ไปดู “ยางพาราต้นแรก” ที่ บึงกาฬ อายุกว่า 50 ปี ผลงานพระธุดงค์

มีข้อมูลที่เป็นภาพรวม จากเกษตรจังหวัดบึงกาฬ (ต.ค.2555) ระบุว่า เนื้อที่ถือครองทางการเกษตรมีจำนวนทั้งสิ้น 1,509,912 ไร่ แยกเป็นที่นา 670,497 ไร่ คิดเป็นร้อยละ42.38 เป็นที่ยางพารา 676,910 ไร่ คิดเป็นร้อยละ 42.79  ที่เหลือเป็นพืชไร่ ไม้ยืน ไม้ผล และผัก
 

 

จะเห็นว่า เนื้อที่นามีจำนวนน้อยกว่ายางพาราอยู่ร้อยละ 0.41 และข้อมูลชุดเดียวกันยังบอกต่ออีกว่าพืชเศรษฐกิจที่สำคัญมาเป็นอันดับหนึ่งของบึงกาฬ คือ ยางพารา  แล้วระบุว่าแนวโน้มการผลิตข้าวเริ่มลดลง
 

 

เพียงเท่านี้ก็พอจะส่งสัญญาณแบบฟันธงได้เลยว่า ในอนาคตที่ไม่ไกลนักยางพาราอาจเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ จนน่าจะแทนที่ข้าว และพืชชนิดอื่น
         

 

ความร้อนแรงของยางพาราในจังหวัดบึงกาฬ ที่ดูฉุดไม่อยู่  ปัจจุบันทุกบ้าน ทุกครัวเรือน ต่างแห่ปลูกกันอย่างเต็มที่ บางครัวเรือนมีหลายรุ่นทั้งที่ปลูกมานานและกำลังเริ่มปลูกรุ่นใหม่ บางครัวเรือนปลูกมาระยะที่เพิ่งเริ่มเปิดหน้ากรีดได้ ในส่วนด้านราคายังไม่ทรงตัว มีขึ้นลงตามสภาวะการณ์
 

 

 

ท่ามกลางความวุ่นวายทั้งหลายทั้งปวงเกี่ยวกับการปลูกยางพาราในจังหวัดบึงกาฬ เคยมีใครสงสัยบ้างหรือไม่ว่า ยางต้นแรกที่โผล่ขึ้นบนผืนดินในจังหวัดบึงกาฬ อยู่ที่ไหน และมีความเป็นมาอย่างไร
         

 

บุคคลที่พอจะให้ข้อมูลเกี่ยวกับยางต้นแรกในบึงกาฬได้เป็นอย่างดี คือ นายสมหมาย แก้วมณี   นักวิชาการเกษตรชำนาญงาน สำนักงานเกษตรอำเภอโซ่พิสัย จังหวัดบึงกาฬ เพราะเขาอยู่ในเหตุการณ์ขณะนั้น ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่ชาวบ้านไปพบแต่ไม่ใครรู้จักหน้าตาของต้นยางพารามาก่อน
           

ทำให้หลายคนต่างถกเถียงกันว่าใช่หรือไม่
           

 

ขณะเดียวกัน นายสมหมาย ซึ่งเป็นคนจังหวัดนครศรีธรรมราช และมาปฏิบัติหน้าที่ประจำสำนักงานเกษตรอำเภอโซ่พิสัย เมื่อ ปี 2525 ระหว่างที่ได้ออกปฏิบัติงานราชการท้องที่ในหมู่บ้านหนองแวง ตำบลถ้าเจริญ อำเภอโซ่พิสัย มีชาวบ้านและผู้ใหญ่บ้านได้ชักชวนเขาไปดูต้นยางพาราต้นนี้ เพื่อพิสูจน์ทราบว่าเป็นต้นยางพาราจริงหรือไม่ เพราะชาวบ้านเองก็ไม่รู้จักมาก่อนเพียงแต่ ได้ยินแต่คำบอกเล่า
           

 

หลังจากนายสมหมาย พบว่าเป็นต้นยางพาราจริง จึงประชาสัมพันธ์ให้ชาวบ้านรู้จัก ซึ่งเจ้าหน้าที่ของสำนักงานเกษตรฯ ยังคิดต่ออีกว่า ยางพาราในเขตอำเภอโซ่พิสัยและอำเภอข้างเคียงสามารถปลูกได้แน่  พิสูจน์ได้จากต้นยางต้นนี้  นับจากนั้นเจ้าหน้าที่ของสำนักงานเกษตรฯ คนเดิม จึงเริ่มส่งเสริมการปลูกยางพาราให้แก่ชาวบ้านที่สนใจในเขตอำเภอโซ่พิสัย มาตั้งแต่ปี 2525 ถึงปัจจุบัน

          

 

นายสมหมาย บอกว่า จากการสอบถามชาวบ้านในหมู่บ้านหนองแวงเกี่ยวกับความเป็นมาของยางต้นนี้ได้ความว่าเมื่อ ปี 2503 มีพระธุดงค์รูปหนึ่ง ชื่อ หลวงพ่อคำสิงห์ วรธรรมโม เป็นชาวอีสาน (แต่ไม่ปรากฏภูมิลำเนาว่าอยู่จังหวัดไหน) นำมาปลูก
         

 

แต่จากคำบอกเล่าของ คุณยายเต็ม นาของ ซึ่งหลวงพ่อเล่าให้คุณยายฟังว่า ท่านได้เดินทางไปธุดงค์ที่จังหวัดพัทลุง เป็นเวลานานหลายปี เห็นชาวบ้านจังหวัดพัทลุง ล้วนมีอาชีพทำสวนยาง เห็นว่า มีขั้นตอนการปลูกง่ายๆ คือ ถางป่า จุดไฟเผาป่า (ทำไร่เลื่อนลอยในสมัยนั้น) จากนั้นใช้ไม้สักเป็นหลุม และนำเมล็ดยางพาราหยอดลงหลุมจำนวน หลุมละ 2-3 เมล็ด  เมื่องอกแล้วจึงถอนให้เหลือต้นที่สมบูรณ์เพียงต้นเดียว
          

 

หลวงพ่อบอกคุณยายเต็มว่า ท่านได้ศึกษาการปลูกยางพาราประมาณ 2-3 ปี มีความคิดว่าภาคอีสาน มีการทำไร่เลื่อนลอยเหมือนกัน เช่น ปลูกข้าวไร่และปลูกปอ  (ในสมัยนั้น) จึงคิดว่าน่าจะเอาพันธุ์ยางพาราไปปลูกในภาคอีสานบ้าง เพื่อเป็นการทดลอง ได้ผลหรือไม่เป็นอีกเรื่องหนึ่ง

          

 

จากนั้นจึงได้เก็บเมล็ดยางพารา (พันธุ์พื้นเมือง) จากจังหวัดพัทลุงประมาณ 100 เมล็ด ใส่ย่ามแล้วออกเดินทางจากจังหวัดพัทลุง มุ่งหน้ามาจังหวัดหนองคายทันที
เมื่อมาถึงจังหวัดหนองคาย ได้ลงเรือมาขึ้นท่าเรือที่อำเภอโพนพิสัย และได้เดินธุดงค์ไปตามป่าตามเขา ท่านใช้เวลาเดินธุดงค์จากอำเภอโพนพิสัย ถึงบ้านหนองพันทา เป็นเวลา 10 วัน เพราะสามารถเดินธุดงค์ได้เฉพาะในเวลากลางวันเท่านั้น จนไปพบหมู่บ้านหนองพันทา ตำบลหนองพันทา อำเภอโพนพิสัย (สมัยนั้น) และปัจจุบันคืออำเภอโซ่พิสัย จังหวัดบึงกาฬ

          

 

เมื่อหลวงพ่อคำสิงห์มาถึงหมู่บ้านนี้ ท่านเห็นคุณยายเต็ม กำลังปลูกข้าวไร่ จึงบอกกับคุณยายเต็มว่า ที่ดินของโยมเป็นดินดี คล้ายกับดินที่จังหวัดพัทลุง หลวงพ่อได้นำเมล็ดยางพารามาจากจังหวัดพัทลุงมาปลูก เพื่อทดลองให้ลูกหลานได้ดู จะได้ผลหรือไม่นั้น ไม่สำคัญ
          

 

ภายหลังที่คุณยายเต็ม ตอบตกลง และให้ปลูกแซมในแปลงข้าวไร่ของคุณยาย โดยหลวงพ่อบอกวิธีปลูก ซึ่งเป็นวิธีปลูกแบบง่ายๆ ใช้ไม้สักเป็นหลุม แล้วเอาเมล็ดยางหยอดลงไป         เมื่อเมล็ดยางงอกแล้ว คุณยายเต็ม ไม่ได้เอาใจใส่อะไรนัก เพราะยังไม่เห็นความสำคัญ แต่การดูแลรักษา และยังเกรงใจหลวงพ่อที่ฝากไว้ให้ดูแล
         

 

ปัจจุบันยางต้นแรกนี้ ยังคงปลูกอยู่ในที่ดินของคุณยายเต็ม นาของ อายุ 75 ปี อยู่บ้านเลขที่ 25 หมู่ที่ 2 บ้านหนองแวง ตำบลถ้ำเจริญ อำเภอโซ่พิสัย จังหวัดบึงกาฬ
         

 

คาดว่า ยางต้นแรกนี้ถูกปลูกเมื่อเดือนกรกฎาคม ปี 2503 ปัจจุบันต้นยางมีอายุ 52 ปี วัดเส้นรอบวง มีขนาด 340 เซนติเมตร ความสูงประมาณ 20 เมตร

 

 

 

อ่านประกอบ บึงกาฬ"ทรี อิน วัน"

 

ขนาดลำต้นต้องใช้สองคนโอบ
 

 

สนใจข้อมูลเพิ่มเติม สอบถามได้ที่  นายสมหมาย แก้วมณี โทรศัพท์ 085-4533535

 

ทั้งนี้ใครที่สนใจเรื่องราวของยางพารา   ทางจังหวัดบึงกาฬ  , กรมวิชาการเกษตร กระทรวงเกษตรและสหกรณ์  และธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร ร่วม กับบริษัทมติชน  จำกัด (มหาชน)  “จัดงานวันยางพาราบึงกาฬ 2012” ( Rubber Day  2012) สุดยอดงานยางพาราแห่งแดนอีสาน  ระหว่างวันที่ 13-16 ธันวาคม 2555  เวลา 11.00-23000 น.  ณ บริเวณศาลากลางจังหวัดบึงกาฬ  

กรุณา Login เพื่อแสดงความคิดเห็น
ส่ง Scoop ให้เพื่อน
แจ้งลบไม่เหมาะสม
ความคิดเห็น

เรื่องอื่นๆ ที่น่าสนใจ

Loading...