พล.ต.ท.สุเทพ เดชรักษา ผบช.ภาค 5 ได้รับการประสานงานจากเจ้าหน้าที่ตำรวจประเทศญี่ปุ่นและตำรวจสากล ให้ช่วยติดตามจับกุมผู้ต้องหาชาวญี่ปุ่น ซึ่งขึ้นเครื่องบินหลบหนีมายังประเทศไทย โดยมีจุดหมายปลายทางที่ จ.เชียงใหม่ และยังมีผู้ต้องหาชาวญี่ปุ่นอีกคนเปิดสำนักงานอยู่ในจังหวัดด้วย

พล.ต.ท.สุเทพ จึงสั่งการให้ พ.ต.อ.พิษณุ อุณหเสรี ผกก.สภ.เมืองเชียงใหม่ นำกำลังไปดักรอที่สนามบินนานาชาติเชียงใหม่ จากนั้นเฝ้าดูความเคลื่อนไหวของผู้โดยสารชื่อนายโยเก็น โอริโม อายุ 34 ปี และนายคาซึฮึโตะ โคบายาชิ อายุ 33 ปี น้องชาย ซึ่งขับรถยนต์มารอรับที่สนามบิน ก่อนพานายโยเก็นมายังหมู่บ้านเชียงใหม่แลนด์ ถ.ช้างคลาน ต.ช้างคลาน อ.เมืองเชียงใหม่

จากนั้นตำรวจสภ.เมืองเชียงใหม่ พร้อมด้วยตำรวจญี่ปุ่น นำหมายศาลจังหวัดเชียงใหม่ เข้าค้นบ้านเลขที่ 462 หมู่บ้านเชียงใหม่แลนด์ ซึ่งนายคาซึฮึโตะเปิดเป็นสำนักงาน จากการตรวจค้นพบคอมพิวเตอร์ 10 เครื่อง เครื่องเล่นดีวีดี 4 เครื่อง และอุปกรณ์ต่างๆ เกี่ยวกับการส่งอินเตอร์เน็ต รวมทั้งฮาร์ดดิสก์อีกจำนวนมาก จึงควบคุมตัวและยึดของกลางไว้ทั้งหมด

ทั้งนี้ ตำรวจญี่ปุ่นแจ้งว่า ผู้ต้องหาทั้ง 2 คนเป็นพี่น้องกัน โดยนายโยเก็นจะเป็นแฮกเกอร์เข้าไปขโมยข้อมูลกลุ่มดารานักร้องและบุคคลสำคัญในประเทศญี่ปุ่น โดยเฉพาะภาพลับที่บุคลลเหล่านี้ถ่ายเก็บไว้ในคอมพิวเตอร์ส่วนตัว จากนั้นส่งภาพลับผ่านทางอินเตอร์เน็ตมายังจ.เชียงใหม่ ให้นายคาซึฮึโตะส่งต่อไปยังประเทศสหรัฐอเมริกา เพื่อเผยแพร่ภาพลับลงในเว็บไซต์ www.20000ch.com โดยมีผู้เสียหาย ทั้งดารา นักร้อง ไฮโซ และบุคคลสำคัญจำนวนมาก รวมประมาณ 300 ราย ซึ่งได้แจ้งความร้องทุกข์กับตำรวจญี่ปุ่น กระทั่งมีการออกหมายจับ แต่ผู้ต้องหาหลบหนีมายังประเทศไทย ตำรวจญี่ป่นจึงติดตามมาประสานตำรวจไทยเพื่อจับกุมในข้อหา "กระทำการเผยแพร่ภาพลามกอนาจารทางเน็ต ทำให้ผู้อื่นเสียหาย"

พล.ต.ท.สุเทพเปิดเผยว่า ผู้ต้องหาทั้งสองใช้วิธีแอบเข้าไปขโมยภาพหรือวิดีโอที่กลุ่มไฮโซ หรือดารานักร้องชื่อดังของประเทศญี่ปุ่นถ่ายเล่นกันและเก็บเอาไว้ดูส่วนตัว หรือดูเฉพาะในกลุ่มเป็นภาพลับเฉพาะ ก่อนส่งต่อมายังประเทศไทย เพื่อให้ผู้ต้องหาอีกคนส่งต่อไปยังประเทศสหรัฐอเมริกาแล้วเผยแพร่ลงเว็บไซต์ไปทั่วโลก

ด้าน พ.ต.อ.พิษณุกล่าวว่า สำหรับคดีนี้นายโยเก็น ทางญี่ปุ่นมีหมายจับอยู่แล้ว ส่วนนายคาซึฮึโตะที่อยู่ใน จ.เชียงใหม่ จากการตรวจค้นบ้านพบหลักฐานเข้าข่ายเผยแพร่โดยการโฆษณาทางอินเตอร์เน็ตเช่นกัน โดยจะส่งตัวให้ตำรวจญี่ปุ่นนำกลับไปดำเนินคดีที่ประเทศ จากนั้นจะยกเลิกวีซ่าเข้าประเทศไทยด้วย