ตำรวจยิงแก๊สน้ำตา สกัดผู้ชุมนุม - เสธ.อ้าย ขึ้นเวทีประกาศไล่รัฐบาล

 











ตำรวจยิงแก๊สน้ำตาสกัดม็อบสะพานมัฆวานฯ ไม่ให้เข้าไปรวมตัวชุมนุมที่ลานพระรูป เจ็บ 4 ด้าน เสธ.อ้าย ขู่ ยืดเยื้อ หากสกัดคม พร้อมขึ้นเวทีประกาศขับไล่รัฐบาล

          วันที่ 24 พฤศจิกายน สถานการณ์การชุมนุมที่สะพานมัฆวานรังสรรค์ ถนนราชดำเนินนอก ล่าสุด เมื่อเวลาประมาณ 09.00 น. นายสุนทร รักษ์รงค์ ผู้ประสานงานกลุ่มเครือข่ายประชาชน 16 จังหวัดภาคใต้ นำรถบรรทุก 6 ล้อ ติดเครื่องขยายเสียง นำกลุ่มมวลชนเข้าร่วมชุมนุม แต่ยังไม่สามารถเข้าร่วมชุมนุมกับม็อบใหญ่ที่ลานพระบรมรูปทรงม้าได้เนื่องจากเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ตรึงกำลังอยู่บริเวณแยกมัฆวานรังสรรค์ ไม่ยอมเปิดทางให้มวลชนเข้าไปในพื้นที่ลานพระบรมรูปทรงม้า โดยก่อนหน้านี้ มวลชนได้ช่วยกันรื้อรั้วลวดหนาม 3 ชั้น ของเจ้าหน้าที่ตำรวจ บริเวณแยกมัฆวานฯ ออกไปไว้ด้านข้าง 

          จากนั้น ในเวลาต่อมามีรายงานว่า เจ้าหน้าที่ได้ใช้แก๊สน้ำตาเพื่อผลักดันกลุ่มผู้ชุมนุมไม่ให้มารวมตัวที่ลานพระรูปฯ แล้ว โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ขว้างแก๊สน้ำตาขึ้นไปบนรถบรรทุกของแกนนำ และขว้างใส่มวลชนที่มาชุมนุม ส่งผลให้มวลชนต่างวิ่งหนีแก๊สน้ำตาชุลมุน ออกไปคนละทิศละทาง บางคนต้องใช้น้ำล้างหน้า เพราะมีอาการแสบตาและน้ำตาไหลจากแก๊สน้ำตา และบางส่วนได้ขว้างปาขวดน้ำและสิ่งของใส่เจ้าหน้าที่ตำรวจ และตะโกนต่อว่าด้วยอารมณ์โมโห

          อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ประกาศทางเครื่องขยายเสียง ว่า วันนี้เจ้าหน้าที่จะเปิดทางให้มวลชนเข้าร่วมชุมนุมที่ลานพระบรมรูปทรงม้า โดยสามารถเข้าได้บริเวณวัดเบญจฯ และแยกพล 1 เท่านั้น แต่เส้นทางอื่นจะไม่อนุญาตอย่างเด็ดขาด ซึ่งล่าสุดเจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมผู้ฝ่าฝืนได้แล้ว 132 คน

          ทั้งนี้ มีรายงานข่าวจากศูนย์กู้ชีพวชิรพยาบาล ว่า จากเหตุการปะทะกันระหว่างตำรวจปราบจลาจล กับกลุ่มองค์การพิทักษ์สยามที่บริเวณสะพานมัฆวานรังสรรค์ และมีการยิงแก๊สน้ำตาใส่กลุ่มผู้ชุมนุมหลายนัดนั้น ล่าสุด มีผู้ได้รับบาดเจ็บจากเหตุการณ์นี้รวม 4 คน แบ่งเป็นประชาชนที่ร่วมม็อบ 3 ราย อาการโดนแก๊สน้ำตาทำให้ระคายเคือง และตำรวจบาดเจ็บ 1 นาย มีบาดแผลที่แขน ทั้งหมดนำส่งไปที่ ร.พ.วชิระ แล้ว โดยอาการปลอดภัยทุกคน
   
          ขณะที่ พล.อ.บุญเลิศ แก้วประสิทธิ์ ประธานองค์การพิทักษ์สยาม เปิดเผยว่า หากเจ้าหน้าที่ตำรวจยังคงสกัดกั้นการเดินทางเข้ามาชุมนุมก็อาจจะให้มีการชุมนุมที่ยืดเยื้อออกไป และถ้าพรุ่งนี้มีการชุมนุมที่ยืดเยื้อ ก็เชื่อว่าจะมีประชาชนเดินทางเข้ามาเพิ่มขึ้นมากกว่าเดิมแน่นอน ส่วนที่มีการสกัดกั้นไม่ให้กลุ่มผู้ชุมนุมเดินเข้ามาบริเวณพระบรมรูปทรงม้า จนอาจจะทำให้เกิดการปะทะกันระหว่างประชาชนกับเจ้าหน้าที่ตำรวจนั้น พล.อ.บุญเลิศ เชื่อว่า พลังของประชาชนจะสามารถทำให้ผ่านเข้ามาได้ พร้อมขอเวลา 3 ชั่วโมง เพื่อประเมินสถานการณ์ และกำหนดท่าทีต่อไปว่าจะยกระดับการชุมนุมหรือไม่

          จากนั้น ในเวลาประมาณ 10.00 น. พล.อ.บุญเลิศ เเก้วประสิทธิ์ ได้ขึ้นเวทีด้านหน้าพระบรมรูปทรงม้าเป็นครั้งเเรก พร้อมกับประกาศว่าจะขับไล่รัฐบาลชุดนี้ออกไปให้ได้ และยืนยันว่า จะขอต่อสู้ด้วยความสงบ แม้โดนตำรวจรังแก ท่ามกลางเสียงโห่ร้องของผู้ชุมนุม ก่อนที่ นายแก้วสรร อติโพธิ นักวิชาการอิสระ จะได้ขึ้นเวทีกล่าวปราศัยโจมตีรัฐบาลเป็นคนต่อไป





 11.30 น. สธ. สั่ง 15 จังหวัดรอบ กทม. เตรียมทีมแพทย์ฉุกเฉิน 30 ทีม  

          นายแพทย์ประดิษฐ สินธวณรงค์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยว่า ได้สั่งการให้นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัด ผู้อำนวยการโรงพยาบาลศูนย์ และผู้อำนวยการโรงพยาบาลทั่วไป ในพื้นที่ปริมณฑลและรอบนอก 15 จังหวัดได้แก่ นนทบุรี , ปทุมธานี, สมุทรปราการ, สมุทรสาคร ,นครปฐม, ราชบุรี, สมุทรสงคราม, เพชรบุรี, ฉะเชิงเทรา, ระยอง, ชลบุรี, พระนครศรีอยุธยา, อ่างทอง, สิงห์บุรี และสระบุรี เตรียมซักซ้อมแผนปฏิบัติการรับมือเหตุฉุกเฉินให้พร้อมจนถึงเมื่อยุติการชุมนุม

          นอกจากนี้ กระทรวงสาธารณสุขยังได้วางแผนระดมทีมแพทย์ไว้ 2 ชุด ประมาณ 30 ทีม เพื่อรับมือกับภาวะฉุกเฉิน โดยชุดแรกมี 5 จังหวัดปริมณฑล ได้แก่ นครปฐม สมุทรสาคร สมุทรปราการ ปทุมธานี และนนทบุรี แต่หากเหตุการณ์รุนแรงขึ้นก็จะระดมทีมแพทย์มาอีก 10 จังหวัด ได้แก่ ราชบุรี สมุทรสงคราม เพชรบุรี ฉะเชิงเทรา ระยอง ชลบุรี พระนครศรีอยุธยา อ่างทอง สิงห์บุรี และสระบุรี โดยมีโรงพยาบาลราชวิถีเป็นส่วนหน้าในการประสานงานทีมหน่วยแพทย์ฉุกเฉินจากต่างจังหวัด

 11.02 น. นปช. เผยผ่านเว็บ ให้เสื้อแดงเตรียมพร้อมในที่ตั้ง

          นปช. ออกแถลงการณ์ผ่านเว็บไซต์ และเฟซบุ๊กของนางธิดา ถาวรเศรษฐ โดยให้มวลชนเสื้อแดงเตรียมพร้อมในที่ตั้ง และฟังสัญญาณจาก นางธิดา ถาวรเศรษฐ นายจตุพร พรหมพันธุ์ และนายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ เท่านั้น


 10.03 น. ตำรวจแจงเหตุปะทะม็อบที่สะพานมัฆวานฯ

          รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล แจงเหตุปะทะกันที่สะพานมัฆวานฯ เพราะม็อบพยายามแหกจุดที่ ตร. ไม่ให้เข้า และพยายามขี่ จยย. ชน ตร. ย้ำ ทำตามหลักสากล

          จากเหตุปะทะกันระหว่างกลุ่มผู้ชุมนุมของกลุ่มองค์การพิทักษ์สยาม และเจ้าหน้าที่ตำรวจ ที่ตั้งด่านสกัดบริเวณสะพานมัฆวานรังสรรค์ จนต้องมีการใช้แก๊สน้ำตาขว้างใส่กลุ่มผู้ชุมนุม จนเกิดเหตุการณ์ชุลมุนนั้น ทาง พล.ต.ต.ปริญญา จันทร์สุริยา รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล เปิดเผยว่า จากการข่าวทราบว่า กลุ่มผู้ชุมนุมพยายามจะเข้าไปในพื้นที่ชุมนุมที่ลานพระบรมรูปทรงม้า โดยจะผ่านจุดดังกล่าว ซึ่งเป็นจุดที่ทางเจ้าหน้าที่ห้ามผ่าน โดยกำหนดให้ผ่านทางแยกวัดเบญจฯ เพียงจุดเดียว ทำให้กลุ่มผู้ชุมนุมไม่พอใจจนเกิดการกระทบกระทั่ง ก่อนที่จะเข้ารื้อลวดหนาม อีกทั้งมีความพยายามจะขับขี่รถจักรยานยนต์พุ่งชนใส่เจ้าหน้าที่ตำรวจ จึงมีความจำเป็นต้องใช้แก๊สน้ำตาเข้าควบคุมกลุ่มผู้ชุมนุม ซึ่งเป็นหนึ่งในขั้นตอนการปฏิบัติเพื่อควบคุมฝูงชนตามหลักสากล

          ด้าน พล.ต.ต.ปิยะ อุทาโย โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ แถลงว่า เมื่อประมาณ 07.00น. มีกลุ่มผู้ชุมนุมประมาณ 500 ราย พยายามฝ่าแนวกั้นแนวแรกที่สะพานมัฆวาน และแนวที่สองบริเวณสวนมิสักวัน ซึ่งแนวดังกล่าวจะต้องผ่านสถานที่สำคัญคือทำเนียบรัฐบาล โดยแกนนำผุ้ชุมนุมมีความตั้งใจให้เกิดสถานการณ์รุนแรง เพราะนำคีมเหล็กตัดลวดมาใช้ จนฝ่ามาถึงแนวกั้นตำรวจ พร้อมกับนำอุปกรณ์ที่เตรียมมาทุบตีเจ้าหน้าที่ที่ตั้งแนว ณ จุดแยกมัฆวาน และยังใช้รถหกล้อขนาดใหญ่ผลักไป และพุ่งชนเจ้าหน้าที่ เป็นเหตุเจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับบาดเจ็บ 5 นาย มี 2 นายได้รับบาดเจ็บสาหัส ขณะนี้อยู่ที่รพ.วชิระ เจ้าหน้าที่จึงต้องใช้แก๊สน้ำตาแบบขว้างปาเข้าใส่กลุ่มผู้ชุมนุม เพื่อระงับเหตุ


 08.35 น. ม็อบทยอยรวมตัวลานพระรูปฯ แล้ว เจ้าหน้าที่ตรึงกำลังเข้ม

          ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศในการชุมนุมของกลุ่มองค์การพิทักษ์สยามที่บริเวณลานพระบรมรูปทรงม้า วันนี้ (24 พฤศจิกายน) ในขณะนี้กลุ่มผู้ชุมนุมเริ่มทยอยเดินทางเข้ามากันอย่างคึกคัก โดยมีการตั้งเวทีใหญ่ และกางเต็นท์ขาวขนาดใหญ่ ตั้งแต่บริเวณลานพระบรมรูปทรงม้าจนไปถึงแยกมิสกวัน 

          ขณะที่โดยรอบลานพระบรมรูปทรงม้า ฝั่งริมกำแพงสนามเสือป่านั้น ทางกองทัพธรรมได้เตรียมความพร้อม โดยมีการให้บริการพยาบาลกองทัพธรรม และตั้งศูนย์ประสานงาน ส่วนทางฝั่งสวนอัมพรนั้น มีการตั้งโรงครัวเพื่อบริการอาหารและน้ำตลอดทั้งวัน ส่วนของห้องสุขานั้น อยู่บริเวณข้างศูนย์บัญชาการตำรวจนครบาล และข้างสหกรณ์ฝั่งตรงข้ามกำแพงวัดเบญจมบพิตรดุสิตวนาราม โดยการเดินทางเข้ามาในบริเวณนี้สามารถเดินเท้าเข้ามาได้ 2 ทาง คือจากแยกวัดเบญจฯ และแยกพล 1 เท่านั้น

          ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจห้ามนำรถยนต์ของผู้ที่ไม่เกี่ยวข้องเข้ามาโดยเด็ดขาด แต่เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา มีการขออนุญาตนำรถขนคนและอาหารเข้ามา ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจได้อนุญาตให้เข้ามาได้ แต่ต้องขอตรวจค้นรถอย่างละเอียดทีละคัน และขณะนี้บนเวทีตั้งแต่ช่วงเช้ามีแกนนำทยอยขึ้นพูดอย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้ตามกำหนดการ เบื้องต้น ในเวลาประมาณ 08.00 น พล.อ.บุญเลิศ แก้วประสิทธิ์ จะเดินทางมาทำการบวงสรวงที่บริเวณนี้ อย่างไรก็ตาม ช่วงเช้า สมณะโพธิรักษ์ ผู้ก่อตั้งลัทธิอโศกจะนำกลุ่มผู้ชุมนุมสวดมนต์ ธรรมเทศนา 30 นาที เพื่อเป็นขวัญและกำลังใจต่อผู้ชุมนุม

          ในส่วนของสื่อมวลชน ทางเจ้าหน้าที่ของกลุ่มผู้ชุมนุม ได้มีการให้เซ็นชื่อเพื่อรับปลอกแขนสีเหลืองทองบริเวณด้านหลังเวทีด้วย

          ส่วนที่อาคารรัฐสภา ในวันนี้ ได้มีการรักษาความปลอดภัยอย่างเข้มงวด เพื่อรับมือสถานการณ์ชุมนุมของกลุ่มองค์การพิทักษ์สยาม เนื่องจากต้องเตรียมสถานที่ในการอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาล ในวันพรุ่งนี้ โดยได้มีกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจจากตำรวจตระเวนชายแดน จำนวน 2 กองร้อย เจ้าหน้าที่ตำรวจควบคุมฝูงชน ตำรวจนครบาล 1 กองร้อย รวมทั้งหมดเป็น 450 นาย ในการคอยควบคุมดูแลพื้นที่ภายในอาคารรัฐสภา

          นอกจากนี้ ด้านนอกยังมีเจ้าหน้าที่ภูธรภาค 5 จำนวน 8 กองร้อย หรือกว่า 1,200 นาย ที่ยังคงทยอยเดินทางมาประจำการบริเวณด้านหน้า เพื่อคอยดูแลรักษาความปลอดภัยโดยรอบนอกถนนรัฐสภา ซึ่งในช่วงเช้าวันนี้ได้มีการปิดถนนโดยรอบรัฐสภาแล้ว พร้อมตั้งจุดตรวจในทุก ๆ ทางเข้า-ออก

 08.27 น. โฆษก อพส.ยันเข้มงวด รปภ.คู่แบ่งโซน 3 ชั้น

          พล.อ.ท.วัชระ ฤทธาคนี โฆษกองค์การพิทักษ์สยาม หรือ อพส. เปิดเผยกับสำนักข่าว ไอ.เอ็น.เอ็น.ว่า ทางองค์การพิทักษ์สยาม มีการรักษาความปลอดภัยอย่างเข้มงวด และมีการแบ่งโซนอย่างชัดเจน โดยได้เตรียมเจ้าหน้าที่ไว้ 3 ชั้น ทั้งใน นอก และกลางพื้นที่ชุมนุม ตลอดจนจะจัดเจ้าหน้าที่ลาดตระเวนโดยรอบพื้นที่ เพื่อป้องกันภัยคุกคาม พร้อมยืนยันมีคนเข้าร่วมชุมนุม 5 แสนคน แต่ขณะนี้มีการรายงานข่าวแจ้งมาว่า มีการข่มขู่ผู้ประกอบการเดินรถ เพื่อขัดขวางการเข้าร่วมชุมนุม ซึ่ง พล.อ.บุญเลิศ แก้วประสิทธิ์ แกนนำ ได้โทรศัพท์พูดคุยกับผู้ว่าราชการจังหวัด และผู้ประกอบการถึงเรื่องดังกล่าวแล้ว

          "ละเอียดถี่ถ้วน ครบถ้วนทุกโซนนะครับ จริง ๆ แล้ว เราเตรียมเจ้าหน้าที่เต็ม 3 ส่วน ส่วนชั้นใน ส่วนชั้นกลาง และรอบนอก" พล.อ.ท.วัชระ กล่าว

          นอกจากนี้ พล.อ.ท.วัชระ ยังกล่าวยืนยันว่า ไม่มีความกังวลเกี่ยวกับการชุมนุมในวันนี้ เพราะทาง อพส.ประสานกับตำรวจในการดูแลความปลอดภัยแล้ว พร้อมขอให้รับผิดชอบหากเกิดความรุนแรงเกิดขึ้น เพราะเป็นผู้รู้กฎหมาย และ อพส. ได้ชุมนุมถูกต้องตามกฎหมาย


 08.13 น. เสธ.อ้าย ยัน มีไม้เด็ดไล่รัฐ แต่ขออุบไว้ก่อน

          พล.อ.บุญเลิศ แก้วประสิทธิ์ หรือ เสธ.อ้าย ประธานกลุ่มองค์การพิทักษ์สยาม หริอ อพส. กล่าวถึงการชุมนุมในวันนี้ว่า ขณะนี้ตนมีความพร้อมมาก และเชื่อมั่นว่าประชาชนหลายแสนคนจะเดินทางเข้ามาร่วมชุมนุมอย่างแน่นอน แต่เป็นลักษณะทยอยเดินทางกันมา และหากมวลชนมากันจำนวนมาก จนทะลักพื้นที่ที่ตำรวจปิดกันไว้ จะใช้วิธีเจรจากับทางเจ้าหน้าที่ขอเข้าไปอยู่ในพื้นที่ที่ปิดกั้นไว้ โดยไม่สนับสนุนให้มีการปะทะกันแต่อย่างใด เพราะเคยประกาศกับมวลชนไว้แล้วว่า ทาง อพส.จะชุมนุมโดยสงบ ปราศจากอาวุธ ไม่ยึดสถานที่ราชการ และมีการศึกษามาแล้ว ว่า การเข้าไปชุมนุมในพื้นที่ประกาศใช้ พ.ร.บ.ความมั่นคง ภายในราชอาณาจักร พ.ศ. 2551 นั้น ไม่ผิด เพราะว่าผู้ชุมนุมไม่ได้กระทำผิดกฎหมาย

          อย่างไรก็ตาม เสธ.อ้าย ยังระบุอีกว่า ในการชุมนุมครั้งนี้ หากยังไม่สามารถที่จะขับไล่รัฐบาลได้ ตนเองพร้อมที่จะยุติการชุมนุม แต่ทั้งนี้ยืนยันว่า มีทีเด็ดที่จะขับไล่รัฐบาลอย่างแน่นอน แต่ยังไม่ขอเปิดเผยในขณะนี้

 07.00 น. ตำรวจตรึงเข้มรอบแยกวัดเบญจฯ-ปิดจราจร 9 เส้นทาง

          ที่บริเวณแยกวัดเบญจฯ ซึ่งเป็นอีกจุดหนึ่งที่เจ้าหน้าที่ตำรวจตั้งด่านตรวจคัดกรองบุคคล ที่จะผ่านเจ้าไปในพื้นที่การชุมนม บริเวณลานพระบรมรูปทรงม้า ขณะนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจนำแผงเหล็กมาวางกั้นไว้ตลอดแยก เพื่อไม่ให้รถยนต์ทุกชนิดผ่านเข้าไปในพื้นที่ชุมนุม แต่หากประชาชนที่จะเดินทางเข้าไป ต้องใช้วิธีการเดินเท้าเข้าไปเท่านั้น แต่ต้องผ่านการตรวจค้นของเจ้าหน้าที่อย่างเข้มงวด ขณะที่มวลชนยังคงทยอยเดินทางเข้าร่วมชุมนุมอย่างต่อเนื่อง และยังไม่มีความวุ่นวายใด ๆ เกิดขึ้น

          สำหรับถนน 9 สาย ที่ได้ประกาศให้ประชาชน หลีกเลี่ยงการใช้เส้นทาง ประกอบด้วย

             1. ถนนราชดำเนินนอก ตั้งแต่สะพานมัฆวานรังสรรค์ถึงแยกสวนมิสกวัน 
             2. ถนนลูกหลวง ตั้งแต่สะพานวิศสุกรรมนฤมาณถึงสะพานเทวกรรม 
             3. ถนนพิษณุโลก ตั้งแต่แยกวังแดงถึงแยกพาณิชย์ 
             4. ถนนนครปฐม ตั้งแต่สะพานอรทัยถึงแยกวัดเบญจมบพิตรฯ
             5. ถนนพระราม 5 ตั้งแต่แยกพาณิชย์ถึง ถนนลูกหลวง 
             6. ถนนลิขิต  
             7. ถนนราชวิถี ตั้งแต่แยกการเรือนถึงแยกราชวิถี 
             8. ถนนพิชัย ตั้งแต่แยกขัตติยานี ถึง ถนนราชวิถี 
             9. ถนนอู่ทองในถึงลานพระราชวังดุสิต (ด้านหลังพระบรมรูปทรงม้า)



อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก

กรุณา Login เพื่อแสดงความคิดเห็น
ส่ง Scoop ให้เพื่อน
แจ้งลบไม่เหมาะสม
ความคิดเห็น

เรื่องอื่นๆ ที่น่าสนใจ

Loading...