โรคเกี่ยวกับผม ทั้งสุภาพบุรุษ และจำเป็นมากสำหรับสตรี

โรคเกี่ยวกับผม 1. ผมร่วง, ผมหงอกก่อนวัย, บำรุงผม 5. ผมแตกปลาย 2. ผมร่วงเป็นหย่อมๆ 6. ล้างคราบแชมพูหรือสบู่ 3. ผมมีน้ำมันมากเกินไป 7. ยาสระผม 4. รังแคคัน 8. เหา

1. ผมร่วง, ผมหงอกก่อนวัย, บำรุงผม

ขนานที่ 1
ใช้น้ำมันมะกอกทาผมให้ทั่วแล้วนวดศีรษะสักพัก แล้วค่อยสระผมด้วยสบู่หรือแชมพู ทำอาทิตย์ละ 2 ครั้ง ประมาณ 2-4 อาทิตย์ ผมจะหายร่วง ขนานที่ 2
เอาลูกมะกรูดแก่ 2 ลูกย่างไฟให้สุกจนนิ่ม ถ้ามีเตาอั้งโล่ให้ใส่ใต้เตาอั้งโล่ขณะที่ใช้เตาทำกับข้าวอยู่ เมื่อมะกรูดนิ่มดีแล้ว เอามาขยำกับน้ำอุ่นๆ ทิ้งไว้ให้เย็น กรองเอาน้ำมันมาสระผม นวดผมให้ทั่วหลังสระผมด้วยสบู่หรือแชมพูแล้ว (ถ้าใช้น้ำซาวข้าวแทนน้ำจะทำให้ยาออกฤทธิ์ดีขึ้น และถ้าไม่มี เตาอั้งโล่ จะใช้น้ำมะกรูดดิบๆ ก็ได้ แต่ฤทธิ์อ่อนกว่ามะกรูดเผา) ขนานที่ 3
ใช้น้ำมันมะกอกนวดศีรษะเอาผ้าโพกหัวทิ้งไว้ประมาณ 1 ชั่วโมง และเอาผลมะกรูดเผาไฟพอสุก เอามาขยำกับน้ำ เอาน้ำที่คั้นได้สระผม ขนานที่ 4
ใช้น้ำเมือกว่านหางจระเข้ใส่ผมจนทั่ว อย่าให้เปียกมากเกินไปปล่อยทิ้งไว้ประมาณ 10 นาที ผมจะแห้ง น้ำเมือกไม่ทำให้ผมเหนียวหรือแฉะ ใส่ผมเช้าเย็นและหลังจากสระผม

2. ผมร่วงเป็นหย่อมๆ
อาจเกิดจากเชื้อรา ให้ใช้ยาดังต่อไปนี้

ขนานที่ 1
สระผมให้สะอาดเสียก่อน เอาใบทองพันชั่งตำจนละเอียดผสมน้ำพอเหนียว นำไปพอก บริเวณศีรษะที่ผมร่วง ให้ใช้ผ้าคลุมไว้ที่ศีรษะหนึ่งคืน รุ่งเช้าไปล้างออก ทำติดต่อกัน 15-30 วัน (ทอง พันชั่งมีฤทธิ์ยับยั้งเชื้อราจึงอาจช่วยได้) ขนานที่ 2
ใช้น้ำมันละหุ่ง 8 ช้อนโต๊ะ (ถ้าไม่มีใช้น้ำมันมะพร้าวหรือใช้น้ำมันพืชหรือน้ำมันมะกอกแทน)กระเทียม 8 กลีบใหญ่ ปอกเปลือกกระเทียมหั่นหรือบด ใส่ลงในน้ำมันร้อนๆ ปิดฝาตั้งทิ้งไว้วันครึ่ง (36 ชม.) เอาน้ำมันมานวดศีรษะให้ทั่ว เมื่อนวดดีแล้วใช้ผ้าขนหนูอ่อนๆ พันเอาไว้อย่างน้อย 1 ชั่วโมง จึงสระผมด้วยแชมพู (กระเทียมมีฤทธิ์ฆ่าเชื้อราได้ดีจึงอาจใช้รักษาได้) ขนานที่ 3
เอาลูกมะกรูดแก่ 2 ลูกย่างไฟให้สุกจนนิ่ม ถ้ามีเตาอั้งโล่ให้ใส่ใต้เตาอั้งโล่ขณะที่ใช้เตาทำกับข้าวอยู่ เมื่อมะกรูดนิ่มดีแล้ว เอามาขยำกับน้ำอุ่นๆ ทิ้งไว้ให้เย็น กรองเอาน้ำมันมาสระผม นวดผมให้ทั่วหลังสระผมด้วยสบู่หรือแชมพูแล้ว (ถ้าใช้น้ำซาวข้าวแทนน้ำจะทำให้ยาออกฤทธิ์ดีขึ้น และถ้าไม่มี เตาอั้งโล่ จะใช้น้ำมะกรูดดิบๆ ก็ได้ แต่ฤทธิ์อ่อนกว่ามะกรูดเผา)

3. ผมมีน้ำมันมากเกินไป
โดยทั่วไปผมที่มันเกินไปเกิดจากอาหาร ให้สังเกตจากอาหารที่กินแล้วทำให้ผมมีน้ำมันมากและ พยายามเว้นอาหารนั้นเสีย

ขนานที่ 1
ใช้น้ำมันละหุ่ง 8 ช้อนโต๊ะ (ถ้าไม่มีใช้น้ำมันมะพร้าวหรือใช้น้ำมันพืชหรือน้ำมันมะกอกแทน)กระเทียม 8 กลีบใหญ่ ปอกเปลือกกระเทียมหั่นหรือบด ใส่ลงในน้ำมันร้อนๆ ปิดฝาตั้งทิ้งไว้วันครึ่ง (36 ชม.) เอาน้ำมันมานวดศีรษะให้ทั่ว เมื่อนวดดีแล้วใช้ผ้าขนหนูอ่อนๆ พันเอาไว้อย่างน้อย 1 ชั่วโมง จึงสระผมด้วยแชมพู (กระเทียมมีฤทธิ์ฆ่าเชื้อราได้ดีจึงอาจใช้รักษาได้ ขนานที่ 2
เอาลูกมะกรูดแก่ 2 ลูกย่างไฟให้สุกจนนิ่ม ถ้ามีเตาอั้งโล่ให้ใส่ใต้เตาอั้งโล่ขณะที่ใช้เตาทำกับข้าวอยู่ เมื่อมะกรูดนิ่มดีแล้ว เอามาขยำกับน้ำอุ่นๆ ทิ้งไว้ให้เย็น กรองเอาน้ำมันมาสระผม นวดผมให้ทั่วหลังสระผมด้วยสบู่หรือแชมพูแล้ว (ถ้าใช้น้ำซาวข้าวแทนน้ำจะทำให้ยาออกฤทธิ์ดีขึ้น และถ้าไม่มี เตาอั้งโล่ จะใช้น้ำมะกรูดดิบๆ ก็ได้ แต่ฤทธิ์อ่อนกว่ามะกรูดเผา)

4. รังแคคัน

ขนานที่ 1
หาบวบอ่อนๆ มา 1 ลูก ปอกเปลือกออกหั่นเป็นท่อนๆ แล้วเอามาทาที่ศีรษะจนหมด ทิ้งไว้สัก 15 นาทีจึงล้างออก ขนานที่ 2
ใช้ผ้าจุ่มลงในน้ำส้มสายชูสักเล็กน้อยแล้วเช็ดให้ทั่วศีรษะ ทิ้งไว้ไม่ต้องล้างออก ทำก่อนนอน ขนานที่ 3
เอาบวบขมแก่ๆ สัก 2-3 ลูก กะเทาะเปลือกออกเสีย ราดผมให้เปียกชุ่มเอาบวบที่กะเทาะเปลือกออกแล้วเหลือแต่ซัง ขยี้บนศีรษะให้ทั่ว จะเกิดฟองเหมือนแชมพูสระผมทั่วไป ทิ้งไว้สัก 15 นาทีแล้วล้างออก ทำเวลาจะสระผม ทำสักสามครั้งรังแคจะหาย อีกวิธีหนึ่งให้เอาบวบขมแก่ๆ มา 1 ลูกหักออกสองท่อน ใช้ถูศีรษะให้ทั่วจนหมดบวบทั้งสองท่อน ทิ้งไว้สักครู่แล้วเอาน้ำล้างศีรษะให้สะอาด

5. ผมแตกปลาย
เพราะผมแห้งเนื่องจากถูกแดดถูกลมมากไป หรือใช้แชมพูและสบู่ที่เป็นด่างมากไป

ขนานที่ 1
ให้ใช้ต้นตะไคร้สดๆ 2-3 ต้น ตำให้ละเอียด บีบน้ำออก (ถ้ามีน้ำน้อยให้เติมน้ำลงไปพอให้คั้นน้ำได้) กรอง นำน้ำที่ได้มานวดผม หลังจากสระผมเสร็จแล้ว ทิ้งไว้สัก 10 นาที แล้วสระผมด้วยน้ำสะอาดทำทุกครั้งที่สระผม ประมาณ 2 เดือน ผมจะกลับเป็นปกติ ขนานที่ 2
ใช้น้ำมันมะกอกทาผมให้ทั่วแล้วนวดศีรษะสักพัก แล้วค่อยสระผมด้วยสบู่หรือแชมพู ทำอาทิตย์ละ 2 ครั้ง ประมาณ 2-4 อาทิตย์ ผมจะหายร่วง ขนานที่ 3
ใช้ลูกมะกรูดตามหัวข้อ 1 ขนานที่ 2

6. ล้างคราบแชมพูหรือสบู่
        คราบสบู่หรือแชมพูที่ติดอยู่กับหนังศีรษะ หลังจากสระผมแล้วจะทำให้หนังศีรษะเป็นด่างมากเกินไป ทำให้เส้นผมเสียได้ ปกติหนังศีรษะมีฤทธิ์เป็นกรดอ่อนๆ การล้างผมด้วยน้ำมะกรูดหรือน้ำมะนาวหรือ น้ำสัมสายชูจะช่วยล้างคราบแชมพูและปรับหนังศีรษะให้เป็นกรดเหมือนเดิม วิธีล้างคือหลังจากสระผมด้วยสบู่หรือแชมพูแล้ว เอาน้ำมะกรูดหรือน้ำส้มสายชูอย่างใดอย่างหนึ่งสัก 1-2 ช้อนชามาสระผมนวดศีรษะให้ทั่ว ประมาณ 4-5 นาทีแล้วใช้น้ำสะอาดล้างจนสะอาด

7. ยาสระผม
       สมุนไพรที่ใช้แทนแชมพูเป็นสมุนไพรที่มีสารพวกชาโปนิน ซึ่งเป็นสารที่เมื่อตีกับน้ำแล้วเกิดฟอง เหมือนฟองสบู่ และชะล้างสิ่งสกปรกออกจากผมได้ ที่นิยมให้กันในสมัยก่อนคือฝักส้มป่อยแก่ วิธีใช้เอาฝักแก่และแห้ง 4-5 ฝักหักและตีกับน้ำ 1 ลิตรใช้สระผม สมุนไพรอีกอย่างคือมะกรูด วิธีใช้คือใช้น้ำเปล่าเคล้าเส้นผมจนเปียกดี แล้วใช้มะกรูดลูกใหญ่ๆ แก่ๆ 1 ลูก ผ่าซีกบีบเอาน้ำใส่ผมนวดศีรษะให้ทั่วประมาณ 4-5 นาที แล้วล้างน้ำออกให้หมดถ้าต้องการได้รับประโยชน์จากมะกรูดเต็มที่ให้ย่างหรือเผามะกรูดให้นิ่มเสียก่อนแล้วเอามาขยำใน น้ำอุ่นๆ จนละเอียดดีแล้วกรองเอาน้ำที่ได้นี้มานวดผมเช่นเดียวกับข้างต้น น้ำมันจากผิวมะกรูดช่วยบำรุง เส้นผมได้ดีมาก

8. เหา

ขนานที่ 1
ใช้น้ำส้มสายชูชโลมศีรษะ เอาผ้าโพกไว้สักครึ่งชั่วโมงค่อยสระผม แล้วเอาหวีถี่ๆสางเอาตัวและไข่เหาออก หลังจากนั้น 2 อาทิตย์ทำอีกครั้งหนึ่ง และหลังจากนั้นอีก 2 อาทิตย์จึงทำอีกครั้งหนึ่ง น้ำส้มสายชูทำ ให้ไข่เห่าร่วงหลุดไปได้ (ให้ใช้น้ำส้มสายชูแท้เท่านั้น) ขนานที่ 2
เอาผลมะกรูดใบใหญ่ที่แก่จัดน้ำมาก นำไปเผาไฟหรือย่างไฟให้สุก ทิ้งไว้ให้เย็น เอามาคลึงให้มีน้ำมากๆ ผ่าครึ่งบีบน้ำลงบนหัวขยี้ให้ทั่วใช้หวีถี่ๆสางเส้นผมจะมีไข่เหาติดออกมา ทำอาทิตย์ละครั้งทำทั้งหมด 3 ครั้ง ขนานที่ 3
เอาใบน้อยหน่ามา 5-8 ใบโขลกให้ละเอียด ผสมน้ำและทาผมให้ทั่ว เอาผ้าคลุมไว้สักครึ่งชั่วโมงจึงล้าง น้ำออก ฟอกด้วยยาสระผมอีกครั้งหนึ่ง แล้วใช้หวีถี่ๆ สางเอาตัวและไข่เหาออก ข้อควรระวัง อย่าให้น้ำน้อยหน่าเข้าตา เพราะจะแสบตามาก ขนานที่ 4
เอาใบสะเดาแก่ๆ สัก 2-3 กำมือ โขลกให้ละเอียดผสมน้ำพอเหลวนิดหน่อย ทาผมให้ทั่วปล่อยให้แห้ง แล้วค่อยสระผมด้วยแชมพู ขนานที่ 5
เอาลูกบวบขมแกะเปลือกออก เอาน้ำในลูกบวบขมทาผมให้ทั่ว ทิ้งไว้สัก 2-3 นาที ขนานที่ 6
ใช้ผลมะตูมสุกมาผ่า เอายางจากผลมะตูมสุกทาผม แล้วหวีให้ทั่ว ปล่อยไว้ให้แห้งเหาจะตายหมดแล้ว ล้างน้ำ ต่อจากนั้นจึงหวีออก
กรุณา Login เพื่อแสดงความคิดเห็น
ส่ง Scoop ให้เพื่อน
แจ้งลบไม่เหมาะสม
ความคิดเห็น

เรื่องอื่นๆ ที่น่าสนใจ

Loading...