เณรโดนยักษ์สิงร่าง
เณรโดนยักษ์สิงร่าง
เณรโดนยักษ์สิงร่าง
โดย...อ.ตุ้ย วรธรรม
เรื่องวิญญาณสิงร่างคนยอมรับว่าตอนเป็นเด็กเคยเห็นและเห็นบ่อย เพราะเมื่อมีเหตุการณ์เกิดขึ้นก็วิ่งไปดู ซึ่งก็จะเห็นคนที่ถูกสิงแสดงกิริยาอาการ ท่าทาง ตลอดจนคำพูดแปลกๆ ออกมา ซึ่งไม่ใช่ของคนที่กำลังถูกสิงร่าง
โดยเฉพาะคำพูดที่เปล่งออกมาบ่งบอกชัดเจน เพราะผู้ที่สิงร่างมีการบอกชื่อแซ่ของตนว่าเป็นใคร ชื่ออะไร มาจากไหน พร้อมบอกเหตุผลที่มาสิงร่างคนคนนั้นเมื่อถูกหมอธรรมถาม เป็นต้นว่าเพราะคนคนนั้นไปแสดงกิริยาอาการไม่ดีหรือลบหลู่ต่อเขา ต่อสถานที่ที่เขาสถิตอยู่ จึงต้องการสั่งสอน
ญาติผมเองก็เคยเจอกับปรากฏการณ์นี้มาแล้ว เพราะไปถางไม้บนจอมปลวกใหญ่พร้อมจุดไฟเผาไม้บนนั้น ทำให้เขาต้องเดือดดาลใจที่ไปทำลายที่อยู่ของเขา กว่าจะหายเป็นปกติก็เมื่อหมอธรรมแนะนำให้แต่งขันธ์ห้าขันธ์แปดพร้อมของเซ่น ไปทำพิธีขอขมาคนที่ถูกสิง จึงหายกลับเป็นปกติดังเดิม
ในสมัยพุทธกาลก็มีเรื่องแบบนี้และเกิดขึ้นที่วัด โดยเกิดขึ้นกับสามเณรรูปหนึ่งชื่อสานุสามเณร ซึ่งสามเณรรูปนี้เคร่งในศีลมาก ทุกวันจะตื่นแต่เช้าเพื่อตักน้ำใส่ตุ่ม เก็บกวาดโรงธรรม ตามประทีปแล้วประกาศเชิญคนมาฟังธรรม
คราวหนึ่งพระให้สามเณรขึ้นแสดงธรรมแก่ญาติโยม ปรากฏว่าสามเณรเทศน์อย่างจับใจ เทศน์จบก่อนลงก็จะพูดว่าอาตมาขอมอบส่วนบุญครั้งนี้ให้แก่โยมแม่ ซึ่งโยมแม่ที่สามเณรเอ่ยถึงนั้นเป็นแม่ในอดีตชาติที่ตอนนี้เกิดเป็นยักษิณี ซึ่งได้มาฟังธรรมของสามเณรพร้อมกับเหล่าเทวดาด้วย ซึ่งยักษิณีได้อนุโมทนาส่วนบุญที่สามเณรอุทิศให้ด้วย
สามเณรรูปนี้ได้เป็นที่รักของเหล่ามนุษย์และเทวดา โดยเฉพาะเทวดาให้ความเคารพมากพร้อมทั้งพลอยให้ความเคารพยักษิณีนั้นด้วย
ต่อมาเมื่อสามเณรโตขึ้นเป็นหนุ่มแล้วเกิดอยากสึก แต่ไม่กล้าบอกใครแม้กระทั่งอุปัชฌาย์ ปล่อยตัว ไม่ยอมโกนผม ปล่อยเล็บมือเล็บเท้ายาว เก็บตัวเงียบ เมื่อรู้ตัวว่าไม่ไหวก็ไปหาโยมแม่ที่บ้าน เล่าความจริงให้ฟัง ซึ่งแม่ก็ไม่ขัดขวางพร้อมเอาชุดฆราวาสมาให้
แต่ขณะที่สามเณรกำลังดื่มยาคูไปพลางฉันอาหารไปพลางนั้น ยักษิณีแม่ในอดีตก็ตรวจดูด้วยความเป็นห่วงว่าได้ฉันอาหารหรือยัง ก็ทราบว่าสามเณรกำลังดื่มยาคูที่บ้าน และทราบด้วยความคิดว่าสามเณรกำลังอยากสึก แต่ตนไม่ประสงค์ให้สึกจึงคิดที่จะไปขวาง
ยักษิณีจึงไปขัดขวางด้วยการเข้าสิงร่างสามเณร ทำให้คอบิด ปากเบี้ยว หงายหลังตึงบนพื้น ดิ้นทุรนทุราย นัยน์ตาเหลือก น้ำลายไหล ฝ่ายแม่เห็นลูกเป็นอย่างนั้นก็ประคองพาดบนตัก ส่วนเพื่อนบ้านก็วิ่งมาดูต่างก็แน่ใจว่าสามเณรถูกผีสิงจึงช่วยทำพิธีขับไล่ ผี
ฝ่ายโยมแม่กลัวลูกตายก็ได้ร้องไห้คร่ำครวญว่า “พระอรหันต์สอนไว้ซึ่งแม่ก็ได้ยินมาว่าคนใดที่ประพฤติพรหมจรรย์ รักษาศีลอุโบสถในวัน 8 ค่ำ 14 ค่ำ 15 ค่ำ ยักษ์ย่อมไม่เล่นกับคนนั้น แต่มาวันนี้ และเดี๋ยวนี้แม่เห็นว่ายักษ์ทั้งหลายกำลังเล่นอยู่กับสานุสามเณร”
นางยักษ์ฟังคำของแม่สามเณรก็ได้กล่าวตอบว่า คำสอนดังกล่าวที่ท่านได้ยินมาถูกต้องแล้ว จากนั้นก็กล่าวต่อไปว่า ขอสานุสามเณรอย่าได้ทำบาป ทั้งที่ลับที่แจ้ง ถ้าทำจักไม่มีทางพ้นทุกข์ จากนั้นก็ออกจากร่างสามเณร
สามเณรพอรู้สึกตัว ลืมตาขึ้นมาเห็นโยมแม่ร้องไห้ คนมามุงดูเยอะก็สงสัย จึงถามโยมแม่ว่าเกิดอะไรขึ้น เมื่อได้รู้ความจริงสามเณรจึงไม่คิดที่จะสึกอีกเลย
จะเรียกว่าผีสิงหรือวิญญาณสิงหรือยักษ์สิงก็สุดแต่ แต่เรื่องแบบนี้มีจริงในโลกใบนี้
--------------------
ที่มา:โพสต์ทูเดย์
เณรโดนยักษ์สิงร่าง
รูปภาพประกอบกระทู้จากอินเตอร์เน็ต
โดย...อ.ตุ้ย วรธรรม
เรื่องวิญญาณสิงร่างคนยอมรับว่าตอนเป็นเด็กเคยเห็นและเห็นบ่อย เพราะเมื่อมีเหตุการณ์เกิดขึ้นก็วิ่งไปดู ซึ่งก็จะเห็นคนที่ถูกสิงแสดงกิริยาอาการ ท่าทาง ตลอดจนคำพูดแปลกๆ ออกมา ซึ่งไม่ใช่ของคนที่กำลังถูกสิงร่าง
โดยเฉพาะคำพูดที่เปล่งออกมาบ่งบอกชัดเจน เพราะผู้ที่สิงร่างมีการบอกชื่อแซ่ของตนว่าเป็นใคร ชื่ออะไร มาจากไหน พร้อมบอกเหตุผลที่มาสิงร่างคนคนนั้นเมื่อถูกหมอธรรมถาม เป็นต้นว่าเพราะคนคนนั้นไปแสดงกิริยาอาการไม่ดีหรือลบหลู่ต่อเขา ต่อสถานที่ที่เขาสถิตอยู่ จึงต้องการสั่งสอน
ญาติผมเองก็เคยเจอกับปรากฏการณ์นี้มาแล้ว เพราะไปถางไม้บนจอมปลวกใหญ่พร้อมจุดไฟเผาไม้บนนั้น ทำให้เขาต้องเดือดดาลใจที่ไปทำลายที่อยู่ของเขา กว่าจะหายเป็นปกติก็เมื่อหมอธรรมแนะนำให้แต่งขันธ์ห้าขันธ์แปดพร้อมของเซ่น ไปทำพิธีขอขมาคนที่ถูกสิง จึงหายกลับเป็นปกติดังเดิม
ในสมัยพุทธกาลก็มีเรื่องแบบนี้และเกิดขึ้นที่วัด โดยเกิดขึ้นกับสามเณรรูปหนึ่งชื่อสานุสามเณร ซึ่งสามเณรรูปนี้เคร่งในศีลมาก ทุกวันจะตื่นแต่เช้าเพื่อตักน้ำใส่ตุ่ม เก็บกวาดโรงธรรม ตามประทีปแล้วประกาศเชิญคนมาฟังธรรม
คราวหนึ่งพระให้สามเณรขึ้นแสดงธรรมแก่ญาติโยม ปรากฏว่าสามเณรเทศน์อย่างจับใจ เทศน์จบก่อนลงก็จะพูดว่าอาตมาขอมอบส่วนบุญครั้งนี้ให้แก่โยมแม่ ซึ่งโยมแม่ที่สามเณรเอ่ยถึงนั้นเป็นแม่ในอดีตชาติที่ตอนนี้เกิดเป็นยักษิณี ซึ่งได้มาฟังธรรมของสามเณรพร้อมกับเหล่าเทวดาด้วย ซึ่งยักษิณีได้อนุโมทนาส่วนบุญที่สามเณรอุทิศให้ด้วย
สามเณรรูปนี้ได้เป็นที่รักของเหล่ามนุษย์และเทวดา โดยเฉพาะเทวดาให้ความเคารพมากพร้อมทั้งพลอยให้ความเคารพยักษิณีนั้นด้วย
ต่อมาเมื่อสามเณรโตขึ้นเป็นหนุ่มแล้วเกิดอยากสึก แต่ไม่กล้าบอกใครแม้กระทั่งอุปัชฌาย์ ปล่อยตัว ไม่ยอมโกนผม ปล่อยเล็บมือเล็บเท้ายาว เก็บตัวเงียบ เมื่อรู้ตัวว่าไม่ไหวก็ไปหาโยมแม่ที่บ้าน เล่าความจริงให้ฟัง ซึ่งแม่ก็ไม่ขัดขวางพร้อมเอาชุดฆราวาสมาให้
แต่ขณะที่สามเณรกำลังดื่มยาคูไปพลางฉันอาหารไปพลางนั้น ยักษิณีแม่ในอดีตก็ตรวจดูด้วยความเป็นห่วงว่าได้ฉันอาหารหรือยัง ก็ทราบว่าสามเณรกำลังดื่มยาคูที่บ้าน และทราบด้วยความคิดว่าสามเณรกำลังอยากสึก แต่ตนไม่ประสงค์ให้สึกจึงคิดที่จะไปขวาง
ยักษิณีจึงไปขัดขวางด้วยการเข้าสิงร่างสามเณร ทำให้คอบิด ปากเบี้ยว หงายหลังตึงบนพื้น ดิ้นทุรนทุราย นัยน์ตาเหลือก น้ำลายไหล ฝ่ายแม่เห็นลูกเป็นอย่างนั้นก็ประคองพาดบนตัก ส่วนเพื่อนบ้านก็วิ่งมาดูต่างก็แน่ใจว่าสามเณรถูกผีสิงจึงช่วยทำพิธีขับไล่ ผี
ฝ่ายโยมแม่กลัวลูกตายก็ได้ร้องไห้คร่ำครวญว่า “พระอรหันต์สอนไว้ซึ่งแม่ก็ได้ยินมาว่าคนใดที่ประพฤติพรหมจรรย์ รักษาศีลอุโบสถในวัน 8 ค่ำ 14 ค่ำ 15 ค่ำ ยักษ์ย่อมไม่เล่นกับคนนั้น แต่มาวันนี้ และเดี๋ยวนี้แม่เห็นว่ายักษ์ทั้งหลายกำลังเล่นอยู่กับสานุสามเณร”
นางยักษ์ฟังคำของแม่สามเณรก็ได้กล่าวตอบว่า คำสอนดังกล่าวที่ท่านได้ยินมาถูกต้องแล้ว จากนั้นก็กล่าวต่อไปว่า ขอสานุสามเณรอย่าได้ทำบาป ทั้งที่ลับที่แจ้ง ถ้าทำจักไม่มีทางพ้นทุกข์ จากนั้นก็ออกจากร่างสามเณร
สามเณรพอรู้สึกตัว ลืมตาขึ้นมาเห็นโยมแม่ร้องไห้ คนมามุงดูเยอะก็สงสัย จึงถามโยมแม่ว่าเกิดอะไรขึ้น เมื่อได้รู้ความจริงสามเณรจึงไม่คิดที่จะสึกอีกเลย
จะเรียกว่าผีสิงหรือวิญญาณสิงหรือยักษ์สิงก็สุดแต่ แต่เรื่องแบบนี้มีจริงในโลกใบนี้
--------------------
ที่มา:โพสต์ทูเดย์
เณรโดนยักษ์สิงร่าง
รูปภาพประกอบกระทู้จากอินเตอร์เน็ต
THEPOco
