วันที่ 2 พ.ย. นางปวีณา หงสกุล ประธานมูลนิธิปวีณาหงสกุลเพื่อเด็กและสตรี พร้อมด้วย พ.ต.ท.ธิติพงษ์ สุขเพียน รอง ผกก.สส.สภ.หนองขาม จ.ชลบุรี และนางปิยนาถ พูลพิพัฒน์ เจ้าหน้าที่บ้านพักและครอบครัว จ.ชลบุรี ของกระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ เดินทางไปที่บ้านหลังหนึ่งใน ต.หนองขาม อ. ศรีราชา จ.ชลบุรี หลังรับแจ้งจากพลเมืองดีว่า พบเด็กหญิงนิด (นามสมมติ) อายุ 3 ขวบ ถูกยายแท้ๆ ทำร้ายและทารุณกรรม จนชาวบ้านทนพฤติกรรมยายไม่ไว้ร้องมายังมูลนิธิปวีณาให้ช่วยเหลือเด็กออกมา ซึ่งเมื่อเดินทางไปถึงบ้านดังกล่าว พบว่ามีเนื้อที่กว่า 1ไร่ รอบตัวบ้านเป็นลานดิน และยังพบหลุมดินขนาดใหญ่มีความกว้างประมาณ 1 เมตร ลึก 50 ซ.ม. แต่ไม่พบตัวเด็กหญิงนิดเพราะถูกส่งตัวไปเรียนที่ศูนย์เลี้ยงเด็ก ใกล้บ้านพัก เจ้าหน้าที่จึงไปรับตัวมาที่ สภ.หนองขาม ทันที

ขณะเดียวกัน นางปวีณาสอบถาม นางเอ (นามสมมติ) อายุ 45 ปี ยายของเด็กหญิงนิด ซึ่งนางเอปฎิเสธอ้างว่าไม่เป็นความจริง เพราะก่อนหน้าที่จะรับน้องนิดมาอยู่ร่วมบ้าน เคยรับหลานชายซึ่งเกิดกับบุตรสาวของตนเป็นบุตรบุญธรรมมาแล้วคนหนึ่ง ต่อมาเพียงปีเดียวได้รับแจ้งจากมูลนิธิแห่งหนึ่งย่านบางนา ให้มาดูเด็กซึ่งเป็นบุตรของลูกสาวตนคนโตเช่นกัน ด้วยความสงสารจึงนำมาเลี้ยงและจะรับเป็นบุตรบุญธรรมเหมืออเช่นหลานชายคนแรก แต่น้องนิดมีนิสัยเสียอยู่ข้อหนึ่งสั่งทำอะไรมักจะไม่เชื่อฝั่ง และยังชอบกำอุจจาระมาซุกไว้ที่นอนและผ้าห่มเป็นประจำ ทำให้ตนต้องตอบโต้บ้าง ส่วนเรื่องจับน้องนิดฝังดิน ก็เพราะวันนั้นน้องดื้อมาก นอกจากนั้น นางเอยังด่าทอว่าคนที่แจ้งว่าไม่ประสงค์ดี เนื่องจากมีแต่คนอิจฉาตน

อย่างไรก็ตาม หลังจากเจ้าหน้าที่เห็นสภาพของน้องนิด ที่โรงเรียนศูนย์ในชุมชนต่างเบือนหน้าหนีด้วยความสงสารเพราะตามเนื้อตัวเต็มไปด้วยบาดแผล ทั้งรอยเล็บหยิก และรอยถูกเฆี่ยนตีเต็มตัว ขณะที่ใต้ริมฝีปากมีร่องรอยถูกไฟลนจนเป็นแผลผุพองใหญ่ และร้องไห้ตลอดเวลาเมื่อเห็นหน้านางเอ นางปวีณาจึงมอบหมายให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบ พร้อมทั้งสอบ ป.วิอาญาและส่งตัว น้องนิดตรวจร่างกายด่วน และยังมอบหมายให้บ้านพักเด็กและครอบครัว ของกระทรวงพัฒนาสังคมฯ ไปดูแลด้วย ส่วนนางเอ ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจตั้งข้อหาทำร้ายร่างกายไว้ก่อน