ตร.ปทส.บุกจับ คนเลี้ยงเสือโคร่ง 6 ตัว บนดาดฟ้าอพาร์ตเมนต์ เมืองปทุมฯ

 

เมื่อเวลา 15.00 น. วันที่ 10 ก.ย. พล.ต.ต.นรศักดิ์ เหมนิธิ ผบก.กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ผบก.ปทส.) พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่กก.2 บก.2 ปทส. นำหมายค้นศาลธัญบุรี เลขที่ 1094/2555 ข้อหามีไว้ซึ่งสัตว์ป่าคุ้มครองโดยไม่ได้รับอนุญาต ตามพ.ร.บ.สงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า 2535 เข้าตรวจค้นภายในนิคมอุตสาหกรรมนวนคร หมู่บ้านไทยธานี ซอย 15 ซึ่งเป็นสถานที่ตั้งของ ฤทธิ์บัณฑิตอพาร์ตเมนต์ž ตั้งอยู่หมู่ 19 ต.คลองหนึ่ง อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี หลังสืบทราบว่าสถานที่ดังกล่าวเลี้ยงเสือไว้ในที่พักโดยไม่ได้รับอนุญาต
 
 เมื่อไปถึงพบบนดาดฟ้าชั้น 4 ของอพาร์ตเมนต์ดังกล่าว ถูกสร้างปิดล้อมด้วยโครงตะแกรงเหล็กทำเป็นกรงเสือ จำนวน 3 กรง กรงแรกพบพ่อพันธุ์แม่พันธุ์เสือโคร่งสายพันธ์เบงกอล ชื่อ แซม อายุ 7 ปี กับแองจี้ อายุ 6 ปี อาศัยอยู่ในกรงเดียวกัน ส่วนกรงที่ 2 พบลูกเสือในกรง 3 ตัว เป็นตัวผู้ 2 ตัว ชื่ออาชิและโซฮาล อายุ 3 ปี และตัวเมีย 1 ตัว ชื่อ ชามู อายุ 9 เดือน ส่วนกรงที่ 3 เป็นลูกเสือโคร่งเพศเมีย ชื่อมิกิ อายุ 9 เดือน มีชายไม่ทราบชื่อทำหน้าที่เลี้ยงดู และมีนายสุรศักดิ์ บุญเทียนทอง อายุ 28 ปี รับเป็นเจ้าของเสือโคร่งทั้งหมด
 
 นายสุรศักดิ์ให้การอ้างว่า เลี้ยงเสือโคร่งพ่อพันธุ์แม่พันธุ์ 2 ตัวนี้ มาตั้งแต่ปีพ.ศ.2546 กระทั่งเมื่อ 3 ปีก่อนได้ให้กำเนิดลูกเสือเป็นเพศผู้ 2 ตัว และเมื่อปีที่แล้วก็กำเนิดลูกเสือเพศเมียอีก 2 ตัว จึงแยกกันเลี้ยงไว้ในกรง และจ้างคนคอยดูแลให้อาหาร เป็นไก่สดวันละ 6 กิโลกรัม โดยได้แจ้งขอฝังชิพไว้ที่ตัวเสือทั้งหมดแล้ว
 
 พล.ต.ต.นรศักดิ์กล่าวว่า ในเบื้องต้นพบว่าการเพาะพันธุ์เสือเองถือเป็นความผิด ฐานไม่ได้รับอนุญาตให้มีการเพาะพันธุ์เสือ ซึ่งส่วนใหญ่มักจะมีการลักลอบเพาะพันธุ์เสือเลี้ยงกัน เนื่องจากหากเสือมีอายุได้ 2 ปี ส่งขายต่างประเทศ จะได้ราคาตัวละประมาณ 6 แสน - 1 ล้านบาท กระดูกเสือกิโลกรัมละ 30,000-50,000 บาท เสือ 1 ตัว กระดูกหนักประมาณ 60 กิโลกรัม ส่วยอวัยวะอื่นๆ ก็จะสามารถขายได้อีกต่างหาก
 
 ส่วนใหญ่จะนำไปทำยาประเทศจีน จึงทำให้มีผู้ลักลอบเลี้ยงเพาะพันธุ์กันจำนวนมาก ถือเป็นความผิดตามพ.ร.บ.ของการมีสัตว์ป่าคุ้มครองโดยไม่ได้รับอนุญาต อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ยังไม่ปักใจเชื่อตามคำให้การของผู้รับเป็นเจ้าของ จะได้อายัดเสือโคร่งทั้งหมดไว้และส่งดีเอ็นเอของเสือทั้ง 6 ตัวตรวจสอบอย่างละเอียด ก่อนจะประสานเจ้าหน้าที่รับเสือไปไว้ที่จ.ราชบุรีต่อไปŽ พล.ต.ต.นรศักดิ์กล่าว
 
 ทั้งนี้ สืบเนื่องจากก่อนหน้านี้เจ้าหน้าที่สามารถจับกุมแก๊งค้าสัตว์ที่อ.แก่งคอย จ.สระบุรี และสืบทราบว่าเมื่อเดือนที่แล้วมีการขายเสือออกต่างประเทศ จำนวน 1 ตัว และเมื่ออาทิตย์ที่แล้วก็มีการขายให้ลูกค้าที่เวียดนามอีก 4 ตัว กระทั่งมีการขยายผลพบว่าที่อพาร์ตเมนต์แห่งนี้ เลี้ยงเสือโคร่งไว้จึงเข้าจับกุม
 
 ด้านนายเริงชัย ประยูรเวช รองอธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช กล่าวว่า เบื้องต้นทราบว่าเจ้าของยื่นแบบแจ้งการครอบครองสัตว์ป่าคุ้มครอง (แบบ สป.1) ไว้เมื่อปีพ.ศ.2535 จำนวน 2 ตัว และในปีพ.ศ.2546 อีก 2 ตัว จึงมีข้อสงสัยว่าเสือที่เลี้ยงไว้ในปัจจุบันจะไม่ใช่เสือตัวเดียวกันกับที่แจ้งการครอบครองไว้เมื่อปีพ.ศ.2535 เพราะเวลาผ่านมากว่า 20 ปีแล้ว ในขณะที่เสือจะมีอายุเต็มที่แค่ 15-16 ปีเท่านั้น ซึ่งเสือที่เลี้ยงไว้นั้นอาจจะเป็นลูกเสือ แล้วสวมรอยในการครอบครองโดยไม่มีการมาแจ้งใหม่ ซึ่งขณะนี้ทางอุทยานฯ ได้อายัดเสือโคร่งทั้งหมดไปดูแลที่เขตห้ามล่าสัตว์ป่าเขาประทับช้าง สถานีเพาะเลี้ยงสัตว์ป่าประทับช้าง จ.ราชบุรี เพื่อตรวจสอบดีเอ็นเอของเสือว่ามาจากแหล่งไหน 
กรุณา Login เพื่อแสดงความคิดเห็น
ส่ง Scoop ให้เพื่อน
แจ้งลบไม่เหมาะสม
ความคิดเห็น

เรื่องอื่นๆ ที่น่าสนใจ

Loading...