คอนยัก(Konyak) เผ่าล่าหัวคน

เนื้อเรื่อง : 
คอนยัก (Konyak)

ใครก็ตามที่บุกป่าผ่าดงเข้าไปในดินแดนนากาแลนด์คงต้องระวังตัวให้จงหนัก...

เพราะทุกวันนี้ชนเผ่า คอนยัก (Konyak) ซึ่ง อาศัยอยู่ในดงทึบของแผ่นดินนี้ยังไม่เลิกประเพณีโบราณแห่งการล่าหัวมนุษย์ แน่นอน แม้ว่ารัฐบาลอินเดียจะกำชับกำชาหนักหนาแล้วก็ตามที

มีผู้คนจำนวนไม่น้อยที่ไม่เคยได้ยินชื่อชนเผ่า "คอนยัก" กันมาก่อน

ที่จริงคำว่า "คอนยัก" นั้นอาจจะทำให้ไขว้เขวนึกไปถึงบรั่นดี คอนยัก (cognac) ที่เป็นเครื่องดื่มอันแสนจะโด่งดังของฝรั่งเศสมากกว่า



หากแต่คำพ้องว่า "คอนยัก" นั้นเมื่อนำมาพูดกันในดินแดนทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือของอินเดียแล้วถือว่าคำ ๆ นี้เป็นคำที่ไม่มีชาวอินเดียอยากจะได้ยินนัก

เพราะชื่อคอนยักนั้นล้วนแล้วแต่ทำให้จินตนาการไปได้ไกลถึง ชนเผ่าที่เต็มไปด้วยการล่าสังหาร - ชนเผ่าที่ใช้อาวุธมีคมที่เรียกว่า "เด-โอส" (daos) ตัวหัวคู่อริและชนเผ่าที่ปกครองยากพร้อมที่จะเรียกร้องความเป็นอิสระของตนเองอยู่ตลอดเวลา

ทุกวันนี้ชนเผ่านี้ก็ยังมีตัวตนอยู่ และถูกจำกัดพื้นที่อยู่ในดินแดนที่เรียกว่า "นากาแลนด์" (Nagaland) ซึ่งเป็นดินแดนที่อุดมไปด้วยชนเผ่าที่มีรากเหง้ามาจากชาวนากาเมื่อหลายศตวรรษก่อน

คอนยัก นั้นเป็นชนเผ่าหนึ่งที่เป็นเลือดเนื้อแห่งนากา

แชง (Chang) ก็เป็นอีกชนเผ่าที่มีเลือดแห่งนากาอยู่เต็มตัว



แต่คอนยักนั้นก็มักจะยกพวกไปถล่ม สังหาร และเผาหมู่บ้านของแชงกันอยู่เนือง ๆ
เรื่อง นี้อาจเป็นเรื่องน่าตื่นเต้นของชาวโลกศิวิไลซ์ที่เพิ่งจะได้รับรู้ว่า เรื่องราวความโหดแบบนี้ก็มีอยู่ในดินแดนทางซีกตะวันออกเฉียงเหนือของอินเดีย ด้วยหรือ


แต่ ในกลุ่มชนแห่งนากานั้น พวกเขารับรู้ถึงเรื่องนี้มานานแสนนานแล้ว และแม้ว่าโลกนี้จะมีความวิวัฒนาการมากมายเพียงใด ตลอดจนความเจริญทั้งหลายจะพากันหลั่งไหลเข้าสู่ชาวนากามากมายระดับใด


เรื่องราวแห่งการล่าสังหารของคอนยักแห่งนากานั้นยังคงเป็นเรื่องจริง ที่อมตะเสียยิ่งกว่านิยายตื่นเต้นเรื่องใด ๆ ในโลกนี้เสียอีกด้วย

ก่อน หน้านั้นทางการอังกฤษซึ่งได้ยืดอินเดียเป็นหนึ่งในอาณานิคมของตนนั้น ก็เคยได้ค้นพบความเหี้ยมโหด จากน้ำมือของชนเผ่าคอนยักกันมาบ้างแล้ว และได้พยายามหาหนทางที่จะทำให้ความโหดร้ายของพวกคอนยักสร่างซาลงด้วยแผนการ อันแยบยล



นั่นก็คือนำเอา "ฝิ่น" มาปลูกกันในพื้นที่ของคอนยักในปริมาณมหาศาลและสอนให้เผ่าโหดนี้รู้จักวิธีที่จะปลูก และบริโภคฝิ่นกันอย่างคร่ำเคร่ง

แน่ นอนว่ามันได้ผลเหมือนกับที่อังกฤษเคยทำให้จีนต้องเสียมวยมาแล้ว หากแต่คอนยักนั้นยอมรับในฝิ่นก็จริง แต่พวกเขายังไม่เลิกความโหดแห่งการล่าสังหาร

ก่อนที่จะขยับเล่าเรื่องของชนเผ่าคอนยักกันต่อไปนั้นคงต้องท้าวความกันซักนิดว่า คอนยัก นั้นเป็นใคร และทำไมถึงได้โหดอย่างนั้น

ก่อน หน้าที่ชื่อของคอนยักจะเป็นที่รับรู้ในทุกวันนี้ เรื่องราวของการล่าหัวมนุษย์นั้นมักจะถูกเพ่งเล็งกันไปยังจุดอื่น ๆ ของโลหะมากกว่าที่อินเดียอันเป็นแหล่งที่อยู่ของคอนยักด้วยซ้ำ

ชน เผ่าดายัคแห่งบอร์เนียว นั้นเป็นกลุ่มชนที่ได้ชื่อว่าเป็นนักล่าหัวมนุษย์ตัวยง คือนิยมล่าทั้งศัตรูของพวกตน รวมทั้งล่าหัวผู้บุกรุกโดยไม่สนใจว่าจะเป็นเผ่าพันธุ์ใด ๆ



และ เมื่อข้ามฟากไปยังทวีปอเมริกาใต้....อินเดียนเผ่าฮิวาโร่ก็ใด้ชื่อว่าเป็น เผ่าพันธุ์ล่าหัวมนุษย์สุดโหด ที่นอกจากจะล่า และฆ่าศัตรูชนิดล้างหมู่บ้านแล้ว ยังนำเอาหัวศัตรูมาย่อส่วนจนเลื่องลือ

สองตัวอย่างข้างต้นก็พอจะเป็นตัวอย่างความดังในการล่าหัวมนุษย์ที่ชาวโลกรู้จักกันเป็นอย่างดี

แต่เรื่องของ ชนเผ่า คอนยัก นั้นนับได้ว่าแทบจะเป็นเรื่องลึกลับ และเป็นเรื่องที่รัฐบาลอังกฤษ และอินเดียอยากจะลืมเรื่องนี้ไปเลย


และด้วยมาตรการหลายประการที่พยายามทุ่มเทลงไปเพื่อให้คอนยักเลิกล้มประเพณี การล่าหัวมนุษย์เสียที นั้นก็ดูเหมือนจะได้ผลแบบผิวเผินเท่านั้น



ใน ความเป็นจริง...คอนยักนั้นยังคงสืบทอดตำนานการล่าหัวศัตรูไม่ต่างจากสมัย ก่อน เพียงแต่ต้อง "ซ่อน" ชิ้นส่วนอันเป็นหลักฐานที่บ่งบอกถึงความโหดในการฆ่าเอาไว้ในที่ลับตาบ้าง ก็เท่านั้น

ในยุคโบราณ ไม่ว่าจะเป็นหัวกะโหลกศัตรู หรือเส้นผมสตรี (จากเผ่าของศัตรู) ที่ถูกนำมาประดับตกแต่งบ้านเรือนของคอนยักนั้นจะถูกจัดตั้งไว้ในบ้านอย่างไม่เกรงกลัวสายตาผู้ใด

แต่ ทุกวันนี้ เมื่อมีการแอบมาตรวจสอบจากเจ้าหน้าที่ทางการเป็นครั้งคราว รวมทั้งมีมาตรการห้ามการสังหารเผ่าตรงข้ามกันอย่างเข้มงวด ก็เลยทำให้ชนเผ่าพันธุ์ดุนี้จำต้องนำหัวกะโหลกศัตรู ไปแอบซ่อนไว้ในป่าทึบ และทำเป็นคอลเล็คชั่นพิเศษประจำเผ่าเอาไว้เป็นจุดชื่นชมกันโดยเป็นที่รู้กัน ว่า มันถูกซ่อนหรือเก็บไว้ที่ตรงไหน

ขณะ เดียวกัน...ผู้บุกรุกหรือใครก็ตามที่บังเอิญผ่านเข้าไปในดินแดนของคอนยัก แล้ว มีโอกาสได้เห็นกองกะโหลกเป็นพะเนินเทินทึก หรือวางไว้บนแท่งหินหลากขนาดเข้าเมื่อไหร่...รับประกันได้เลยว่าต้องตกใจแทบ สิ้นสติกันทั้งนั้น

พร้อมกันนั้นก็เป็นที่รับรู้กันกลาย ๆ ว่า กำลังมุ่งหน้าเข้าสู่เขตแดนของคอนยัก เผ่าล่าหัวมนุษย์เข้าให้แล้วด้วย

เรื่องแบบนี้ดุน่าตื่นเต้นกว่านิยายผจญภัยเรื่องได ๆ ในโลกด้วยซ้ำไปเพราะมันเป็นเรื่องจริง ๆ ที่กำลังเกิดขึ้นอยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน



คอนยัก นั้นมีบรรพบุรุษเป็นชาวนากา แต่ก็มีความขัดแย้งกับเลือดเนื้อที่แบ่งสายจากบรรพบุรุษของตนมานานหลายศตวรรษแล้ว

ชนเผ่าแชงคือศัตรูคู่อาฆาตที่คอนยักมักจะยกพวกบุกเข้าไปฆ่าฟัน ตัดหัวและเผาหมู่บ้านจนราบเป็นหน้ากลองมาแต่โบราณกาล


แต่ที่เป็นข่าวใหญ่โด่งดังไปทั่วโลกก็คือการบุกสังหารครั้งใหญ่ในช่วงเดือนพฤศจิกายน ค.ศ.1991

คราวนั้น....นักรบ คอนยักจำนวน 600 คนพร้อมอาวุธเต็มอัตราศึกซึ่งประกอบไปด้วยมีดพร้าคมกริบที่เรียกว่า" เด-โอส" และปืนคาบศิลาแบบโบราณ (ปืนแก๊บ) ได้พากันดาหน้าบุกเข้าไปยังเขตเทือกเขา "ทอบิว" ซึ่งเป็นถิ่นฐานของชนเผ่า แชง คู่อาฆาต

การรบเต็มไปด้วยความเข้มข้น และความเป็นนักรบกร้าวแกร่งของคอนยักนั้นทำให้พวกเขาสามารถเอาชนะพวกแชงได้โดยไม่ยาก

วาระ นั้น...มีพวกแชงที่ล้มหายตายจากไปจากการต่อสู้แทบหมดหมู่บ้านที่หนีได้ก็หนี ไป แต่ที่โดนสังหารตายคาที่และไม่มีเพื่อนฝูงลากเอาศพไปซ่อนนั้นก็ได้ถูกคอนยัก กระทำการ "ตัดหัว" เอาไปเป็นที่ระลึก

มีรายงานว่ามีศพหัวขาดเกลี่อนหมู่บ้านถึง 28 ซาก ซึ่งในจำนวนนี้มีศพหัวขาดของสตรีวัย 22 ปีแห่งเผ่าแชงรวมอยู่ด้วย

แม้ข่าวนี้จะโด่งดังไปทั่วโลก แต่ดูเหมือนว่าทางการอินเดียทำเป็นไม่ค่อยตื่นเต้นเท่าไหร่



เข้า ตำราว่าอินเดียเจ้าของประเทศนั้นรู้อยู่แล้วว่าชนเผ่านี้มันเป็นอย่างไร ขืนไปยุ่งเกี่ยวกับพวกมันมาก ๆ เข้าดีไม่ดีอาจจะเดือดร้อนกันได้ง่าย ๆ

และ นั่นเป็นเพียงตัวอย่างเล็กน้อยที่การสังหารของคอนยักนั้นกลายเป็นข่าวดัง ระดับโลก และทำให้ชาวโลกเริ่มรับรู้ว่าในโลกนี้ก็มีเผ่าฆ่าคนที่ชื่อคอนยักกับเขาด้วย

หลัง จากที่ไล่ล่าตัดหัวศัตรูมานานนับเป็นร้อย ๆปี ก็เพิ่งมีคราวนั้นแหละที่คอนยักกลายเป็นเผ่าสังหารที่โด่งดังคับฟ้าในทันที และทำให้ผู้คนเริ่มสนใจความเป็นมาของคอนยักกันมากยิ่งขึ้น พร้อมทั้งเกิดความพรั่นพรึงในชนเผ่าโบราณที่คล้ายจะถูกลืมในอินเดียนี้ใน ทันควัน



การตัดหัวศัตรูนั้น แท้จริงเป็นการกระทำตามประเพณีอย่างหนึ่งของคอนยักมานานแล้ว



แรก สุด...มันเป็นการพิสูจน์ความเป็นหนุ่มของเด็กหนุ่มแห่งคอนยักว่า ถ้าพวกเขาสามารถตัดหัวศัตรูมาได้ก็เท่ากับว่าพวกเขาได้ก้าวพ้นจากความเป็น เด็กมาสู่ความเป็นผู้ใหญ่



นอก จากนั้นพวกคอนยักเชื่อว่า วิญญาณ นั้นสิงสถิตอยู่ที่ก้านคอ และจิตนั้นสิงอยู่ในสมอง และถ้าหากพวกเขาสามารถสังหารและตัดก้านคอศัตรูออกมาได้ก็ท่ากับได้ วิญญาณ และจิต ของศัตรูมาไว้ใช้งาน



การ ใช้งานของวิญญาณและจิตศัตรูที่ถูกนำหัวกลับมายังหมู่บ้านด้วยนั้นก็คือ การนำมาทำพิธีแห่งพลังอำนาจและการมีโชคลาภประจำเผ่าคอนยัก รวมทั้งยังมีผลทำให้การเพาะปลูกในหมู่บ้านมีความเจริญงอกงามและมั่งคั่งตาม ไปด้วย



อย่าง ไรก็ตาม มีเรื่องที่เชื่อกันในคอนยักบางกลุ่มว่าพวกนักฆ่าหรือนักล่านั้นจะต้อง รู้จักชื่อเสียงเรียงนามของศัตรูบ้าง ดังนั้นเมื่อลงมือสังหารเหยื่อแล้วพวกเขา (นักล่า) จะต้องตะโกนเรียกชื่อศตรูด้วยเสียงอันดังลั่นหมู่บ้านศัตรูเพื่อเป็นการข่ม ขวัญ และเป็นการบอกเล่าให้เพื่อนนักล่าด้วยกันได้รับรู้ว่าเขาได้ล่าศัตรูคนหนึ่ง ดับดิ้นไปแล้ว



ยัง มีเกร็ดเล็กเกร็ดน้อยอีกอย่างที่น่าสนใจ นั่นก็คือการนำเอาเส้นผมหญิงเผ่าศัตรูกลับมาประดับเผ่านั้นก็ยิ่งเป็นการ เสริมบารมีมากยิ่งขึ้น ยิ่งถ้าได้มาเป็นหัวด้วยก็ยิ่งยอดเยี่ยมที่สุด ดังนั้นจึงไม่แปลกที่การบุกสังหารแต่ละคราวนั้นจะต้องมีผู้หญิงบางคนถูก สังหารไปด้วยโดยไม่มีข้อยกเว้น



สำหรับเผ่าโหดที่สุดของคอนยักนั้นต้องยกให้ หมู่บ้าน “ลองวา”(Village of Longwa)ที่มีระบบปกครองแบบราชันย์เป็นผู้กุมอำนาจทั้งหมด



โดยราชันย์นั้นเรียกนามว่า “แอง”Ang



แม้ว่าทางการอินเดียจะห้ามไม่ให้มีการล่าหัวก็แล้วก็ตาม แต่เรื่องนี้หาไม่ยุติไม่



สังเกตได้จากคนรุ่นใหม่ ๆ ของเผ่านี้ยังคงห้อยลูกปัดคล้องคอที่มี "หัวกะโหลกเงิน" ที่ทำจากเวินแท้ ๆ อันเป็นสัญญาลักษณ์แห่งหัวสัตรูห้อยกันอย่างเปิดเผย..



หัวกะโหลกเงินนี้เป็นตัวแทนของหัวกะโหลกจริงของศัตรูแต่ละคนที่พวกเขาล่าได้



ถ้าตราบใดที่คอนยักรุ่นหนุ่มน้อยยังมีหัวกะโหลกเงินห้อยคอ ก็แสดงว่าการ "ล่าหัวมนุษย์" นั้นยังไม่มีวันจางหายไปจากความเป็นคอนยักแน่นอน



การ ล่วงล้ำเข้าไปทำสารคดี หรือทำข่าวเกี่ยวกับคอนยักนั้น...ยังไม่เป็นที่รับประกันได้ร้อยเปอร์เซ็นต์ ว่าคนต่างถิ่นที่เข้าไปทำข่าวนั้น จะปลอดภัย



เพราะคอนยักนั้นยังคงต้องการ "หัวกะโหลก" ใหม่ ๆ มาเติมให้เต็มคอลเล็คชั่นกลางป่าลึกห่างไกลหูตาของรัฐบาลอินเดียอยู่เสมอ ๆ



สิ่งที่เราไม่รู้นักก็คือ...นอกจากหัวกะโหลกศัตรูแล้ว หัวกะโหลกผู้รุกล้ำดินแดนของคอนยักนั้นเป็นสุดยอดปรารถนาของพวกเขาด้วยหรือไม่?น่าพรั่นพรึงจริง ๆ

10 ก.ย. 54 เวลา 09:55 14,088 17 190
แชร์สกู๊ป
กรุณา Login เพื่อแสดงความคิดเห็น
ส่ง Scoop ให้เพื่อน
แจ้งลบไม่เหมาะสม
ความคิดเห็น

เรื่องอื่นๆ ที่น่าสนใจ

Loading...