูความเร็ว 1 GHz รองรับการใช้งานแอพฯ ต่างๆ ได้ดี รันบนระบบปฏิบัติการ Android 2.3.6, กล้อง 3 ล้านพิกเซล และรองรับการใช้งาน 2 ซิมการ์ดแบบ Dual-Standby กับราคา 3,990 บาท
 

 

นอกจากรุ่นล่างแล้ว Acer ยังมีสมาร์ทโฟน Android 2 ซิมการ์ดระดับกลางให้เลือกใช้ด้วย “Liquid Gallant S Duo” หน้าจอทัชสกรีนขนาด 4.3 นิ้วความละเอียด qHD แสดงผลเนียนพอตัว ซีพียู Dual-Core 1 GHz รันระบบปฏิบัติการ Android 4.0.4 (อัพเกรดเป็น Jelly Bean 4.1 ได้), กล้อง 5 ล้านพิกเซล บันทึกวิดีโอ HD 720p, ระบบเสียง Dolby Mobile Plus รุ่นนี้ค่อนข้างแปลกคือ ปุ่ม Power ย้ายไปอยู่ข้างหลังเครื่อง ดังนั้นเวลาใช้งานอาจจะไม่ชินมือสักเท่าไหร่ อย่างไรก็ดี ราคารุ่นนี้ 8,990 บาท

 

ปฏิเสธไม่ได้ว่า Acer ทำรุ่นนี้ให้น่าใช้งานกว่าทุกรุ่นที่ผ่านมา สำหรับ “CloudMobile” ได้รับรางวัลดีไซน์ยอดเยี่ยมจาก iF Design Award ปีที่ผ่านมา สเปคภายในค่อนข้างดี หน้าจอความละเอียด HD ขนาด 4.3 นิ้ว เนียนคมชัดมาก ซีพียู Snapdragon S4 1.5 GHz ใช้งาน Social Network เล่นเกม ลงแอพฯ เสริมเฉพาะด้านได้มากมาย ใส่กล้องมาให้ 8 ล้านพิกเซล รองรับการบันทึกวิดีโอ Full HD รัน Android 4.0.4 (อัพเกรดเป็น Jelly Bean ได้เร็วๆ นี้) กับราคาค่าตัวประมาณ 13,900 บาท
 

 

กรุณา Login เพื่อแสดงความคิดเห็น
ส่ง Scoop ให้เพื่อน
แจ้งลบไม่เหมาะสม
ความคิดเห็น

เรื่องอื่นๆ ที่น่าสนใจ

Loading...