กองกอย เป็นผีป่าชนิดหนึ่ง (ผีไพร) ลักษณะรูปร่างจะเป็นผีที่มีขาข้างเดียว บ้างก็ว่ามีปากเป็นท่อเหมือนแมลงวัน เวลาไปไหนมาไหนจะกระโดดไปด้วยขาข้างเดียว และส่งเสียงร้องว่า "กองกอย ๆ" อันเป็นที่มาของชื่อ เชื่อว่ามีหน้าตาคล้ายลิงหรือค่าง บ้างเรียกว่า ผีโป่ง หรือผีโป่งค่าง สันนิษฐานว่า ความเชื่อเรื่องผีโป่ง ก็คือ ค่างแก่ที่หน้าตาน่าเกลียดไม่สามารถขึ้นต้นไม้ได้ มีความเชื่อของคนบางกลุ่มว่า ถ้าได้ดื่มเลือดค่างจะทำให้ร่างกายคงกระพันเป็นอมตะ
เชื่อว่า ผีกองกอย จะดูดเลือดจากหัวแม่เท้าของคนค้างแรมในป่า วิธีการป้องกันคือ ให้นอนไขว้ขาหรือชิดเท้ากันทั้งสองข้างและอย่านอนเอาขาหรือเท้าออกจากนอกเต็นนอน
หลวงปู่แหวน สุจิณฺโณ อดีตเจ้าอาวาสวัดดอยแม่ปั๋ง จังหวัดเชียงใหม่ ที่ถึงแก่มรณภาพไปแล้ว ท่านเคยเล่าว่า เมื่อครั้งท่านไปธุดงค์ ในป่าดิบทึบ ในแขวงคำม่วน ประเทศลาวพร้อมกับหลวงปู่ตื้อ อจลธมฺโม ท่านทั้งสองได้เคยผจญกับฝูงผีกองกอยด้วยในเวลากลางคืน โดยผีกองกอยนี้มีรูปร่างเหมือนเด็กอายุประมาณ 13-14 ปี มีรูปร่างผอม แต่พุงป่อง ผิวคล้ำ ผมเผ้ารุงรัง จมูกบี้แบน มีอาวุธถือมาในมือคล้ายหน้าไม้หรือธนูอันเล็ก ๆ ส่งเสียงร้อง "ก๋อย ก๋อย ก๋อย" พยายามจะเข้ามาทำร้ายท่านทั้งสอง แต่ทว่าท่านได้นั่งสมาธิ และด้วยปาฏิหารย์ พวกผีกองกอยไม่อาจทำอะไรท่านได้ และจนถึงรุ่งเช้า ผีกองกอยก็ยอมแพ้ และขอขมาท่าน และได้นิมนต์ท่านทั้งสองไปยังที่อาศัยของพวกตน ท่านจึงพบว่าแท้จริงแล้ว ผีกองกอยฝูงนี้คือ คนป่าเผ่าข่าระแด มีพฤติกรรมล่าและฆ่ามนุษย์ที่ล่วงล้ำถิ่นที่อยู่อาศัยของพวกตน และเอาเนื้อมากินกัน
ชาวภูไทที่อำเภอหนองสูง จังหวัดมุกดาหาร มีความเชื่อว่า ผีกองกอยเป็นผู้หญิงที่มีผมยาวสีแดง มีใบหน้าเรียวแหลม บ้างก็ว่ามีรูปร่างลักษณะเหมือนลิง แต่มีขนาดเล็กกว่าลิงหรือลิงลมเสียอีก และเชื่ออีกว่า ผีกองกอยเป็นผีที่มีครอบครัว บ้างก็อาศัยอยู่ในถ้ำหรือโพรงไม้ ออกหากินโดยจับปลากินตามลำห้วย หรือแม่น้ำ บางครั้งก็ขโมยปลาหรือข้าวของของผู้คน อีกทั้งยังเชื่อว่า ผีกองกอยชอบเดินถอยหลัง และพูดอะไรที่ตรงข้ามกับความจริงเสมอ อีกทั้งยังเชื่ออีกว่า ผีกองกอยมีทรัพย์สินสมบัติสะสมอยู่มาก ซึ่งบางครั้งหากไปพบทรัพย์สมบัติหรือปลาตกอยู่กลางทางหรือในป่า โดยไม่ทราบว่าใครเป็นเจ้าของ ห้ามเก็บมา เพราะอาจเป็นผีกองกอย ผีกองกอยจะตามมาทวงคืน โดยอาจจะทำร้ายมนุษย์ด้วยการล้วงควักตับไตไส้พุงกินเป็นอาหารได้ในเวลาหลับ เช่นเดียวกับผีปอบ ซึ่งผู้ที่ถูกผีกองกอยล้วงควักอวัยวะภายในไปกินนั้น จะเสียชีวิตเหมือนนอนหลับปกติ เรียกว่า "ใหลตาย"
เป็นที่น่าสังเกตว่า ผีลักษณะแบบเดียวกับผีกองกอย มีความเชื่อกระจายทั่วไป ไม่เฉพาะในไทย ในมาเลเซียเชื่อว่า มีคนป่าเผ่าหนึ่งมีขาข้างเดียว ไม่มีสะบ้าหัวเข่า ที่จีนก็มีความเชื่อว่า มีปีศาจชนิดหนึ่งอาศัยอยู่ตามภูเขา มีขาเดียว ตัวเล็ก แต่ผมยาว ตาโต หูแหลม มักขโมยอาหารหรือสิ่งของของคนเดินทาง เมื่อถึงวันตรุษก็มักเข้ามาอาละวาดในหมู่บ้าน เชื่อว่านำมาซึ่งความอัปมงคล และใครจับต้องตัวมันจะเผชิญกับโชคร้ายหรือเจ็บไข้ได้ป่วยหรือ แม้แต่ผีขาเดียว ที่ไปไหนมาไหนด้วยวิธีการกระโดด ของยุโรปก็มี
ผีกองกอย ถูกอ้างถึงวรรณกรรมหรือวรรณคดีหลายเรื่อง อาทิ เจ้าย่องตอด ในพระอภัยมณี หรือ ในเพชรพระอุมา ตอน จอมผีดิบมันตรัย เป็นต้น

ที่มา กองกอย - วิกิพีเดีย

__________________
เรียนเชิญร่วมเป็นเจ้าภาพถวายมณีนาคา ณ สำนักสงฆ์ภูสูง

ผีกองกอย

จะเล่าเรืองผีกองกอยให้ฟังมั่ง ใครอยากฟังเอ้ายกมือขึ้น เมือปูทุดงไปกับพระคุณเจ้าห้าองค์ เเต่ท่านโดนไปองค์ครับ ไม่ใช่อะไรหลอก ไข้มาเลเรียนะ กรรมเวณ ตอนปู่ไปนั้นตอนนั้นอยู่ทีเขาน้ำหนาว เพรชบูณร์ครับ ครับสมัยนั้นป่ามันรกมากไม่เหมือนสมัยนี้หลอก เราเดินทางก้นเข้าป่าไปได้แบบว่ามองขึ้นข้างบนเเม้ตอนเทียงเรายังไม่รุเวลาเลยว่ามันเที่ยง มันทึบมากเหมือนกลางคืนเลยทั้งๆๆกลางว้นแท้ ไปเจอชาวบ้านเขาขึ้นมาล่าสัตว์ก็มาทักทายเเล้วให้สะเบียงจำพวกเนื้อเเห้้งทีเขายิงมาได้ให้ไว้เยอะพอควรครับ เรียกว่าอยู่ได้อีกเป็นอาทิตย์ เขาเล่าให้ฟังว่าป่าแทบนี้มีคนเจอผีกองกอย ครับเสียงร้องขอมันจะเล็กเเหลมๆๆ ฟังดูน่ากลัวดีนะ เขาบอกว่าให้ละวังไว้บ้างก็ดี เเล้วเขาก็จากไปลงเขาไปเเบกกวางตัวใหญ่ไปด้วย พอคืนเเรกๆๆๆๆไม่มีไรเดินไปอีกสักประมานน่าจะถึงกลางเขาเราก็พักนอนกัน ตอนนั้นดึกพอแรงเเล้วปู่ก่อไฟเเล้วเฝ้าให้พระคุณเจ้าได้พักผ่อนกัน พอตอนดึกๆๆๆกะเอานะ ได้ยินพระคุณเจ้าร้องแบบครางๆๆๆแบบฝันไงเนี้ย ปู่คงว่าท่านฝันกะมั่งเลยไม่ได้สนใจ พอจะนอนหลับบ้างได้ยินเสียงแปลกๆๆมาและเขานั้นละ เสียงเล็กเเหลมๆๆ ผมยาวๆๆๆตัวเล็กๆๆๆเวลามันมากระโดดขะเยกๆๆ ปู่เลยนอนแบบแอบดูว่าตัวไรวะเนี้ย หรือนี้ทีเขาเรียกว่าผีกองกอย พอมันมาถึงพระคุณเจ้ามันก็มองซ้ายเเละขวา แล้วก้มลง ปู่ก็ว่ามันทำไรของมัน ชั่งใจอยู่นาน มากเลยถือไม้มีไฟเข้าไปหามัน มันตกใจกลัว กะโดดออกมาเเต่เห็นหน้ามันหน้าเหมือนคนเลยมีเเขนเล้กขาเล็กเเต่กระโดดขึ้นต้นไม้หายไปได้ไวมาก เลยมาดูพระคุณเจ้า ปรากฏว่ามันมาแอบดูดเลือดทีแม่เท้านิ้วโป้งนะ เลยปลุกท่านแทบว่าจะต้องตบหน้าท่านเลย ไม่มีเเรงเรียวเเรงหายไปหมด ก็มันดูดเลือดไปตั้งเยอะนี้น่า เลยปลุกพระคุณเจ้าทั้งหมดมาดูเเล้วเอายามาให้กิน นอนต่อจนถึงเช้าเลยมาเล่าให้ท่านฟ้ง ท่านก็บอกว่า ทีเขาเรียกว่าผีกองกอยนั้น แท้จริงเเล้วมันคือตัวค่างแก่ชนิดหนึ่ง พอมันแก่ตัวลงมันจะกินเลือดของสัตว์จนตาย ปู่ถึงว่าทีชาวบ้านคนนั้นให้ระว้งมันก็แบบนี้นี้เอง

แต่จริงๆๆแล้วผีกองกอยมันเป็นตำนานของลาวเขาว่ามีผีกองกอยอาระวาดแล้วจ้างหมอผีคนไทยไปปราบ จนสำเร็จ ตำนานมันมีมาเเค่นี้เเต่ตัวจริงไม่เคยเห็นนะ เลยบอกไม่ถูกเหมือนกัน เเต่ถามนางไม้เขาก็ว่ามีอยู่จริงเเต่ทีลาวซะมาก