ไต้หวันเล็งพัฒนาขีปนาวุธนำวิถีพิสัยไกล เชื่อ คงพอประมือกับทัพจีนฯแถบชายฝั่งได้

ทหารไต้หวันระดมปืนใหญ่ 240 มม. ซึ่งผลิตโดยสหรัฐฯ ในช่วงการฝึก ณ เกาะจินเหมิน เมื่อวันที่ 23 ส.ค. (ภาพเอเอฟพี)

เอเอฟพี - ไต้หวันมีแผนพัฒนาขีปนาวุธนำวิถีพิสัยไกล ซึ่งคาดการณ์ว่าคงพอจะรับมือกับอาวุธของกองทัพปลดแอกประชาชนจีน ที่ตั้งฐานบัญชาการอยู่แถบชายฝั่งตะวันออกเฉียงใต้ใกล้เกาะไต้หวัน หากเกิดภาวะสงครามขึ้นจริง

หลิน อี้ว์ฟัง วุฒิสมาชิกที่นั่งตำแหน่งสมาชิกสภานิติบัญญัติจากพรรคก๊กมินตั๋ง ของไต้หวัน เผย (22 ส.ค.) ว่า “กระทรวงกลาโหมไต้หวันมีงบประมาณ 1.04 ล้านดอลลาร์ สำหรับการพัฒนาและออกแบบฐานยิงขีปนาวุธและระบบความปลอดภัย”

แต่หลิน ก็กล่าวว่า ยังมีรายละเอียดเกี่ยวกับโครงการพัฒนานี้ไม่มากนัก ขณะที่ฝั่งกลาโหมไต้หวันเองก็ปฏิเสธที่จะแสดงความเห็น

หลิน ชี้ว่า ขีปนาวุธฯ พร้อมด้วยชุดยุทโธปกรณ์ที่ไต้หวันผลิตเอง “สงเฟิง 2 อี” เมื่อประสานกันเข้าก็จะมีประสิทธิภาพในการป้องกันอาวุธของจีนได้

“หากเกิดสงคราม ไต้หวันอาจสามารถใช้อาวุธในการป้องกันทางอากาศและป้องกันขีปนาวุธที่จีนระดมมาแถบชายฝั่งตะวันออกเฉียงใต้ใกล้ไต้หวันได้” หลิน ชี้

“การยิงสกัดป้องกันทางอากาศนี้ จะส่งผลดีคือ ไม่ต้องขับเครื่องบินขับไล่ให้ตกเป็นเป้า และยังไม่ต้องเสี่ยงภัยชีวิตนักบินด้วย”

ความตึงเครียดระหว่างจีนและไต้หวันบรรเทาลงหลังจากหม่า อิงจิ่วขึ้นดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีไต้หวันเมื่อปี 2551 แต่ความตึงเครียดด้านการทหารและความมั่นคงก็ยังคงออกมาเป็นระยะ ๆ

ในปี 2492 จีนและไต้หวันแบ่งแยกการปกครอง สืบเนื่องจากสงครามกลางเมืองระหว่างพรรคคอมมิวนิสต์และพรรคก๊กมินตั๋ง เป็นผลให้เจียงไคเช็กแห่งพรรคก๊กมินตั๋งถอยร่นมาปักหลักที่ไต้หวัน แต่จีนก็ยังคงพิจารณา ว่า ไต้หวันเป็นส่วนหนึ่งของจีนที่รอการหวนคืน หากจำเป็นอาจใช้กำลังทหารเข้าปราบปรามยึดครอง

กรุณา Login เพื่อแสดงความคิดเห็น
ส่ง Scoop ให้เพื่อน
แจ้งลบไม่เหมาะสม
ความคิดเห็น

เรื่องอื่นๆ ที่น่าสนใจ

Loading...