......ก่อนอื่น ขอปรบมือชม น้อมคารวะ "พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง" ผู้บัญชาการตำรวจนครบาลมาด้วยความจริงใจ ที่ประกาศเอาตำแหน่งเป็นเดิมพัน กรณีที่ "ด.ต.วิเชียร กลั่นประเสริฐ" ผบ.หมู่ ป. สน.ทองหล่อ ถูกรถสปอร์ต "เฟอร์รารี" ชนดับอนาถ ช่วงรุ่งสางของวันสองวันก่อน ตายขณะปฏิบัติหน้าที่ "ชนแล้วลาก" ไปกว่า 200 เมตร และทราบในเวลาต่อมาว่า ขาซิ่งรายนี้ชื่อ "วรยุทธ อยู่วิทยา" ลูกเลิฟของเจ้าสัว "เฉลิม อยู่วิทยา" เจ้าพ่อเครื่องดื่ม "กระทิงแดง"

......ก่อน "นายวรยุทธ" จะจำนนและออกมามอบตัว มีการ "เล่นซ่อนหา" ใช้วิธีการซิกแซ็กย้อมแมวส่งผู้ต้องหา "ตัวปลอม" คือ "นายสุเวศ หอมอุบล" พ่อบ้านที่ทำหน้าที่ดูแลรถหรูทุกคันในคฤหาสน์ มารับโทษแทน และที่เจ็บอก ลิ้นปี่จุก สำหรับ "คนสีกากี" เป็นไหนๆ ตรงที่ "มือสลับ" ซึ่งกระทำการให้ตำรวจเสียชีวิต ผู้อยู่เบื้องหลังการถ่ายทำ คือ "ตำรวจ" คนสีเดียวกัน จงใจ เจตนา กลับด้านมืดให้เป็นสว่าง

......ซึ่ง "บิ๊กแจ๊ด" เลือดเดือด ลงดาบเชือดในเวลาถัดมา หนึ่งในนั้น ที่ถูกเด้งบูชายัญคือ "พ.ต.ท.ปัณณ์ณภณ นามเมือง" สวป. สน.ทองหล่อ นั่นเอง โดยมีคำสั่งย้ายไปช่วยราชการที่ บช.น.เป็นเวลา 30 วันทันควัน ซึ่ง "ผบช.น." ระบุปฐมเหตุว่า "เพราะ สวป.คนนี้ เป็นผู้เอาคนขับรถในบ้าน มาสวมรอยมอบตัว ขณะที่คนขับรถตัวจริงยังลอยนวล และผมทราบดีว่า นายตำรวจคนนี้ทำหน้าที่ดูแลความเรียบร้อยให้กับบ้านเจ้าสัวกระทิงแดง แต่ทำงานแบบนี้ใช้ไม่ได้"

......มูลความผิดของรูปคดี อยู่ที่พนักงานสอบสวนจะตั้งธงไปกี่กระทงความ เบื้องต้น ขับรถประมาท ทำให้ผู้อื่นเสียชีวิต หลบหนี หรืออื่นๆ ซึ่ง "วรยุทธ" แม้นามสกุลจะดังทะลุฟ้า "อยู่วิทยา" มหาเศรษฐีขั้นเทพ ติดอันดับโลก อู้ฟู่ขนาดไหน ก็ต้องได้รับโทษตามกบิลเมือง กฎหมายใช้เล่มเดียวกับ "ลูกยาจก" ละเว้นหรือละไว้ก่อนย่อมไม่ได้

......อีกมุมหนึ่งในคดีเดียวกัน ดูเหรียญอีกด้าน สำหรับ "เฉลิม อยู่วิทยา" เจ้าพ่อกระทิงแดง บิดาของ "นายวรยุทธ" ตีนผี การบากหน้าไปปรากฏตัวที่ศาลา กราบขอขมาศพ "ด.ต.วิเชียร" และเดินยกมือไหว้ญาติๆ กล่าว "ขอโทษจากใจจริงสำหรับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น" แม้จะถูกต่อว่าต่อขาน อย่างมีอารมณ์จากญาติผู้เสียชีวิต ก็น้อมรับและพร้อมช่วยเหลือทุกกรณี

......ความอดกลั้น อดทนของ "เจ้าพ่อกระทิงแดง" ต้องชม เพราะทำหน้าที่ของ "พ่อ" ได้ลงตัว-สมบูรณ์ อย่างน้อยที่สุดการไปปรากฏตัว กราบขอขมาลาโทษศพและญาติ ในทันทีทันใด ไม่เตะถ่วง ดึงจังหวะ อาศัยคราบมหาเศรษฐี ซื้อคน ซื้อเวลา ประวิงไปเรื่อยๆ อย่างน้อยในแง่ของ "ความรู้สึก" ถือช่วยลดแรงกระแทกจากกระแสสังคมที่ "ลูก" กระทำผิดเอาไว้ได้มากทีเดียว ถ้าไม่เช่นนั้นแล้ว จะถูก "สังคมลงโทษ" หนักกว่านี้อีกหลายสิบเท่า