10 อันดับงานวิจัยใต้สะดือแห่งปี 2011

 

10 คนมีเพศสัมพันธ์กับสัตว์ส่งผลให้มะเร็งองคชาติ

นักวิจัยได้เผยแพร่ผลงานในวารสารเวชศาสตร์ทางเพศ (Sexual Medicine)

ในเดือน พ.ย. ที่ผ่านมาเปิดเผยว่า จากการศึกษากลุ่มตัวอย่างชาย 492

คนในแถบชนบทของบราซิล พวกเขาพบว่ามีถึงร้อยละ 35 ของกลุ่ม

ตัวอย่างที่บอกว่าตนมีเพศสัมพันธ์กับสัตว์ครั้งหนึ่งในชีวิต และนักวิจัย

ก็พบว่าคนที่ป่วยเป็นมะเร็งองคชาติมักจะเป็นคนเดียวกับที่มีเพศ

สัมพันธุ์กับสัตว์ พวกเขาตั้งสมมุติฐานว่าการบาดเจ็บขององคชาติ

และสารคัดหลั่งในสัตว์สปีชี่ส์อื่นอาจเป็นตัวทำให้เกิดเชื้อโรคที่เป็น

เหตุของมะเร็ง เช่นเดียวกับ papillomo ไวรัสของคน

        9 แบคทีเรียชวนแหวะบนโต๊ะกาแฟ

นักวิจัยด้านจุลชีววิทยาบอกว่า ห้องพักของชายหนุ่มโสดจะมี

แบคทีเรียมากกว่าห้องพักของสาวโสด 15 เท่า และแบคทีเรีย

บางชนิดที่พบก็เป็นแบคทีเรียชนิดเดียวกับที่อยู่ในอุจจาระขณะ

ที่ในห้องของสาวโสดก็พบแบคทีเรียนี้เช่นกัน เพียงแค่มีความ

หนาแน่นน้อยกว่าที่พักของชายโสดเท่านั้นเอง จุดสำคัญอื่นๆ

ที่พบโคลิฟอร์มแบททีเรียพวกนี้ได้แก่ รีโมทโทรทัศน์,

โต๊ะข้างเตียงนอน และลูกบิดประตู

        8 ปลาหมึกน้ำลึกปล่อยสเปิร์มแล้วชิ่ง

นักวิจัยรายงานในวารสาร Biology Letters ว่าเมื่อปลาหมึก

Octopoteuthis deletron พบเจอพวกเดียวกัน มันไม่ใช้เวลา

ดูด้วยซ้ำว่าตัวที่มันเจอเป็นตัวผู้หรือตัวเมีย แต่พวกมันจะฉีด

กลุ่มสเปิร์มไปที่ตัวที่เพิ่งจะเจอกันทันที โดยกลุ่มสเปิร์มก็จะยัง

คงติดตัวปลาหมึกตัวเป้าหมายขณะที่พวกมันว่ายน้ำต่อไป

        7 นักศึกษาชอบคุยโวเรื่องเพศมากกว่าทำจริง

ในเดือน ก.ย. นักวิจัยได้เปิดเผยผลวิจัยว่า นักศึกษาจะเชื่อว่า

การมีเพศสัมพันธ์ในช่วงวัยเรียน รวมถึงการนอกใจเป็นเรื่องปกติ

แต่ส่วนมากมักจะเล่าขานต่อกัน มากกว่าจะลงมือกระทำจริงๆ

โดยนักศึกษาร้อยละ 90 คิดว่า การมีเพศสัมพันธ์กับคนอื่น

อย่างน้อย 2 คนเป็น “เรื่องปกติ” แต่มีเพียงร้อยละ 37

เท่านั้นที่มีเพศสัมพันธ์กับจำนวนคนที่ว่ามา การคุยโวเรื่อง

บนเตียงไม่เคยจะเก่าเลยจริงๆ

        6 การได้รับวัคซีนต้านไวรัส ไม่ได้เป็นการส่งเสริมให้วัยรุ่นมีเพศสัมพันธ์มากขึ้น

งานวิจัยเมื่อเดือน ธ.ค. 2011 เปิดเผยว่าการที่วัยรุ่นรับวัคซีน

ป้องกันเชื้อ HPV ไม่ได้ทำให้พวกเขาอยากสำส่อนทางเพศ

เพิ่มขึ้น โดยรายงานระบุว่า วัยรุ่นหญิงที่ได้รับวัคซีน HPV

จะใช้ถุงยางตอนมีเพศสัมพันธ์มากกว่าวัยรุ่นหญิงที่ไม่ได้รับ

วัคซีน น่าจะเป็นเพราะพวกเธอได้รับความรู้เรื่องโรคติดต่อ

ทางเพศสัมพันธ์ ดังนั้นการรับวัคซีน HPV ก็ไม่ใช่เรื่องที่เรา

จะต้องอายเลย

        5 วัยรุ่นคิดว่าออรัลเซ็กส์ มีความเสี่ยงน้อยกว่า

ในเดือน ก.พ. 2011 มีการนำเสนองานวิจัยในที่ประชุมประจำปี

ของสมาคมเพื่อการพัฒนาวิทยาศาสตร์แห่งอเมริกา

(American Association for the Advancement of Science)

ซึ่งเปิดเผยว่า มีวัยรุ่นร้อยละ 14 คิดว่าการทำออรัลเซ็กส์ไม่ได้

มีความเสี่ยงใดๆ ต่อสุขภาพ ทั้งที่ในความจริงคือมีไวรัส

ชื่อ papilloma virus (HPV) ที่สามารถติดต่อระหว่างคน

และความเสี่ยงต่อการติดไวรัสนี้ในปากและคอจะเพิ่มขึ้นหาก

ยิ่งมีการทำออรัลเซ็กส์ให้คู่นอนมากคน

        4 มนุษย์โบราณก็มีการผสมข้ามพันธุ์

ก่อนหน้านี้ในปี 2010 เคยมีข่าวการสำรวจพบว่า มนุษย์เผ่าพวก

เราและนีแอนเดอทาล เคยมีความสัมพันธ์กัน แต่ในปี 2011

มีการสำรวจไปไกลกว่านั้น เมื่อมีการค้นพบในเดือน มิ.ย. ว่า

นักวิจัยค้นพบหลักฐานทางดีเอนเอ ที่บอกว่ามนุษย์ยุคปัจจุบัน

มีชิ้นส่วนของพันธุกรรมนีแอนเดอทาลอยู่ร้อยละ 9 ยกเว้นในทวีป

แอฟริกา นั่นหมายความว่า การทดลองมีเพศสัมพันธุ์กันข้าม

เผ่าพันธุ์จนเกิดการผสมยีนส์กันน่าจะเกิดขึ้นไม่นานหลังจาก

ที่มนุษย์เราอพยพออกจากทวีปแอฟริกา

        3 การทำสมาธิช่วยเพิ่มความสุขทางเพศ

งานวิจัยอีกชิ้นหนึ่งในเดือน พ.ย. ปีที่ผ่านมาพบว่า ผู้หญิงที่

“ทำสมาธิวิปัสสนา” จะมีร่างกายที่ไวต่อการตอบสนองสิ่งเร้า

ทางเพศ และช่วยยับยั้งความวิตกกังวลและความรู้สึกไม่

ปลอดภัยที่เกิดขึ้นในช่วงที่ผู้หญิงมีเพศสัมพันธ์ได้

        2 ชาวอเมริกันโปรดปรานไวเบรเตอร์ (เซ็กส์ทอยที่เป็นเครื่องระบบสั่น)

กลุ่มตัวอย่างกว่าครึ่งหนึ่งเห็นด้วยกับประโยคที่ว่า “ไวเบรเตอร์

เป็นส่วนหนึ่งของวิธีทางเพศของผู้หญิงที่ดีต่อสุขภาพ” เปรียบ

เทียบกับร้อยละ 10 ของกลุ่มตัวอย่างที่มองประโยคนี้ในแง่ลบ

รวมถึงผู้มีความเชื่อที่ว่าการใช้ไวเบรเตอร์เป็นการดูถูกคู่นอน

ของพวกเธอ โดยก่อนหน้านี้คณะผู้วิจัยทีมเดียวกันเคยสำรวจ

พบว่า มีกลุ่มตัวอย่างผู้หญิงร้อยละ 53 และผู้ชายร้อยละ 45

เคยใช้ไวเบรเตอร์มาก่อน และพบความเกี่ยวข้องระหว่างการ

ใช้ไวเบรเตอร์กับความพึงพอใจทางเพศ

        1 ไม่ใช่เพียงแต่ผู้ชายที่รู้สึกว่าตนถึงจุดสุดยอดเร็วเกินไป

จากงานวิจัยของวารสารเพศวิทยา Sexologies ฉบับเดือน

ต.ค. 2011 การถึงจุดสุดยอดเร็วเกินไปเกิดในเพศหญิง

มากกว่าที่คิด จากกลุ่มตัวอย่างผู้หญิงชาวโปรตุเกส

ร้อยละ 14 ประสบกับปัญหาการถึงจุดสุดยอดก่อนเวลา

อันควรอยู่บ่อยๆ ผู้หญิงกลุ่มนี้ไม่สามารถควบคุมการถึง

จุดสุดยอดของตัวเองได้ และมักจะรู้สึกอึดอัดหากจะมี

เพศสัมพันธ์ต่อ ทำให้คู่นอนรู้สึกไม่ดี

     
28 ม.ค. 55 เวลา 20:25 10,463 6 180
แชร์สกู๊ป
กรุณา Login เพื่อแสดงความคิดเห็น
ส่ง Scoop ให้เพื่อน
แจ้งลบไม่เหมาะสม
ความคิดเห็น

เรื่องอื่นๆ ที่น่าสนใจ

Loading...