"อธิการฯลาดกระบัง"ชี้หลงทาง-จวกต้าน3จี มุ่งแต่รายได้ เมินผู้ใช้

อธิการบดี "สจล."เผยกลุ่มโจมตีประมูล"3จี"หลงทาง ชี้มูลค่าปัจจุบันไม่สูงอย่างที่คิดกัน เหตุเหลือเวลาให้เอกชนหารายได้แค่ 3 ปี ก่อน"4จี"จะเริ่มใช้ แนะหนุนขยายเครือข่ายเพื่อประชาชน

@ "ถวิล"ชี้กลุ่มต้าน3จี"หลงทาง"

กรณี ที่เครือข่ายและองค์กรต่างๆ โจมตีการประมูลใบอนุญาตคลื่น 3จี ของคณะกรรมการกิจการกระจายเสียงกิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคม (กสทช.) ไม่โปร่งใส ส่อว่ามีการ ฮั้วประมูล และเสนอให้คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) และสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) ตรวจสอบนั้น 

เมื่อวันที่ 21 ตุลาคม นายถวิล พึ่งมา อธิการบดีสถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง (สจล.) เปิดเผยว่า ทุกฝ่ายกำลังหลงทางกันไปหมด เพราะมุ่งแต่จะตั้งราคาประมูลคลื่นสูงเข้าไว้ โดยไม่ดูผลกระทบที่จะตามมา ทั้งที่ควรพิจารณาเร่งรัดให้ผู้ประกอบการลงทุนสร้างและขยายเครือข่าย 3จี ให้ครอบคลุมทั้งประเทศ จะเป็นประโยชน์ต่อประชาชนมากกว่า 

"เรื่อง ฮั้วประมูลและโปร่งใสหรือไม่ กสทช. คงทำอะไรไม่ได้มากกว่านี้เพราะกฎหมายจัดตั้ง กสทช.กำหนดให้ใช้วิธีการประมูล ทั้งที่ไม่ใช่วิธีที่ถูกต้องเสมอไป และไม่ได้เป็นวิธีที่จะป้องกันการฮั้วประมูลได้ ไม่ว่าจะออกแบบอย่างไร หรือไปตั้งราคาสูงเท่าไร เพราะหากเอกชนเขาจะฮั้วประมูลกันจริงแค่เขาจับมือกัน ถ้าตั้งเพดานราคาประมูลสูงเกินกว่า 5,000 ล้านบาท แล้วเขาไม่เสนอราคา กสทช.จะทำอะไรได้ สุดท้ายคนไทยเรานั่นแหละจะสูญเสียประโยชน์ และหากท้ายที่สุดแล้วไม่สามารถ ผลักดันมือถือ 3จี ครั้งนี้ได้ไม่เพียงแต่ประเทศไทยจะไม่มี 3จี ใช้เท่านั้น การประมูลคลื่น 4จี และ 5จี ในอนาคตก็คงไม่เกิดขึ้นอีก" นายถวิลกล่าว 

นายถวิลกล่าว ว่า ในต่างประเทศนั้นการจัดสรรคลื่น 3จี ส่วนใหญ่ไม่ใช้วิธีประมูล แต่จัดสรรตรงไปยังผู้ประกอบการรายเดิมเพื่อเป็นแรงจูงใจให้ผู้ประกอบการเร่ง พัฒนาและขยายเครือข่ายให้มากที่สุด ไม่ว่าจะเป็นจีน ญี่ปุ่น หรือเวียดนาม ที่จัดสรรคลื่นโดยไม่ประมูล เพราะรัฐบาลต้องการให้เอกชนแข่งขันกันที่การพัฒนาคุณภาพและเครือข่าย ยิ่งผู้ประกอบการขยายเครือข่ายได้กว้างและครอบคลุมประชาชนยิ่งได้ประโยชน์ 

@ ยันมูลค่า3จีไม่สูงอย่างที่คิด

"ส่วน ที่หลายฝ่ายมองว่าคลื่นความถี่ 2.1 กิกะเฮิรตซ์ ที่ให้บริการ 3จี เป็นคลื่นที่มีมูลค่าสูงนั้น เป็นการมองตลาดโดยไม่รู้ข้อเท็จจริงและ สภาพตลาด เพราะในอนาคตอันใกล้ภายในปี 2558 หรือ 3 ปีจากนี้ เทคโนโลยีใหม่ LTE หรือ 4จี จะเริ่มให้บริการแล้ว ประเทศต่างๆ ทั่วโลกเริ่มมุ่งไปสู่คลื่นใหม่ 4จี กันแล้ว ดังนั้น คลื่น 3จี ที่ไทยนำออกประมูลวันนี้ เอกชนที่ได้ไปต้องรีบเก็บเกี่ยวผลประโยชน์ภายใน 3-4 ปีนี้ให้ได้ หากคืนทุนไม่ได้ก็เจ๊งแน่นอน ผมจึงไม่แปลกใจที่เหตุใดค่ายมือถือต่างๆ ถึงไม่อยากเสนอราคาประมูล" อธิการบดี สจล.กล่าว

นายถวิลกล่าวว่า ส่วนที่ว่าราคาคลื่น 3จี สูงถึง 6,000-6,400 ล้านบาท/สล็อตนั้น มันเป็นราคาตลาดเมื่อ 10 ปีก่อนแล้ว หากเป็นเมื่อก่อนคงได้แน่ แต่วันนี้มันไม่ใช่แล้ว คลื่นที่สามารถนำไปแสวงหาประโยชน์ได้แค่ 3-4 ปีจากนี้ย่อมไม่คุ้มที่จะทุ่มเม็ดเงินเป็นพันล้านบาทไปช่วงชิงมา ตลาด 3จี นี้หากไม่สามารถคืนทุนได้ภายใน 3 ปีก็มีแต่เจ๊งเท่านั้น ยิ่งโอกาสที่จะแสวงหากำไรจากการประกอบการไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะเดิมนั้นเก็บค่าบริการเสียงได้ถึงนาทีละ 9 บาท แต่วันนี้คิดค่าบริการได้เพียง 0.99 บาทเท่านั้น 

@ แนะให้ห่านขนขึ้นก่อนถอน

"เรา ไม่ควรมองแต่เรื่องเงินประมูล แต่ควรมองเรื่องการขยายเครือข่ายเป็นหลัก ไม่จำเป็นต้องเรียกเก็บสูง เพื่อให้เอกชนมีเงินไปลงทุนขยายเครือข่ายให้มากที่สุด ถึงเวลานั้น กสทช. และรัฐจะได้ประโยชน์กลับมามากกว่าเงินกินเปล่านี้ เพราะหากทั้ง 3 ค่ายมีการแข่งขันสมบูรณ์ แค่ลูกค้าผู้ใช้บริการ 20 ล้านคน ใช้บริการวันละ 20 บาท/คน ก็มีเงินสะพัด 400 ล้านบาท/วันแล้ว กสทช.จะได้ค่าธรรมเนียมที่เรียกเก็บ 6.5% ของรายได้สุทธิ รัฐเองก็ได้ภาษีมูลค่าเพิ่ม (แวต) 7% รวมแล้ว 13.5% ของรายได้แล้ว แทนที่จะรีบถอนขนห่าน น่าจะปล่อยให้ห่านมีขนขึ้นมาเสียก่อนแล้วค่อยถอน" นายถวิลกล่าว

@ "ทีดีอาร์ไอ"เชื่อจัดฉาก3จี

ด้าน นายสมเกียรติ ตั้งกิจวานิชย์ ประธานสถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย (ทีดีอาร์ไอ) ได้เขียนบทความเรื่อง "เศรษฐศาสตร์ชันสูตรว่าด้วยการประมูล 3จี พิสดาร" ระบุว่า การประมูล 3จี ของ กสทช.จบลงพร้อมกับทิ้งความเสียหาย 1.6 หมื่นล้านบาทให้กับประชาชนผู้เสียภาษี ขณะที่ผู้ประกอบการทั้ง 3 รายได้ลาภลอย เพราะราคาคลื่นที่ประมูลได้ต่ำกว่าราคาประเมินมากมาย 

"เอ ไอเอสเสนอราคาสูงสุด 14,625 ล้านบาท ขณะที่ดีแทคและทรู เสนอราคาเท่ากันที่ 13,500 ล้านบาท ซึ่งเป็นราคาขั้นต่ำในการประมูล ผลก็คือทำให้รัฐมีรายได้รวมเพียง 41,625 ล้านบาท หรือสูงกว่าราคาตั้งต้นเพียง 2.8% เท่านั้น ทำให้มูลค่าการประมูล 3 จีในประเทศไทยต่ำที่สุดประเทศหนึ่งในโลก เพราะ กสทช.ออกแบบให้การประมูลแทบไม่เหลือการแข่งขันเลย แต่ที่น่าสนใจคือ ทำไมเอไอเอสจึงเสนอราคาสูงกว่ารายอื่นมากเกินความจำเป็น หรือสูงกว่ารายอื่นถึง 1,125 ล้านบาท ทั้งที่การเสนอราคาเฉือนรายอื่นเพียง 225 ล้านบาท หรือราคาเคาะเพิ่มต่อครั้ง ก็น่าจะสูงพอที่จะเป็นผู้ชนะเลือกคลื่นที่ดีที่สุดได้แล้ว ซึ่งอาจอธิบายพฤติกรรมแปลกพิสดารนี้ได้หลายทาง เช่น ผู้บริหารเอไอเอสตัดสินใจผิดพลาด ทำให้ผู้ถือหุ้นเสียหาย สมควรถูกกรรมการบริษัทลงโทษ หรือผู้ถือหุ้นควรฟ้องร้องเรียกค่าเสียหาย หรืออาจเป็นความพยายามจัดฉากของบางฝ่าย เพื่อแสดงให้ประชาชนเห็นว่า การประมูลมีการแข่งขัน ข้อสันนิษฐานดังกล่าว หาข้อสรุปได้ไม่ยาก หากมีการตรวจสอบอย่างจริงจังโดยหน่วยงานภาครัฐ โดยเฉพาะ ป.ป.ช." บทความระบุ

@ "กรณ์"เฟซชี้สังคมหนุน3จี

นาย กรณ์ จาติกวณิช รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ แสดงความเห็นในเฟซบุ๊กส่วนตัว โดยมีเนื้อหาบางส่วนว่า "ผมคุยอยู่กับเพื่อนเรื่องประมูลใบอนุญาต 3จี เพื่อนบอกว่า ใครๆ ก็รู้อยู่แล้วว่ามันจะต้องมีการฮั้ว แต่ถ้าดูภาพใหญ่ผลประโยชน์ของประเทศ ต้องสรุปว่าถึงมันจะฮั้วกันจริง แต่อย่างน้อยเราก็จะได้ 3จี เสียที ยังดีกว่าไม่มีการประมูล หรือแม้แต่ให้ไปประมูลใหม่ ผมคิดว่าที่เพื่อนผมพูดนั้น น่าจะเป็นกระแสหลักสังคม"

"ด้วยเหตุนั้น นักการเมืองจึงเงียบมากกับเรื่องนี้ ใครได้เห็น รมต.ไอซีทีออกมาแสดงความคิดเห็นบ้างไหมครับ แม้แต่ฝ่ายค้านก็รู้สึกว่าหากออกมาพูดมากแล้วจะเปลืองตัว เพราะนักการเมืองเกาะติดกระแสสังคม และความต้องการของประชาชนอยู่แล้ว และเรารู้ว่าใครไปทำอะไรให้ประชาชนไม่ได้ใช้ 3จี ก็จะถูกด่า เสียคะแนน ผมมองว่า ที่เราบ่นๆ มาตลอดว่า สังคมเราเป็นอะไร ที่มีเยาวชนจำนวนมากถึง 70-80% ออกมาบอกว่า โกงได้แต่ขอให้ตนได้ประโยชน์นั้น ไม่ได้ต่างกับการบอกว่า ฮั้วก็ฮั้วไป ขอให้ได้มี 3จี ใช้"

"แต่คำถาม คือ เราจำเป็นต้องยอมรับข้อเท็จจริงนี้จริงหรือเปล่า สังคมเรายอมแพ้เรื่องคอร์รัปชั่นแล้วใช่หรือไม่ คำถามคือคุณยอมต้องเดือดร้อนแค่ไหน เพื่อต่อสู้การโกงกิน ยอมไปโรงพักแทนจ่ายตำรวจจราจรหรือไม่ ยอมที่จะไม่ได้สร้างบ้านแบบคนอื่นเขาแทนที่จะจ่ายให้สำนักงานเขตไหม ข้อเท็จจริงคือ เราไม่ค่อยยอมอดทนกันดอกครับ เพราะเรารู้สึกว่าอดทนไปก็ไม่ได้ทำให้อะไรดีขึ้นแถมเราต้องเสียประโยชน์และ โอกาสอีก วันนี้ คนไทยปรับตัวให้อยู่กับคอร์รัปชั่น และดูเหมือนจะเลิกคิดที่จะกำจัดคอร์รัปชั่นแล้ว"

@ ชม"สุภา"ขวางโลกบี้3จี

"แต่ ก็ยังไม่ใช่ทุกคนครับที่คิดแบบนี้ ผมขอยกข่าวข้างล่างนี้ เป็นคำพูดของคุณ "สุภา ปิยะจิตติ" รองปลัดกระทรวงการคลัง เคยทำงานร่วมกับผมมา ความคิดของคุณสุภาบางครั้งอาจจะไม่ถูกต้อง แต่ที่กระทรวง ทุกๆ คนจะเคารพในความเที่ยงตรงโดยไม่หวังประโยชน์ตอบแทนของท่าน (ผมเคยเสนอให้ท่านเป็นตัวเลือกที่จะได้เป็นปลัดกระทรวง แต่ท่านขอถอนตัว และขอเพียงได้ทำงานที่ถนัด)

"รองปลัดกระทรวงการคลัง กล่าวว่า "กสทช. เป็นองค์กรของรัฐที่เป็นอิสระก็จริง แต่เป็นเพียงการเป็นอิสระจากการแทรกแซงทางการเมืองโดยรัฐบาล ไม่ได้อิสระจากการตรวจสอบของประชาชน รวมทั้งมีหน้าที่ต้องรักษาผลประโยชน์ของประเทศชาติ และการที่ กสทช.เป็นองค์กรอิสระ ยิ่งต้องมีธรรมาภิบาลมากกว่าองค์กรของรัฐอื่นๆ ดังนั้น การจัดการประมูลโดยที่ไม่ได้มีการสร้างเงื่อนไขการประมูลที่จูงใจให้เอกชน ที่เข้าร่วมประมูลเสนอราคาแข่งขันกัน ย่อมมีโอกาสที่จะเข้าข่ายการสมยอมราคาหรือฮั้วประมูล"

"นี่เป็นคำพูด และการกระทำของคนที่ขวางโลก และเป็นอุปสรรคต่อความเจริญ หรือเป็นคำพูดของคนที่เราควรต้องปกป้อง และสนับสนุนครับ ดูเหมือนตอบง่ายเพราะคำตอบของเราก็คือแค่คำพูด แต่เอาเข้าจริงเราหนักแน่นแค่ไหนครับ"

นายอารีพงศ์ ภู่ชอุ่ม ปลัดกระทรวงการคลังกล่าวว่า ภายในสัปดาห์นี้จะทําหนังสือตอบกลับไปยัง กสทช. เพื่อชี้แจงกรณีที่ น.ส.สุภา ปิยะจิตติ รองปลัดกระทรวงการคลัง และประธานกรรมการว่าด้วยการพัสดุด้วยวิธีการอิเล็ก ทรอนิกส์ ที่ทําหนังสือท้วงติงเกี่ยวกับการประมูลใบอนุญาตคลื่น 3จี 

@ ป.ป.ช.คาด25ต.ค.หารือ3จี

นาย วิชา มหาคุณ กรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) กล่าวกรณีการร้องเรียนคัดค้านการประมูลใบอนุญาต 3จี ว่า ได้รับเรื่องการร้องเรียนเรื่องดังกล่าวจากทางสื่อมวลชนเท่านั้น ในวันที่ 25 ตุลาคม คาดว่า น่าจะมีการนำเข้าสู่ที่ประชุมของ ป.ป.ช.ใหญ่ เพื่อพิจารณาเรื่องดังกล่าว

ด้านนายรักษเกชา แฉ่ฉาย โฆษกสำนักงาน ผู้ตรวจการแผ่นดินกล่าวว่า ในวันที่ 22 ตุลาคม นายสุริยะใส กตะศิลา ผู้ประสานงานกลุ่ม การเมืองสีเขียว (กลุ่มกรีน) จะมายื่นเรื่องขอให้ตรวจสอบการประมูลใบอนุญาต 3จี โดยกำชับว่าต้องการยื่นต่อผู้ตรวจการแผ่นดินโดยตรงเพราะเห็นว่าเป็นเรื่อง ที่สำคัญ แต่ต้องดูว่าเป็นประเด็นใด และผู้ตรวจการมีอำนาจรับเรื่องไว้หรือไม่ เพราะประเด็นที่ว่าการประมูล 3จี ที่มีข้อสงสัยว่าฮั้วประมูลกันและขัดกับ พ.ร.บ.ฮั้วประมูลหรือไม่นั้น หน้าที่หลักน่าจะเป็นเรื่องของ ป.ป.ช.ต้องดำเนินการมากกว่า

ที่มา มติชนออนไลน์
 

กรุณา Login เพื่อแสดงความคิดเห็น
ส่ง Scoop ให้เพื่อน
แจ้งลบไม่เหมาะสม
ความคิดเห็น

เรื่องอื่นๆ ที่น่าสนใจ

Loading...