เร่งสร้างนวัตกรรมพื้นบ้านรับมือน้ำท่วม เผยโฉม จยย.สะเทิ้นน้ำสะเทิ้นบก ต้นแบบราคา 1 แสน

วันที่ 23 กรกฎาคม ที่ริมแม่น้ำเจ้าพระยา ใต้สะพานของถนนสาเลี่ยงเมืองอยุธยา ตำบลบ้านรุน อำเภอพระนครศรีอยุธยา จังหวัดพระนครศรีอยุธยา นายวิชัย บุญถนัด อายุ 51 ปี นักธุรกิจเจ้าของโรงแรมในท้องถิ่น บ้านเดิมเลขที่ 9/1 ม.8 ตำบลบ้านป้อม อำเภอพระนครศรีอยุธยา จังหวัดพระนครศรีอยุธยา และ นายเสริม เอี่ยมวิจารณ์ อายุ 45 ปี ช่างประกอบรถจักรยานยนต์สามล้อรับจ้างจากตลาดบ้านแพน อำเภอเสนา ได้นำรถจักรยานยนต์สามล้อสะเทิ้นน้ำสะเทิ้นบก ชื่อ “ พี่เทิ้น-1 ” มาทดสอบวิ่งลงแม่น้ำเป็นครั้งแรกหลังจากร่วมกันพร้อมกับทีมช่างซุ่มคิดประดิษฐ์รถดังกล่าวมานาน 2 เดือน และหมดเงินไป 130,000 บาท


สำหรับรถดังกล่าวเป็นรถจักรยานยนต์สามล้อแบบรถจักรยานยนต์รับจ้างสามล้อที่พบได้ตามตลาดสด เช่นตลาดสดบ้านแพน อำเภอเสนา หรือในแถวภาคอีสาน แต่คันที่เห็นต่อใหม่ทั้งหมด ใช้เครื่องยนต์ขนาด 110 ซีซี มีสามล้อ ที่แปลกไปกว่ารถจักรยานยนต์สามล้อทั่วไปคือ ล้อหน้าที่โชคที่ยาวมากเพื่อเพิ่มความสูงของหน้ารถ และตรงตัวรถมีการต่อทุ่นด้วยเหล็กเป็นกล่องคล้ายท้องเรือ เพื่อเป็นทุ่นในการรับน้ำหนักของรถเมื่อลงน้ำไม่ให้จมและทำหน้าที่คล้ายเรือ ด้านบนที่นั่งโดยสานตามปกติ ด้านหลังติดเครื่องยนต์สำหรับใช้กับเรือ เป็นเครื่องเกาะท้ายขนาด 6 แรงม้า ที่มีไฮโคลิก สามารถยกหางใบพัดลงจุ่มน้ำเมื่อยามลงน้ำ และยกใบหางใบพัดขึ้นเมื่อวิ่งบนถนน พร้อมมีสายจังคับหางเสือมาที่หน้าหน้ารถ เพื่อสะดวกการควบคุมทิศทางรถคันนี้เมื่อวิ่งบนบกและในน้ำ รถดังกล่าวมีน้ำหนักรวมทั้งหมด 600 กิโลกรัม และสามารถบรรทุกคนรวมคนขับ หากวิ่งในน้ำได้มากถึง 3-5 คนแบบสบาย และสามารถทำความเร็วบนถนนได้ 40-50 กม./ชม. และทำความเร็วในน้ำได้เหนือเรือขนาดเท่ากัน

นายเสริม เอี่ยมวิจารณ์ กล่าวว่า นายวิชัย บุญถนัด เป็นคนคิดและออกแบบพร้อมออกทุนและช่วยตนเองสร้างทุกขั้นตอน โดนผลการลงน้ำครั้งแรก พบว่าพึงพอใจมาก เพราะสามารถวิ่งจากถนนลงน้ำได้ทันที และขึ้นจากน้ำได้ทันที ความเร็วถนนก็ทำได้ดีและปลอดภัย การทำความเร็วในน้ำและการบังคับในน้ำทำได้ดี ทรงตัวได้ดีมาก ไม่โครง โดยรวมถือว่าผ่านแล้ว และคงต้องปรับปรุงอีกบ้านเพื่อความสมบูรณ์ที่สุด และปรับปรุงในด้านรูปลักษณ์ที่สวยงามมากยิ่งขึ้น อีกทั้งต้องพยายามลดต้นทุนให้ต่ำลงกว่านี้ เพราะเรามีโครงการจะต่อรถแบบนี้เพิ่ม

 

นายวิชัย บุญถนัด กล่าวว่า ตนเองทำธุรกิจโรงแรมท้องถิ่น 2 แห่ง เมื่อน้ำท่วมปี 2554 น้ำท่วมหมดและท่วมถนนด้วย โดยเฉพาะโรงแรมที่อำเภอวังน้อย ที่ปกติตนเองต้องใช้ถนนโรจนะเพื่อวิ่งเข้าในตัวเมือง แต่พอน้ำท่วมถนนโรจนะสูง 1-2 เมตร นาน 30 วัน ทำให้ตนเองลำบากมาก ไม่สามารถเดินทางไปไหนมาไหนได้ และช่วงนั้นก็ไปซื้อเรือและเครื่องมา พบว่าเรือมีราคาแพงมากและเป็นเรือพลาสติกและเรือไฟเบอร์ราคาเกือบ 10,000 บาท ซึ่งบอกบางและไม่ทนทานและพายก็ไม่สะดวก ติดเครื่องเข้าไปก็หมดเงินไปหลายหมื่นบาท สรุปทั้งเรือและเครื่องแพงแบบก้าวกระโดนในช่วงน้ำท่วม เรียกว่ามีการโก่งราคาให้คนเอง คิดตลอดเวลาว่าอาจจะต้องคิดหายานพาหนะที่จะต้องวิ่งบนบกและน้ำได้พร้อมกัน และสะดวก เป็นแบบรถสะเทิ้นน้ำสะเทิ้นบก ที่สำคัญราคาต้องประหยัด ประชาชนต้องมีสิทธิ์และมีความสามารถในกำลังเงินที่จะเป็นเจ้าของรถแบบนี้ได้ ตนเองจึงช่วยกันคิดและลงทุน เพราะเชื่อว่าน้ำจะท่วมอีก

 

นายวิชัยกล่าวว่า ตนเองจะต้องจดสิทธิบัตรก่อนเพื่อป้องกันนายทุนแอบไปจด และไม่ปล่อยให้ประชาชนได้ทำเอง สำหรับตนเองถึงแม้จะจดสิทธิบัตร แต่ก็จะไม่หวงวิชาความรู้และจะเผยแพร่ให้ประชาชนได้มีสิทธิ์ได้ครอบครอง โดยตนเองตอนนี้จะเร่งพัฒนาชิ้นงานและลดต้นทุน ตั้งใจว่ารถที่สมบูรณ์หากสร้างมากๆ ราคาควรไม่เกิน 70,000-80,000 บาท/คัน เพื่อให้ประชาชนสามารถมีกำลังเป็นเจ้าของได้ อย่างไรก็ตาม สำหรับชื่อไม่มีอะไรมาก เพราะคำว่า "พี่"ก็มาจากการให้เกียรติรถคันนี้ "เทิ้น"ย่อมาจากสะเทิ้นน้ำสะเทิ้นบก ส่วน 1 คือคันแรก จึงรวมเป็น "พี่เทิ้น-1"

กรุณา Login เพื่อแสดงความคิดเห็น
ส่ง Scoop ให้เพื่อน
แจ้งลบไม่เหมาะสม
ความคิดเห็น

เรื่องอื่นๆ ที่น่าสนใจ

Loading...