ไทยแรง! คว้าที่ 3 ประเทศสร้างงานด้านโรงแรมมากที่สุดในโลก

 

การสร้างงานในอุตสาหกรรมโรงแรมในเมืองไทยยังคงแรงในอันดับต้นๆของโลก



ทริปแอดไวเซอร์ เผยผลสำรวจ ประเทศไทยติดอันดับ 3 ประเทศที่สร้างอาชีพในอุตสาหกรรมโรงแรมมากที่สุดในโลก
โดยอันดับ 1 ได้แก่ อินเดีย ตามมาด้วยบราซิล และไทย

ทริปแอดไวเซอร์ เว็บไซต์ท่องเที่ยวชื่อดัง เผยผลสำรวจล่าสุดจากทริปแอดไวเซอร์ อินดัสตรี้ อินเด็กซ์ (TripAdvisor Industry IndexTM)
ซึ่งเป็นการสำรวจด้านโรงแรมที่ใหญ่ที่สุดในโลก โดยการสำรวจนี้ได้รับคำตอบมากกว่า 25,000 คำตอบจากผู้ประกอบการโรงแรมทั่วโลก
และกว่า 500 คำตอบจากประเทศไทยเพียงแห่งเดียว

การสำรวจนี้ได้เผยผลสำรวจที่น่าสนใจเกี่ยวกับกระแสอุตสาหกรรมท่องเที่ยวที่กำลังมาแรงในปัจจุบัน
จากผลสำรวจหลักๆ พบว่า ประเทศไทยติดอันดับ 3 ในฐานะประเทศที่สร้างอาชีพในสายงานโรงแรมมากที่สุดของโลก
ขณะที่อินเดียคว้าอันดับ 1 ตามมาด้วยบราซิลอันดับ 2 ส่วนประเทศในกลุ่มอาเซียนอย่างอินโดนีเซียก็มาแรงคว้าอันดับ ที่ 4


สำหรับประเทศที่สร้างอาชีพในอุตสาหกรรมโรงแรมมากที่สุดในโลก 5 อันดับแรกจากการสำรวจครั้งนี้ ได้แก่
1. อินเดีย 39 % 2. บราซิล 34 % 3. ไทย 31 % 4. อินโดนีเซีย 30 % 5. ตุรกี 29 %

ส่วนการสำรวจเกี่ยวกับโรงแรมในด้านอื่นๆ จากทริปแอดไวเซอร์ อินดัสตรี้ อินเด็กซ์ ได้แก่
ประเทศที่มีแนวโน้มธุรกิจโรงแรมที่เติบโตเร็ว 5 อันดับแรก
1. อินโดนีเซีย 2. บราซิล 3. รัสเซีย 4. สหรัฐอเมริกา 5. อินเดีย

ประเทศที่มีแนวโน้มธุรกิจโรงแรมที่ขยายตัวช้า 5 อันดับแรก
1. นิวซีแลนด์ 2. ฝรั่งเศส 3. สเปน 4. อิตาลี 5. กรีซ

ประเทศที่มีราคาห้องพักต่ำในช่วงฤดูใบไม้ร่วง 5 อันดับแรก
1. กรีซ - 58% 2. สเปน - 43% 3. อิตาลี - 37% 4. ออสเตรเลีย - 32% 5. นิวซีแลนด์ - 29%

ประเทศที่มีราคาห้องพักสูงในช่วงฤดูใบไม้ร่วง 5 อันดับแรก
1. สหรัฐอเมริกา - 47% 2. บราซิล - 42% 3. รัสเซีย - 42% 4. อินโดนีเซีย - 37% 5. ตุรกี - 35%  

ส่วนลดห้องพักถือเป็นสิ่งดึงดุดอันดับ 1 สำหรับผู้เข้าใช้บริการโรงแรมในไทย



นอกจากนี้ทริปแอดไวเซอร์ อินดัสตรี้ อินเด็กซ์ ยังได้เผยผลสำรวจเกี่ยวกับด้านโรงแรมอื่นๆ ได้แก่
- แนวโน้มธุรกิจโรงแรมในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกเพิ่มสูงขึ้นเล็กน้อย โดยมีผู้ประกอบการโรงแรมในภูมิภาคฯ
ร้อยละ 50 คาดว่าเศรษฐกิจจะฟื้นตัวขึ้น เพิ่มขึ้นจากร้อยละ 48 จากผลการสำรวจครั้งก่อนในเดือนธันวาคม 2554

-โรงแรมใหญ่กว่าทำกำไรได้ดีกว่า โดยในช่วง 6 เดือนที่ผ่านมา ร้อยละ 29 ของโรงแรมในประเทศไทย
รายงานว่าสามารถทำกำไรได้ดีหรือดีมาก นอกจากนี้ ร้อยละ 37 ของโรงแรมที่มีขนาดใหญ่ (มากกว่า 50 ห้องพัก)
ชี้ว่าธุรกิจโรงแรมทำกำไรได้ดีหรือดีมากกว่า เมื่อเทียบกับร้อยละ 24 ของโรงแรมขนาดเล็ก (ตั้งแต่ 50 ห้องพักลงไป)

- สิทธิพิเศษยอดนิยมและส่วนลดพิเศษ ซึ่งโรงแรมในประเทศไทยเอาชนะใจแขกผู้เข้าพักได้อย่างไร มีดังนี้
1. ส่วนลดห้องพัก – 64%
2. บริการสิ่งอำนวยความสะดวกพิเศษ (เช่น ฟรี WiFi) – 49%
3. เข้าพักฟรีพร้อมบริการสำรองห้องพัก – 28%
4. บริการที่จอดรถฟรี – 19%
5. บริการรถรับ-ส่งในบริเวณใกล้เคียงฟรี – 17%

พร้อมกันนี้ยังสำรวจพบว่า มีโรงแรมในประเทศไทยจำนวนร้อยละ 5 ที่ไม่ให้บริการสิทธิพิเศษใดๆ เลย

ด้านการจัดอันดับด้านสื่อออนไลน์พบว่า ประเทศไทยอยู่ในอันดับต้นๆ ของโลก
โดยประเทศไทย (ร้อยละ 80) ได้อันดับ 6 ของโลกในฐานะประเทศที่ใช้สื่อออนไลน์ในการดึงดูดนักเดินทาง
ตามหลังประเทศมาเลเซีย (ร้อยละ 89) และอินโดนีเซีย (ร้อยละ 84) แต่ชนะประเทศอื่นๆ ในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก
เช่น ประเทศญี่ปุ่น (ร้อยละ 62) ออสเตรเลีย (ร้อยละ 55) และนิวซีแลนด์ (ร้อยละ 46)

ขณะที่โปรแกรมที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม: ดีต่องบประมาณโรงแรมและสิ่งแวดล้อม ผู้ประกอบการโรงแรมในประเทศไทย (ร้อยละ 75)
ติดอันดับที่ 13 ของโลกในด้านการปฏิบัติการที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ชนะประเทศในภูมิภาคเดียวกันอย่าง ประเทศญี่ปุ่น (ร้อยละ 69)
แต่ยังตามหลังประเทศนิวซีแลนด์ (ร้อยละ 93) ออสเตรเลีย (ร้อยละ 80) อินเดีย (ร้อยละ 80) และมาเลเซีย (ร้อยละ 76)

โดยโปรแกรมรักษาสิ่งแวดล้อมที่ใช้กันทั่วไปคือ การใช้หลอดประหยัดไฟ (ร้อยละ 66) การนำผ้าเช็ดตัว/ผ้าปูที่นอน
กลับมาใช้ใหม่ (ร้อยละ 65) และโปรแกรมประหยัดพลังงาน (ร้อยละ 61)


และเมื่อถามถึงเหตุผลของการจัดโปรแกรมรักษาสิ่งแวดล้อม ผู้ร่วมตอบแบบสำรวจให้เหตุผลหลักว่า
เพื่อลดค่าใช้จ่าย (ร้อยละ 69) และเพื่อวัตถุประสงค์ทางการตลาด (ร้อยละ 40)

8 ส.ค. 55 เวลา 14:46 1,354 20
แชร์สกู๊ป
กรุณา Login เพื่อแสดงความคิดเห็น
ส่ง Scoop ให้เพื่อน
แจ้งลบไม่เหมาะสม
ความคิดเห็น

เรื่องอื่นๆ ที่น่าสนใจ

Loading...