(20 พ.ย.) เจ้าหน้าที่ได้ควบคุมตัว นายภูชง อารีย์รัก อายุ 29 ปี มาสอบปากคำ หลังตกเป็นผู้ต้องหาฆ่าข่มขืนอย่างโหดเหี้ยม อำพรางและทิ้งศพข้ามจังหวัด

เหตุดังกล่าวสืบเนื่องจาก เมื่อวันที่ 18 พฤศจิกายนที่ผ่านมา นายจรัญ เหมืองแก้ว บิดาของ น.ส.อัมพิรา เหมืองแก้ว อายุ 25 ปี ชาว จ.แพร่ ได้เข้าแจ้งความกับ พ.ต.ต.ศักดา จันทร์จี สารวัตรเวร สภ.เมือง จ.อุตรดิตถ์ ว่าบุตรสาวของตนได้หายไป ตั้งแต่คืนวันเสาร์ที่ 17 พ.ย. 2555 จนบัดนี้ ยังไม่กลับที่พัก ในบริเวณสำนักงานทางหลวงชนบท (รฟช.เก่า ) อ.เมือง จ.อุตรดิตถ์ คาดว่าจะเกิดเหตุร้ายกับบุตรสาวของตน

หลังจากได้รับแจ้งเหตุ จึงรายงานให้ พ.ต.อ.กวี พิมพ์ปรีชา ผกก.สภ.เมือง จ.อุตรดิตถ์ ทราบ จากนั้นได้ประสานไปที่ พ.ต.ท.สมบูรณ์ คล่องใจ สว.สส สภ.เมือง พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนได้ออกสอบถาม หาเบาะแสของ น.ส.อัมพิรา บุตรสาวคนดังกล่าว จนทราบว่า ผู้สูญหายเป็นลูกจ้างของสำนักงานทางหลวงชนบท จ.อุตรดิตถ์ ซึ่งเพิ่งเข้ามาทำงานได้ประมาณ 4-5 เดือนที่ผ่านมา คืนเกิดเหตุ ผู้ตายได้ออกไปกินเลี้ยงในวันเกิดของเพื่อนร่วมงาน ที่ร้านอาหารแห่งหนึ่ง กว่า 10 คน กระทั่งเวลา 02.00 น.ร้านสุดท้ายปิด จึงแยกย้ายกันกลับที่พัก ผู้ตายได้นั่งรถกลับมากับ นายภูชง เพื่อนร่วมงาน ซึ่งมีบ้านพักอยู่ใกล้เคียงกัน

จากการสอบปากคำ นายภูชง พูดจาให้การวกวน ก่อนจะรับสารภาพว่า หลังกลับมาที่พักในคืนดังกล่าว ตนพยายามข่มขืนผู้ตายในห้องของผู้ตาย แต่ผู้ตายไม่ยินยอม ตนจึงชกไปที่ใบหน้าและที่ท้องหลายครั้ง แต่ผู้ตายก็ยังไม่ยอม จากนั้นได้ใช้มือบีบคอจนผู้ตายสลบนิ่งไป

ส่วนกรณีข่มขืนนั้น ตนไม่ได้ทำ เพียงแต่ใช้นิ้วเท้าสอดใส่เข้าไปทางช่องคลอดเท่านั้น ต่อมาจึงทราบว่าผู้ตายเสียชีวิตแล้ว จึงนำศพใส่กระโปรงท้าย รถยนต์ฮอนด้า สีขาว ทะเบียน กง 1239 อุตรดิตถ์ ไปทิ้งที่ อ.ศรีนคร ก่อนจะใช้น้ำมันราดศพและจุดไฟเผาอำพราง

เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ยังไม่ปักใจเชื่อว่า ผู้ต้องหาไม่ได้ข่มขืนผู้ตาย จึงส่งศพไปพิสูจน์ที่สถาบันนิติเวช พร้อมกับตั้งข้อหาฆ่าผู้อื่นตายโดยเจตนาและเคลื่อนย้ายทำลายศพ นำตัวดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป