ผลเลือดมัด"บอส" เมา-ขับ! แม่พาไหว้ศพตร.

ระดับแอลกอฮอล์65 เตรียมแจ้งข้อหาเพิ่ม ชัดแล้วชนติดหน้ารถ ไม่เข้าข่ายพยายามฆ่า

ผลเลือดมัด"บอส" ลูกกระทิงแดง พบแอลกอฮอล์ 65 ม.ก. เปอร์เซ็นต์เกินกฎหมาย กำหนด เตรียมเพิ่มข้อหาเมาแล้วขับ หนุ่มบอสโผล่วัดธาตุทอง รุดไหว้ศพ ด.ต.เหยื่อชนดับครั้งแรก ไฮโซดัง"ดารณี อยู่วิทยา" ผู้เป็นแม่ตามประกบดูแลใกล้ชิด ตร.รอผลพิสูจน์หลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์ ชัดเจนแล้วเฟอร์รารี่ชนจยย.แล้วร่างด.ต.ลอยมาติดกระจกหน้าเป็นระยะทาง 60 กว่าเมตร ไม่ได้ลากศพใต้ท้องรถ มีแต่รถจยย.เกี่ยวติดลากไปกับถนนไกลเกือบ 200 เมตร เร่งหาวงจรปิดนาทีพุ่งชนให้ผู้เชี่ยวชาญวิเคราะห์ความเร็วของรถขณะเกิดเหตุ พ่อบ้านกลับคำให้การชั้นอัยการ ปฏิเสธไม่ได้แอบอ้างรับเป็นคนขับรถ ตร.เปลี่ยนจากส่งฟ้องขอฝากขังนำกลับมาสอบใหม่ ชงผลสรุปให้สวป.ออกจากราชการฐานนำแพะมาสวมรอย 

จากกรณีนายวรยุทธ หรือบอส อยู่วิทยา อายุ 27 ปี ลูกชายคนเล็กของนายเฉลิม อยู่วิทยา ประธานบริษัทเรดบูล คอมปานี ลิมิเต็ด นักธุรกิจแสนล้านเจ้าของเครื่องดื่มกระทิงแดง ขับรถสปอร์ตเฟอร์รารี่ สีบรอนซ์เทา ทะเบียน ญญ 1111 กทม. พุ่งชนรถจักรยานยนต์สายตรวจของ ด.ต.วิเชียร กลั่นประเสริฐ ผบ.หมู่ ป.สน.ทองหล่อ ตั้งแต่ปากซอยสุขุมวิท 47 ไปจนถึงซอยสุขุมวิท 49 รวมระยะทางถึง 200 เมตร จนด.ต.วิเชียรเสียชีวิตคาเครื่องแบบ หลังเกิดเหตุนายวรยุทธขับรถหลบเข้าไปในบ้านซอยสุขุมวิท 53 สุดท้ายยอมมอบตัวหลังตำรวจตามกดดันอย่างหนัก เมื่อเช้าตรู่วันที่ 3 ก.ย. ที่ผ่านมา เบื้องต้นพนักงานสอบสวนตั้งข้อหาขับรถโดยประมาทเป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิต และข้อหาชนแล้วหลบหนี ส่งตัวผู้ต้องหาตรวจปริมาณแอลกอฮอล์ในร่างกาย ก่อนทนายความจะยื่น 5 แสนบาท ประกันตัวออกไป

ขณะเดียวกันพล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง ผบช.น. สั่งย้ายด่วนพ.ต.ท.ปัณณ์ณภณ นามเมือง สวป.สน.ทองหล่อ มาช่วยราชการบช.น. เนื่องจากนำนายสุเวศ หอมอุบล อายุ 45 ปี พ่อบ้านของนายเฉลิมมามอบตัวอ้างเป็นคนขับก่อเหตุ ขณะที่นายเฉลิม บิดาของนายวรยุทธ ผู้ต้องหาออกโรงแสดงความเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น พร้อมดูแลรับผิดชอบอย่างเต็มที่ โดยเดินทางไปไหว้ศพ ด.ต.วิเชียร และขอโทษครอบครัวญาติพี่น้องผู้ตายด้วยตัวเอง นอกจากนี้ยังรับจัดการงานศพ โดยไปร่วมฟังสวดพระอภิธรรมที่วัดธาตุทอง ทุกคืน ตามข่าวที่เสนอไปแล้วนั้น



ตร.ประชุมความคืบหน้าคดี

ความคืบหน้าเกี่ยวกับเรื่องนี้ เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 5 ก.ย. ที่สน.ทองหล่อ พล.ต.ต.อนุชัย เล็กบำรุง รองผบช.น. เรียกพล.ต.ต.กฤษฏิ์ เปียแก้ว ผบก.น.5 พ.ต.อ.สุคุณ พรหมาย รอง ผบก.น.5 พ.ต.อ.ชุมพล พุ่มพวง ผกก.สน.ทองหล่อ พ.ต.ท.อัครวินต์ สุคนธวิท รองผกก.สส.สน.ทองหล่อ พ.ต.ท.วิรดล ทับทิมดี พนักงานสอบสวน เจ้าของคดี เข้าประชุมความคืบหน้าคดี ใช้เวลาประมาณช.ม.ครึ่ง

จากนั้นพล.ต.ต.อนุชัยเปิดเผยว่า วันนี้เรียกเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องประชุมเพื่อติดตามความคืบหน้าคดีทั้งในส่วนการสอบพยานบุคคล พยานแวดล้อม เพื่อให้สำนวนมีความรอบคอบมากที่สุด คดีคืบหน้าไปมาก ส่วนภาพจากกล้องวงจรปิดในจังหวะที่ผู้ต้องหาขับรถพุ่งชนด.ต.วิเชียรนั้น ขณะนี้ยังตรวจสอบไม่พบ กำลังให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบอยู่ แต่ถึงตรวจสอบไม่พบในจังหวะชนก็ไม่ถือเป็นจุดอ่อนของคดี แม้ผู้ต้องหาอาจจะโต้แย้งว่าไม่มีหลักฐานในจังหวะชน ทางเจ้าหน้าที่มีหลักฐานอย่างอื่นมาทดแทนเพื่อเป็นการยืนยันได้ แต่ไม่สามารถเปิดเผยได้ว่ามีหลักฐานอะไรบ้าง



"จรัมพร"คุมเองพิสูจน์หลักฐาน

พล.ต.ต.อนุชัยกล่าวต่อว่า สำหรับผลตรวจพิสูจน์ทางนิติวิทยาศาสตร์นั้น ขณะนี้ยังไม่แล้วเสร็จ พล.ต.ท.จรัมพร สุระมณี ผู้ช่วยผบ.ตร. กับ ผู้ชำนาญการกำลังตรวจพิสูจน์อยู่ สำหรับนาย สุเวศ หอมอุบล พ่อบ้าน ที่ให้การเท็จกับเจ้าหน้าที่ว่าเป็นคนขับรถในตอนแรกนั้น พนักงานสอบสวนส่งฟ้องศาลแล้ว ส่วนการตั้งคณะกรรมการสอบสวนความผิดพ.ต.ท.ปัณณ์ณภณ นามเมือง สวป.สน.ทองหล่อ ที่นำบุคคลอื่นมารับผิดแทนผู้ต้องหาตัวจริงนั้น ผู้บังคับบัญชาสั่งให้บก.น.5 ดำเนินการ ยืนยันว่าคดีนี้ไม่มีมวยล้มแน่นอน

ด้านพ.ต.อ.ชุมพล ผกก.สน.ทองหล่อ กล่าวว่า ในส่วนของสน.ทองหล่อได้ตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงกรณีพ.ต.ท.ปัณณ์ณภณ ขณะนี้อยู่ระหว่างสอบสวนพยานผู้ที่อยู่ในเหตุการณ์ทั้งหมด ประกอบด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจที่อยู่ในเหตุการณ์บริเวณบ้านนายวรยุทธ พนักงานสอบสวนที่รับมอบตัวนายสุเวศตอนแรก ผลสรุปน่าจะออกมาภายในเร็วๆ นี้ ส่วนที่พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง ผบช.น.ระบุว่า ผลการสอบสวนข้อเท็จจริงอาจมีผลต่อตำแหน่งของตนด้วยนั้น เรื่องนี้คณะกรรมการจะทำไปตามข้อเท็จจริงทั้งหมด ไม่มีใครบิดเบือนข้อเท็จจริงได้

พ.ต.อ.ชุมพลกล่าวต่อว่า ส่วนข้อโต้แย้งของผู้ถูกสอบก็เป็นสิทธิ์ เมื่อคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงสรุปผลออกมาแล้วก็เสนอขึ้นไปผู้บังคับบัญชาตามระเบียบของทางราชการ ผู้บังคับบัญชาจะใช้ดุลพินิจพิจารณาต่อไป ซึ่งมีหลายระดับด้วยกันตั้งแต่ระดับ บก.น. และระดับบช.น. ส่วนที่ ผบช.น. ระบุว่า มีผู้ใหญ่ติดต่อขอให้ช่วยเหลือพ.ต.ท. ปัณณ์ณภณนั้น ในส่วนสน.ทองหล่อ ยังไม่มีใครติดต่อขอให้ช่วยเหลือ ต้องว่ากันไปตามข้อเท็จจริง



ยังไม่มีภาพจังหวะชน-รอผลเลือด

พ.ต.อ.ชุมพลกล่าวว่า เรื่องกล้องวงจรปิดบริเวณจุดเกิดเหตุ เจ้าหน้าที่ตรวจสอบแล้วยังไม่พบภาพจังหวะที่ผู้ต้องหาขับรถพุ่งชนด.ต.วิเชียร เจ้าหน้าที่กำลังตรวจสอบเพิ่มเติมอยู่ แต่เนื่องจากบริเวณดังกล่าวไม่มีกล้องของทางราชการ ทำให้ต้องประสานกับเจ้าของกล้องที่เป็นเอกชนอีกครั้ง แต่ไม่ว่าจะพบหลักฐานเป็นภาพวงจรปิดในจังหวะชนหรือไม่ เชื่อว่าผู้ชำนาญการมีอยู่หลายท่านสามารถคลี่คลายจากพยานหลักฐานอื่นๆ ได้ แม้จะไม่มีกล้องวงจรปิด สำหรับผลการตรวจวัดปริมาณแอลกอฮอล์ในกระแสเลือดของนายวรยุทธผู้ต้องหา ทางพนักงานสอบสวนกำลังเร่งติดตามผล ต้องรอแพทย์ลงความเห็นก่อนส่งผลมาให้พนักงานสอบสวนในรูปแบบของเอกสารราชการ



สน.ทองหล่อปลุกกำลังใจ

พ.ต.ท.อัครวินต์ รองผกก.สน.สน.ทองหล่อ กล่าวว่า คดีนายสุเวศให้การเท็จนั้น หลังสอบปากคำในวันเกิดเหตุได้แจ้งข้อหาแจ้งถ้อยคำอันเป็นเท็จกับเจ้าพนักงาน จากนั้นเจ้าตัวยื่นขอประกันออกไปโดยใช้หลักทรัพย์เป็นเงินสดหลักหมื่นบาท ช่วงเช้าวันนี้ประสานนายสุเวศมาพบกับพนักงานสอบสวนที่ศาลแขวงพระนครใต้ เพื่อส่งฟ้องต่อศาลแล้ว

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตำรวจสน.ทองหล่อนำรูป ภาพและคำพูดของพล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง ผบช.น. ที่พูดบริเวณหน้าบ้านนายเฉลิมในวันเกิดเหตุที่ 3 ก.ย. ว่า "ผมยอมให้ตำรวจตายฟรีไม่ได้ ไม่กลัวทั้งนั้น ไม่ว่าจะใหญ่แค่ไหน" มาติดไว้ที่บอร์ดชั้นล่างของโรงพักด้วย นอกจากนี้ยังมีเพื่อนตำรวจบางนายของด.ต.วิเชียร พูดถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างมีอารมณ์ว่า "ย้ายไปให้หมด พวกบิดเบือนความจริง" หรือ "ย้ายไปหรือยัง มีอย่างที่ไหนไล่ลูกน้องกลับจากบ้านที่เกิดเหตุ อ้างว่าเจ้าของบ้านไม่ชอบให้คนมาอยู่หน้าบ้านเยอะๆ"



พ่อบ้านกลับคำให้การชั้นอัยการ

ต่อมาที่สำนักงานอัยการคดีศาลแขวงพระนครใต้ ถ.เจริญกรุง พนักงานสอบสวนสน.ทองหล่อ นำนายสุเวศ หอมอุบล อายุ 45 ปี พ่อบ้านของตระกูลอยู่วิทยา ผู้ต้องหาคดีแจ้งความเท็จ ที่สมอ้างเป็นคนขับรถเฟอร์รารี่ชนด.ต.วิเชียรจนถึงแก่ความตาย เมื่อเช้าตรู่วันที่ 3 ก.ย. พร้อมสำนวนการสอบสวนมาส่งพนักงานอัยการพิจารณา ทั้งนายสุเวศซึ่งรับสารภาพในชั้นสอบสวน กลับให้การปฏิเสธสู้คดีข้อหาแจ้งความเท็จต่ออัยการ ทำให้อัยการไม่สามารถนำตัวยื่นฟ้องต่อศาลแขวงพระนครใต้ได้ พนักงานสอบสวนจึงต้องนำตัวไปยื่นคำร้องผัดฟ้องฝากขังต่อศาลแทนเป็นเวลา 6 วัน ตั้งแต่วันที่ 5-10 ก.ย.นี้ โดยศาลอนุญาตให้ผัดฟ้องผู้ต้องหาได้ตามคำร้อง และนัดผู้ต้องหามารายงานตัววันที่ 10 ก.ย. เนื่องจากนายสุเวศได้รับการประกันตัวในชั้นพนักงานสอบสวนแล้ว จึงไม่ต้องยื่นคำร้องขอปล่อยชั่วคราวต่อศาล



ชนด.ต.ลอยติดกระจกหน้า

รายงานข่าวจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) เปิดเผยถึงผลการตรวจสอบของสำนักงานพิสูจน์หลักฐาน(สพฐ.) พบว่า จุดรถชนกันบริเวณปากซอยสุขุมวิท 47 มีร่องรอยเลือดกระเซ็นที่สามารถระบุได้ว่า การชนกันเป็นลักษณะแนวตรงตั้งฉาก เครื่องบริเวณด้านหน้ารถยนต์เฟอร์รารี่ของนายวรยุทธ มีรอยบุบเท่ากันกับรอยยุบบริเวณท่อไอเสียของรถจักรยานยนต์ด.ต.วิเชียร ไม่ใช่ลักษณะของการปาดหน้า จากนั้นยังพบร่องรอยที่เข้าไปเบียดเข้ากับบริเวณเกาะกลางถนนสุขุมวิท เพราะพบร่องรอยของรถยนต์และรถจักรยานยนต์คันดังกล่าว และมีสีจากเส้นกันช่องทางจราจรติดมากับกันชนด้านหน้าของรถเฟอร์รารี่ รวมถึงบางส่วนติดที่รถจักรยานยนต์ของผู้ตาย มีลักษณะตรงกัน โดยสพฐ.ใช้วิธีตรวจสอบแบบเอฟทีไออาร์



ลากจยย.ใต้ท้องรถยาว 163 ม.

สำหรับระยะที่ศพผู้เสียชีวิตนอนอยู่นั้น เมื่อตรวจสอบเปรียบเทียบกับจุดที่เริ่มชนพบว่ามีระยะ 64.8 เมตร เพราะพบกองเลือดขนาดใหญ่อยู่บริเวณดังกล่าว หากนำไปตรวจสอบกับระยะความยาวของรถจักรยานยนต์ตั้งแต่จุดที่ชนจนถึงจุดที่กลิ้งหลังจากถูกแรงกระแทกออกไปจากใต้ท้องรถเฟอร์รารี่มีระยะทางประมาณ 163 เมตร โดยหลังจากที่ถูกชนแล้วมีร่องรอยกระแทกเป็นวงกว้าง สันนิษฐานได้ว่าศีรษะอาจจะกระแทกเข้ากับบริเวณหน้ารถยนต์ เพราะพบเครื่องหมายดาบไขว้และเส้นผมติดอยู่บริเวณดังกล่าว

จากหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์ดังกล่าว แสดงว่ารถเฟอร์รารี่ขับชนรถจักรยานยนต์ แล้วร่างของด.ต.วิเชียรกระเด็นขึ้นมาติดอยู่บริเวณกระจกหน้ารถเป็นระยะทาง 64.8 เมตร ก่อนจะร่วงตกลงมาอยู่บนพื้นที่ถนน ขณะที่รถจักรยานยนต์เข้าไปอยู่ใต้ท้องรถเฟอร์รารี่ติดลากยาวเป็นระยะทาง 163 เมตรก่อนจะหลุดออกมา



วิเคราะห์ความเร็วจากวงจรปิด

อย่างไรก็ตามเจ้าหน้าที่จะตรวจสอบความเร็วจากจุดแรกที่พบศพด้วยภาพวงจรปิดต่อไป เบื้องต้นหากพบว่าในวงจรปิดใช้ความเร็วประมาณ 4 วินาที ก็สามารถระบุได้ว่าใช้ความเร็วในการขับประมาณ 60 ก.ม./ช.ม. แต่ถ้าใช้ความเร็วในวงจรปิดไม่ถึง 2 วินาทีก็แสดงว่าความเร็วของรถยนต์คันดังกล่าวจะเท่ากับ 120 ก.ม./ช.ม. ซึ่งขณะนี้เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดที่เพิ่งได้รับมา

รายงานข่าวระบุอีกว่า ผลการตรวจสอบดีเอ็นเอที่พบบริเวณสายรัดเข็มขัดนิรภัยและถุงลมนิรภัยที่แตกออกนั้น มีดีเอ็นเอตรงกันกับดีเอ็นเอของนายวรยุทธ สามารถชี้ชัดได้ว่านายวรยุทธเป็นผู้ขับรถเฟอร์รารี่คันดังกล่าว และผลการตรวจดีเอ็นเอกับคราบเลือดที่ติดอยู่บริเวณหน้ารถเฟอร์รารี่ตรงกันกับผู้ตาย 



ผู้ต้องหาขอตรวจเลือดกับสธ.

นอกจากนี้การตรวจสอบระดับแอลกอฮอล์ ในเลือดของนายวรยุทธ ทางฝ่ายผู้ก่อเหตุขออนุญาตพนักงานสอบสวนส่งไปตรวจสอบที่กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข ซึ่งส่วนใหญ่จะให้ร.พ.รามาธิบดี ตรวจสอบ ส่วนการตรวจสอบระดับแอลกอฮอล์ภายในเลือดของผู้ตายนั้น ทางสถาบันนิติเวชวิทยา ร.พ.ตำรวจ จะเป็นผู้ตรวจสอบ ซึ่งพล.ต.ต.อนุชัย เล็กบำรุง รองผบช.น. ในฐานะหัวหน้าพนักงานสอบสวนคดีดังกล่าว จะเป็นผู้รับมอบผลตรวจสอบด้วยตัวเอง ทั้งนี้ผลการตรวจสอบระดับแอลกอฮอล์ในเลือดของผู้ตายต้องใช้เวลาประมาณ 1 อาทิตย์ จึงจะทราบผลชัดเจน



โฆษกตร.ย้ำคดีตรงไปตรงมา

พล.ต.ต.ปิยะ อุทาโย โฆษกตร. แถลงที่ตร.ว่า ขณะนี้กำลังรอผลตรวจทางนิติวิทยาศาสตร์ ทั้งความเร็วรถ ลักษณะการชน ตรวจเทียบดีเอ็นเอคนขับกับรถ รวมทั้งแอลกอฮอล์ในเลือด เพื่อตรวจว่าเมาสุราขณะขับรถหรือไม่ คดีนี้บช.น. และตร. ยืนยันดำเนินคดีอย่างตรงไปตรงมา ให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย 

โฆษกตร. กล่าวว่า สำหรับการสืบสวนสอบสวนทางวินัย พ.ต.ท.ปัณณ์ณภณ นามเมือง สวป.สน.ทองหล่อนั้น ได้รับรายงานจากพ.ต.อ. ชุมพล พุ่มพวง ผกก.สน.ทองหล่อ ว่าจะสรุปผลภายในวันนี้เสนอพล.ต.ต.อนุชัย เล็กบำรุง รองผบช.น. พิจารณาเสนอต่อพล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง ผบช.น.อีกครั้ง



"บิ๊กแจ๊ด"ลั่นปิดคดีไม่เกินก.ย.

ขณะที่พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง ผบช.น. ให้สัมภาษณ์ที่บช.น.ว่า กรณีของพ.ต.ท.ปัณณ์ณภณ สวป.สน.ทองหล่อ กำลังรอผลการสอบสวนข้อเท็จจริง ซึ่งผกก.สน.ทองหล่อ จะสรุปส่งมาให้วันที่ 6 ก.ย. สำหรับความคืบหน้าทางคดีไม่มีปัญหาอะไร พล.ต.ต.อนุชัย รองผบช.น. กำลังดำเนินการ

ผู้สื่อข่าวถามว่ามีกระแสวิพากษ์วิจารณ์ว่าอาจมีการบิดเบือนข้อหาให้อ่อนลงในลักษณะไม่เจตนากระทำผิด ผบช.น.กล่าวว่า เรื่องนี้มันเป็นอุบัติเหตุอยู่แล้วในชั้นต้น โดยแจ้งข้อหาขับรถประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นเสียชีวิต และหลบหนี ส่วนข้อหาอื่นๆยังไม่ได้รับรายงานขึ้นมา แต่ยืนยันว่าคดีนี้จะเร่งสรุปให้เสร็จภายในสิ้นเดือนนี้ เพราะคดีไม่ได้สลับซับซ้อน รอผลการตรวจพิสูจน์บางอย่างมาประกอบเท่านั้น ยืนยันว่าไม่มีใครมาบิดเบือน คดีทำอย่างตรงไปตรงมา เรื่องนี้ไม่มีปัญหาทางญาติผู้ต้องหา บิดาผู้ต้องหาก็ให้ความร่วมมืออย่างดี เรื่องความช่วยเหลือก็จะช่วยเต็มที่ ยืนยันได้ว่าไม่มีปัญหาแต่อย่างใด เรื่องนี้เดี๋ยวก็จบอาจจะเสร็จไม่เกินวันที่ 20 ก.ย.นี้ด้วยซ้ำไป



ทนายยันลูกความไม่ได้ดื่มเหล้า

ด้านนายสมัคร เชาวภานันท์ ส.ว.สรรหา ในฐานะทนายความประจำตระกูลอยู่วิทยา เปิดเผยว่า พูดคุยกับนายวรยุทธ ทราบว่าไม่ได้ดื่มเหล้า หรือมีแอลกอฮอล์ในร่างกายระหว่างขับขี่ เนื่อง จากขณะขับขี่ยังนุ่งกางเกงขาสั้นอยู่ ซึ่งนาย วรยุทธก็เสียใจต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เพราะทุกคนคงไม่อยากให้เกิดเหตุการณ์ดังกล่าว แต่เป็นอุบัติเหตุที่ไม่คาดคิด และไม่ได้หลบหนี

"เมื่อเกิดอุบัติเหตุชน เด็กคงเกิดอาการตก ใจและไม่รู้จะทำอย่างไร เมื่อชนเสร็จก็ขับ รถกลับบ้าน เพราะบ้านอยู่ละแวกนั้น จนถึง วันนี้เด็กยังอยู่ในอาการตกใจ เครียด และเสีย ใจกับเหตุการณ์ แต่ยืนยันได้ว่าเด็กไม่ได้ดื่มแอลกอฮอล์แน่ ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจก็ยืน ยัน เพราะเวลาระหว่างเกิดเหตุจนถึงขับรถ เข้าบ้านใช้เวลาแค่ 30 นาที คงต้องติดตาม ผลการพิสูจน์จากทางแพทย์เพื่อยืนยันได้" นายสมัครกล่าว

ผู้สื่อข่าวถามว่าในฐานะทนายวางแนวทางการต่อสู้คดีอย่างไร นายสมัครกล่าวว่า เรื่องนี้ยังไม่ยุติ ยังไม่รู้แนวทาง อีกทั้งพนักงานสอบสวนยังสอบผู้กล่าวหาไม่เสร็จ นายวรยุทธก็ยังไม่พร้อมให้การเพราะยังอยู่ในอาการตกใจและเครียด แต่ส่วนหนึ่งก็ให้การไปแล้ว ส่วนที่ตำรวจจะขอสอบปากคำเพิ่มเติมนั้น อยู่ที่ฝ่ายเรา เพราะขณะนี้นายวรยุทธยังมีจิตใจไม่ปกติ 



ชนกลับเข้าบ้านแล้วถึงดื่ม

"คงไม่มีใครอยากให้เกิดเหตุ หรือเกิดปัญหาเช่นนี้ อีกทั้งเด็กมีอายุเพียง 27 ปี เมื่อเจออุบัติเหตุก็ย่อมตกใจ และเหตุก็เกิดใกล้บ้าน เมื่อมาถึงบ้านก็ยังไม่ปรึกษาผู้ใหญ่ ก็อาจไปดื่มภายหลัง อย่าไปคาดการณ์กันเอาเอง ซึ่งเราต้องเข้าใจในความเป็นเด็กด้วย" ทนายความตระกูลอยู่วิทยากล่าวและว่า ยืนยันนายวรยุทธไม่ได้คิดหลบหนี หรือให้ใครรับเป็นผู้ต้องหาให้ ทั้งตัวนายเฉลิม บิดาก็ยังได้ออกมาขอโทษ 

นายสมัครกล่าวด้วยว่า นายวิทยา ผู้เป็นพ่อยินดีดูแล ชดใช้ทุกอย่าง ไม่ว่าผลทางคดีจะแพ้หรือชนะ และได้เสนอตัวไปแล้ว พร้อมดูแลและรับผิดชอบค่างานศพทั้งหมด นายวิทยาก็เดินทางไปเป็นประธานและร่วมงานศพทุกวัน ยินดีชดใช้ค่าจักรยานยนต์ โดยเสนอตัวยอมชดใช้หมดทุกอย่าง แต่ขณะนี้ยังไม่ได้เจรจากัน เพราะทุกฝ่ายยังอยู่ในอาการเศร้าโศก



"บอส"ไปงานศพวันแรก

วันเดียวกันน.ส.นงนุช แสงประพาฬ อายุ 31 ปี อดีตภรรยาด.ต.วิเชียร ผู้เสียชีวิต กล่าวว่า เรื่องค่าชดเชยที่นายเฉลิม บิดาผู้ต้องหาประกาศจะรับผิดชอบนั้น ได้พูดคุยกันว่าให้เสร็จงานศพก่อนจึงค่อยพูดคุยหารือกัน เรื่องนี้จะเป็นธุระหน้าที่ของพี่ชายด.ต.วิเชียรรับผิดชอบ ตนจะไม่เข้าไปยุ่งเกี่ยว เพราะไม่มีส่วนเกี่ยวข้องทางกฎหมาย เนื่องจากไม่ได้จดทะเบียนสมรสกับด.ต.วิเชียร

เวลา 15.00 น. ที่ศาลา 10 วัดธาตุทอง นางดารณี อยู่วิทยา ไฮโซชื่อดัง ภรรยานายเฉลิม พานายวรยุทธ บุตรชาย ที่อยู่ในชุดสูทสีดำ สวมแว่นตาดำ มาร่วมงานศพด.ต.วิเชียร เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เกิดเรื่องขึ้น โดยนายวรยุทธมีสีหน้าเศร้าโศก เดินไปจุดธูปไหว้ศพ ก่อนลุกขึ้นนำพวงมาลัยไปคล้องไว้อาลัยที่รูปถ่ายด.ต.วิเชียร แล้วมานั่งรอฟังสวดพระอภิธรรม โดยไม่ให้สัมภาษณ์ใดๆ มีนางดารณี มารดา ตามประกบดูแลอย่างใกล้ชิดตลอดเวลา



พบแอลกอฮอล์เกินกำหนด

ต่อมาเวลา 19.00 น. พ.ต.อ.ชุมพล ผกก.สน.ทองหล่อ พร้อมด้วยตำรวจสน.ทองหล่อ ร่วมเป็นเจ้าภาพพิธีสวดพระอภิธรรมศพ โดยมีผู้ร่วมงานประมาณ 100 คน นายพรอานันท์ กลั่นประเสริฐ พี่ชายด.ต.วิเชียร เปิดเผยว่า เมื่อช่วงบ่ายครอบครัวอยู่วิทยา พานายวรยุทธมาขอขมาและเคารพศพ แต่ยังไม่มีการพูดคุยถึงเรื่องค่าสินไหมทดแทนแต่อย่างใด คาดว่าจะหลังจากเสร็จพิธีศพ เรื่องที่เกิดขึ้นครอบครัวไม่ติดใจอะไร เนื่องจากหลังเกิดเหตุครอบครัวคู่กรณีคอยดูช่วยงานศพตลอดเวลา และถือว่าเป็นเรื่องของอุบัติเหตุ ทุกคนพร้อมอโหสิกรรมให้นายวรยุทธ

รายงานข่าวจากสน.ทองหล่อแจ้งว่า ผลการตรวจประมาณแอลกอฮอล์ของนายวรยุทธ ผล ออกมาว่ามีประมาณ 64 เกือบ 65 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์ สูงกว่าที่กฎหมายกำหนดไว้ที่ไม่เกิน 60 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์ คาดว่าจะเพิ่มข้อหาเมาแล้วขับต่อนายวรยุทธ ส่วนพ.ต.ท.ปัณณ์ณภณ สวป.สน.ทองหล่อ ที่ถูกสั่งให้ไปช่วยราชการที่บช.น. อาจถูกลงโทษให้ออกจากราชการไว้ก่อน

รายงานข่าวเปิดเผยด้วยว่า อย่างไรก็ตามจากการประมวลพยานหลักฐานต่างๆ โดยเฉพาะบันทึกการเข้าออกบ้านพักที่ระบุว่าขับรถเฟอร์รารี่ออกจากบ้านตอนเวลา 05.00 น.ก่อนเกิดเหตุนั้น ทำให้เชื่อว่านายวรยุทธจะดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ตอนกลับเข้ามาบ้านหลังจากก่อเหตุขับรถชนด.ต.วิเชียรเสียชีวิตแล้ว



"จรัมพร"เผยรายละเอียดชน

ทางด้านพล.ต.ท.จรัมพร สุระมณี ผู้ช่วยผบ.ตร. ให้สัมภาษณ์ว่า ระยะทางตั้งแต่จุดชนแรก จนถึงจุดที่ร่างของด.ต.วิเชียรอยู่บนพื้นถนน ปรากฏกองคราบโลหิต เป็นระยะทางประมาณ 64 เมตร ทิศทางจากปากซอยสุขุมวิท 47 ไปทางซอยสุขุมวิท 49 โดยจุดแรกที่ชนพบรอยการกระเซ็นของเลือดบนพื้นถนน รอยครูดบนพื้นถนน ห่างจากจุดแรก 12.5 เมตร จำนวน 2 รอย ซึ่งรอยครูดบนเส้นขอบทางสีเหลืองห่างจุดสอง 7 เมตร รอยครูดที่ขอบคอนกรีตเกาะกลางถนนห่างจุดสาม 12 เมตร โดยมีรอยครูดบนพื้นถนนห่างจุดสี่ 1 เมตร รอยครูดบนพื้นถนนห่างจุดห้า 6.4 เมตร และกองคราบโลหิตจำนวนมากบนพื้นถนนห่างจุดหก 24.7 เมตร รวมระยะจุดชนแรก ถึงจุดที่ด.ต.วิเชียรนอนบนพื้นถนน 64.6 เมตร ไม่มีร่องรอยการถูกลากต่อไปแต่อย่างใด ทั้งนี้จุดที่พบรถจักรยานยนต์ล้ม อยู่บริเวณใกล้ปากซอยสุขุมวิท 49 ห่างจากจุดชนแรกเป็นระยะทางประมาณ 163.6 เมตร ไม่ปรากฏรอยเลือดของผู้เสียชีวิตบนผิวถนนในบริเวณที่รถล้มอยู่แต่อย่างใด

พล.ต.ท.จรัมพร กล่าวอีกว่า การพิสูจน์ตัวผู้ขับขี่นั้น เจ้าหน้าที่ได้ตรวจสถานที่เกิดเหตุที่พบรถจอดอยู่ในบ้าน ตรวจเก็บลายนิ้วมือแฝงและสารพันธุกรรม(ดีเอ็นเอ)ที่ตัวรถทั้งภายนอกและในตัวรถ จุดที่เน้น คือ ถุงลมนิรภัย ทั้ง 2 ด้าน ได้ตัดออกไปตรวจพิสูจน์ดีเอ็นเอ เข็มขัดนิรภัย พบมีรอยช้ำของสายเข็มขัดตรงกับรอยบาดเจ็บที่บริเวณไหล่ช่วงไหปลาร้าของผู้ขับขี่ เมื่อตรวจดีเอ็นเอแล้ว พบว่าที่ถุงลมนิรภัยและเข็มขัดนิรภัยด้านคนขับตรงกับดีเอ็นเอของนายวรยุทธ แต่ไม่ตรงกับดีเอ็นเอของนายสุเวศที่มอบตัวในตอนแรก ซึ่งเจ้าตัวออกมารับสารภาพแล้ว โดยที่กล่าวมาถือเป็นพยานแวดล้อมเท่านั้น

พล.ต.ท.จรัมพร กล่าวด้วยว่า สำหรับข้อมูลเกี่ยวกับผู้เสียชีวิต มีรอยถลอกเด่นชัดบริเวณใบหน้าและมือ ไม่พบรอยเลือด หรือเนื้อเยื่อใต้ท้องรถยนต์ที่ผู้ต้องหาขับขี่ ไม่ปรากฏรอยเลือดที่เกิดจากการไถลบนพื้นถนน จากจุดที่คราบโลหิตกองใหญ่ ซึ่งด.ต.วิเชียรตกจากรถไปจนถึงจุดที่รถจักรยานยนต์ล้มอยู่ ได้ตรวจทางห้องปฏิบัติการ โดยนำวัตถุพยานจากที่เกิดเหตุเข้าไปตรวจสอบในห้องปฏิบัติการหลายอย่าง ผลการตรวจสอบที่สำคัญพบว่า ลักษณะของสีเหลืองจากเส้นขอบทางผิวถนนที่ถูกครูด ตรงกับสีเหลืองที่ติดอยู่บนท่อไอเสียรถจักรยานยนต์ และกันชนรถยนต์



มีวิธีคำนวณความเร็วรถ

"ลักษณะสีที่หลุดลอกจากแผ่นป้ายทะเบียนโล่ของรถจักรยานยนต์ตรงกับสีที่ติดอยู่บนฝากระโปรงรถยนต์ รอยกันชนรถยนต์เฟอร์รารี่เป็นรูปวงกลม เศษดินบริเวณพรมวางเท้า ตรงกับเศษดินจากรองเท้ายี่ห้อพราด้าของนายวรยุทธ คาดว่าอาจจะใส่ในวันเกิดเหตุ ทำให้ทราบได้ว่าได้เคยนำรถยนต์คันดังกล่าวมาขับเป็นประจำ อย่างไรก็ตามความเร็วของรถข้อมูลจากกล้องวงจรปิดจะสามารถนำมาคำนวณความเร็วได้จากระยะทาง และเวลา ที่รถแล่นผ่านจุดอ้างอิง หากไม่มีกล้องวงจรปิดที่มีข้อมูลเพียงพอจะใช้วิธีการคำนวณโดยวิธีอื่น เช่น คำนวณจากจุดที่ชนจนถึงจุดที่ร่างของด.ต.วิเชียรตกลงบนพื้นปรากฏรอยเลือด ซึ่งมีความสัมพันธ์ระหว่าง ความเร็ว-ระยะทาง-ระยะเวลา ที่ร่างของ ด.ต.วิเชียรค้างอยู่บนฝากระโปรงรถยนต์" ผู้ช่วยผบ.ตร. กล่าว

จากการประมวลวิเคราะห์พยานหลักฐานแล้วค่อนข้างแน่ชัดว่าไม่เข้าข่ายความผิดฐานพยายามฆ่า

ด้านพล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง ผบช.น. กล่าวถึงการพิจารณาโทษสวป.สน.ทองหล่อว่า ขณะนี้คณะกรรมการสอบสวนความผิดทางวินัยสรุปผลในเบื้องต้นแล้ว จะรายงานตนในวันพรุ่งนี้ แล้วจะแถลงข่าวต่อไป



ได้ภาพวงจรปิดแล้ว 5 จุด

รายงานข่าวจากบช.น.แจ้งว่า พล.ต.ต.อนุชัย เล็กบำรุง รองผบช.น. หัวหน้าพนักงานสอบสวน สั่งการเร่งรัดร.พ.สมิติเวชที่นำผลเลือดนาย วรยุทธไปตรวจสอบกับกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ คาดว่า 2-3 วันนี้น่าจะทราบผลได้อย่างแน่นอน และประสานบริษัทเฟอร์รารี่ประเทศ ไทย ขอชิ้นส่วนของกล่องดำบันทึกการเคลื่อนที่ภายในรถมาให้กองพิสูจน์หลักฐานกลางตรวจสอบต่อไป

รายงานข่าวแจ้งอีกว่า การตรวจสอบภาพกล้องวงจรปิด ขณะนี้พบมีวงจรปิดทั้งหมด 5 จุด ได้แก่ 1.บริเวณโชว์รูมเบนซ์ ช่วงเวลาประมาณ 05:13:13 2.บริเวณธนาคารธนชาต สาขาทองหล่อ ช่วงเวลาประมาณ 05:13:30 3.บริเวณร้านกิฟฟารีน ช่วงเวลาประมาณ 05:13:40 4.ร้าน บุกส์ 53 ช่วงเวลาประมาณ 05:15:00 และ 5.บ้านเรือนประชาชนแห่งหนึ่ง ช่วงเวลาประมาณ 05:15:34 เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตรวจสอบเพียงกล้องตัวแรกก่อนที่จะชนพบว่า รถจักรยานยนต์ของ ด.ต.วิเชียรอยู่ถนนเลนซ้ายสุด มีรถจักรยานยนต์ 1 คัน และรถยนต์ 1 คัน ขับตามมา จนกระทั่งมีรถปิกอัพขับตามมา ก่อนจะเห็นรถเฟอร์รารี่ขับผ่านมาอยู่ในเลนขวาสุด อย่างไรก็ตามเจ้าหน้าที่ยังไม่ได้ตรวจสอบกล้องวงจรปิดจุดอื่นๆ
6 ก.ย. 55 เวลา 10:20 3,043 10
แชร์สกู๊ป
กรุณา Login เพื่อแสดงความคิดเห็น
ส่ง Scoop ให้เพื่อน
แจ้งลบไม่เหมาะสม
ความคิดเห็น

เรื่องอื่นๆ ที่น่าสนใจ

Loading...