วันนี้ ( 27 ส.ค. ) สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงเบรุต ประเทศเลบานอนว่า รายงานของกลุ่มนักเคลื่อนไหวด้านสิทธิมนุษยชน ระบุว่า พบผู้เสียชีวิตเพิ่มอีก 14 ศพ ในเหตุสังหารหมู่พลเรือนครั้งล่าสุดที่เมืองดารายา ใกล้กับกรุงดามัสกัส ของซีเรีย เมื่อวันอาทิตย์ ส่งผลให้ยอดผู้เสียชีวิตพุ่งทะลุ 320 ศพแล้ว

กลุ่มผู้สังเกตการณ์ด้านสิทธิมนุษยชนในซีเรีย ณ กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ รายงานในวันนี้ว่า กลุ่มกบฏเป็นฝ่ายอ้างว่า กองกำลังของประธานาธิบดีบาชาร์ อัล-อัสซาด คือผู้อยู่เบื้องหลังการสังหารหมู่ประชาชนในเมืองดารายา ทางตะวันตกเฉียงใต้ของกรุงดามัสกัส โดยในจำนวนผู้เสียชีวิตทั้งหมด เจ้าหน้าที่สามารถระบุเอกลักษณ์ได้แล้ว 220 ศพ มีผู้หญิงและเด็กรวมอยู่ด้วยเป็นจำนวนมาก

ทั้งนี้ มีรายงานยอดผู้เสียชีวิตทั่วประเทศอีกอย่างน้อย 149 ศพ จากการสู้รบเมื่อวันอาทิตย์ที่ 26 ส.ค. เพียงวันเดียว แบ่งเป็นพลเรือน 105 ศพ นักรบกบฏ 26 ศพ และทหารรัฐบาลอีก 18 ศพ โดยในวันเดียวกันนี้ กองกำลังรัฐบาลที่มีฐานที่มั่นอยู่ในเขตบาซรา อัล-ชัม เมืองดารายา สังหารประชาชนไปมากถึง 17 ศพ  นอกจากนี้ ทหารรัฐบาลในเขตคาฟร์ บัตนา ของกรุงดามัสกัส สังหารหมู่ประชาชนถึง 8 ศพในวันนี้ เป็นชาย 3 ศพ หญิง 3 ศพ และเด็ก 2 ศพ

ด้านประธานาธิบดีบาชาร์ อัล-อัสซาด แห่งซีเรีย กล่าวปฏิเสธเป็นผู้บงการสังหารหมู่ดังกล่าว พร้อมทั้งยืนยันว่า จะดำเนินการปราบปรามบุคคล หรือกองกำลังใดๆ ที่มีเจตนาต่อต้านรัฐบาลซีเรียอย่างถึงที่สุด

วิกฤตความไม่สงบในซีเรีย ที่ยืดเยื้อจนกลายเป็นสงครามกลางเมืองนั้น เกิดขึ้นตั้งแต่เมื่อเดือน มี.ค. ปีที่แล้ว ซึ่งกลุ่มผู้สังเกตการณ์ด้านสิทธิมนุษยชนในซีเรียรายงานว่า ยอดผู้เสียชีวิตทั่วประเทศพุ่งขึ้นกว่า 25,000 ศพแล้ว ขณะที่รายงานของสหประชาชาติ ( ยูเอ็น ) ระบุไว้ที่กว่า 17,000 ศพ